สาวหายป่วยโควิดก้มเก็บมือถือร่วงตกกะป๊อดับ พยานเผยแมสก์ปลิว คนผวาปล่อยสิ้นใจ (คลิป)
จากกรณีวันที่ 20 ส.ค.64 เวลา 20.30 น. พันตำรวจโทอาทิตย์ ศรีสุพจน์ สว.สอบสวน สน.ทุ่งครุ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุตกรถซูบารุ รับจ้างประจำทางสาย 99 บริเวณกลางถนนประชาอุทิศ ฝั่งตรงข้ามปั้มน้ำมันซัสโก้ จึงเร่งรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 รายชื่อ นางสาวสลิลทิพย์ ทันจิตร์วัฒนะ อายุ 45 ปี อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่กับพื้นกลางถนน ลักษณะสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีส้ม กางเกงขายาวสีดำ และภายในที่เกิดเหตุมีกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงสีดำตกอยู่ข้างลำตัว 1 ใบ มีทรัพย์สินหลายรายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการบันทึกภาพภายในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมด
นางกชพรรณ อายุ 55 ปี พนักงานกวาดถนน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองเป็นพนักงานกวาดถนน ช่วงเวลา 17.30 น. ตนเองกำลังกลับบ้านจากเลิกทำงาน เพื่อที่จะมาแวะซื้ออาหาร ระหว่างนั้นเอง ตนเองก็เห็นรถซูบารุคันสีแดงขับผ่านไป และเห็นหญิงสาว กระโดดลงคล้ายจะเก็บโทรศัพท์มือถือ ที่หล่นบนพื้นถนน ซึ่งตนเองเห็นและตกใจกับเหตุการณ์มาก
ซึ่งต่างมีผู้คนมุงดูเหตุการณ์กันหลายคน และต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาตรวจวัดชีพจร โดยในขณะนั้นหญิงสาวรายดังกล่าวยังคงมีชีพจรเต้นอยู่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือทำ CPR ทำการปั๊มหัวใจ เนื่องจากหญิงสาวรายดังกล่าวไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย พบว่ามีหน้ากากตกอยู่ข้างกาย จึงไม่มีใครกล้าให้การช่วยเหลือ แต่ได้ประสานกู้ภัยให้เข้ามายังที่เกิดเหตุ
โดยเวลานานกว่าเกือบ 1 ชั่วโมง กว่าเจ้าหน้าที่พร้อมชุด PPE จะเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาวรายดังกล่าว พร้อมนำถังออกซิเจนเข้ามาทำ CPR ปั๊มหัวใจ ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์แต่ถ้าหากผู้เสียชีวิตกดกริ่งให้รถจอด คาดว่าอาจจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
น.ส.กฤตพร ทันจิตร์วัฒนะ อายุ 45 ปี ญาติผู้ตาย บอกว่า ตนเองกับผู้ตายเป็นลูกพี่ลูกน้อง ผู้ตายทำงานที่ทำงานเดียวกันกับตนมานานกว่า 4 ปี เวลาประมาณ 17.00 น. ตนเองเพิ่งจะได้ร่ำลากลับบ้านก่อนออกจาบริษัท จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 20.40 น. ทางครอบครัวก็ได้โทรศัพท์มาหาตนเองว่านางสาวสลิลทิพย์เสียชีวิตแล้ว ตนเองยอมรับตกใจมากจึงได้โทรศัพท์เข้าหาเบอร์ของ นางสาวสลิลทิพย์ มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเป็นคนรับโทรศัพท์ และทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่าผู้ตายเล่นโทรศัพท์อยู่ และรถที่จอดติดอยู่นั้น จู่ ๆ โทรศัพท์ของผู้ตายกระเด็นร่วงหล่นตกลงบนพื้น ซึ่งผู้ตายพยายามกระโดดลงจากรถเพื่อจะหยิบโทรศัพท์ แต่ไม่ได้มีการกดกริ่งให้รถหยุด ในขณะเดียวกันกับที่รถซูบารุกำลังเร่งเครื่องออกพอดี จนทำให้ผู้ตายอาจจะเสียหลัก และกระแทกพื้นร่างตกลงจากรถ
โดยผู้ตายนั้นติดโควิด-19 เมื่อปลายเดือนมิถุนายน และพักรักษาตัวจนหายป่วยจากโควิด-19 แล้วกลับมาทำงานเมื่อต้นเดือนสิงหาคม แล้วมาทำงานปกติได้ไม่นาน ตอนเกิดเหตุเป็นเวลาเลิกงานที่เขากำลังจะกลับบ้านอยู่ที่สาทร ยอมรับว่าเสียใจมาก หากถ้ามีพลเมืองดีเห็นและช่วยเหลือในตอนที่ผู้เสียชีวิตตกลงสู่พื้น ช่วยปั๊มหัวใจอาจจะยื้อชีวิตเอาไว้ได้ แต่ก็เข้าใจว่าสถานการณ์ปัจจุบันนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปให้การช่วยเหลือ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวินรถซูบารุ ด้โทรศัพท์สอบถามนายคมกฤษ อายุ 53 ปี คนขับรถ เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุนั้นตนเองก็ได้ขับรถมาปกติ ด้วยความเร็วประมาณ 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตนเองวิ่งรถทางด้านเลยซ้ายสุด ถึงคอสะพานก็ชะลอรถตามปกติ และเมื่อลงผ่านสะพานบริเวณถนนจะมีฝาท่อ รถก็ขับตามปกติ และคาดว่าผู้ตายทำโทรศัพท์ตก กระโดดพุ่งออกจากรถ จนมีคนตะโกนบอกว่ามีคนกระโดดออกจากรถ ตนเองจึงรีบเหยียบเบรก รถห่างจากจุดที่ผู้ตายตกลงพื้นไม่เกิน 10 เมตร อีกทั้ง พบว่าบาดแผลของผู้เสียชีวิตแทบไม่มีเลย
ตนเองยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงการกดกริ่ง ยอมรับว่าตกใจมาก จึงต้องรีบประสานโทรหาประกัน แจ้งกู้ภัย จนกู้ภัยเข้ามาก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปปั๊มหัวใจ ในขณะนั้นหญิงสาวยังคงหายใจอยู่ สาเหตุที่ไม่มีใครกล้าช่วยเหลือ เนื่องจากไม่มีชุด PPE ป้องกัน กลัวเรื่องโควิด-19 เพราะจากที่เห็นหญิงสาวนอนอยู่บนพื้นถนนนั้น ตนเองก็ไม่เห็นว่าผู้เสียชีวิตสวมใส่หน้ากากอนามัย
Advertisement
