เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 24 ก.ย. 64 ตำรวจ สภ.รัษฏา ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย หน้าบ้านหมู่ 8 บ้านหนองครก ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านปูนชั้นเดียว ริมถนนดินแดงหน้าบ้าน พบร่างนายสมพงศ์ นิลละออ หรือ พงศ์ อายุ 46 ปี น้องชายคนก่อเหตุ อาชีพทำสวน สภาพศพนอนหงายหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ กระสุนเจาะเข้ากลางหน้าอก เป็นแผลพรุน
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นพี่ชายคนโตของผู้ตาย ทราบชื่อคือ นายสมพร นิลละออ อายุ 51 ปี อาชีพทำสวน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ หลังก่อเหตุได้หลบหนีทันทีนั้น
ทีมข่าวลงพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.รัษฎา ที่เกิดเหตุ พบว่ายังคงมีกองเลือดของคนตายติดอยู่บนพื้นดินหน้าบ้าน ที่เกิดเหตุยังคงมีรองเท้าสีเหลืองของคนตายวางอยู่ 1 คู่ ผ้าห่มสีฟ้าที่ใช้คลุมศพหลังจากถูกยิง 1 ผืน และยังมีเศษสร้อยคอเรทเงินขาดอยู่
นางสาวนุ่น (นามสมมติ) หลานคนตาย เปิดใจเล่าว่า ตัวของนายสมพงษ์ คนตาย เป็นน้องชายของนายสมพร คนก่อเหตุ ซึ่งโดยปกติ 2 พี่น้องก็จะไปมาหาสู่และทักทายกันเป็นอย่างดี มีอะไรก็แบ่งปัน และไม่เคยทะเลาะหรือมีปากเสียงอะไรกัน
แต่เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ตัวของนายสมพงษ์ คนตาย ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์มาที่หน้าบ้าน จากนั้นตะโกนเสียงดัง เพื่อสั่งให้นายสมพรพี่ชายออกมาจากตัวบ้าน และมีการกระโดดถีบประตูไม้หน้าบ้านอย่างรุนแรง สะเทือนไปถึงบ้านของตัวเองที่อยู่ด้านหลัง และทั้งคู่ก็ออกมามีปากเสียงกันอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งเสียงดังมาก แต่ตนเองจับใจความไม่ได้
ได้ยินแต่ประโยคเดียวพูดว่า "ถ้ามึงไม่อยากตาย ให้ออกไปจากที่นี่" ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้น ตนเองก็ได้มาดูที่เกิดเหตุ มีเพียงร่างของนายสมพงษ์นอนตายจมกองเลือด แต่ตัวของนายสมพรพี่ชายคนที่ก่อเหตุไม่ได้อยู่ด้วย คาดว่าหลบหนีทันทีหลังจากก่อเหตุ
โดยนิสัยของนายสมพร คนก่อเหตุ ปกติหากไม่ดื่มเหล้าก็จะไม่มีอาการคิดไปเอง หรือเกิดความระแวง แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาคาดว่ามีการดื่มเหล้าหนัก จึงได้ระแวงหรือมีความกังวลเกี่ยวกับตัวของนายสมพงษ์น้องชายจะมาแย่งที่ทำกิน เพราะแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการอนุญาตให้นายสมพงษ์ใช้พื้นที่เพาะเลี้ยงสุนัขได้ แต่หลังจากที่กินเหล้าเข้าไปแล้ว อาจคิดและระแวงว่าถ้าให้นายสมพงษ์ คนตาย ใช้พื้นที่เลี้ยงหมาหรือทำธุรกิจกลัวว่าที่ดินหรือที่ดังกล่าวจะถูกฮุบไป จึงเกิดความไม่พอใจไปหรือถอนเสาหลัก ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างกรงเลี้ยงหมา พันธุ์ไทยหลังอาน
หลังจากที่มีการไปหรือถอนเสาหลัก จึงทำให้ตัวของผู้ตายเกิดความไม่พอใจ เข้ามามีปากเสียงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และสาเหตุในครั้งนี้ก็เชื่อว่าเป็นเพราะที่ดิน และตัวคอกหมูเก่าที่มีการดัดแปลงเป็นที่เลี้ยงหมา เป็นชื่อของนายสมพร คนก่อเหตุ แต่ตัวของนายสมพงษ์ คนตาย กลับมาใช้พื้นที่จึงกลัวว่าจะถูกแย่งไป
ล่าสุด ตำรวจ สภ.รัษฏา ได้มีการอนุมัติขอออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อติดตามตัวนายสมพร นิลละออ คนก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น มีชุดสืบสวนแกะรอยจากกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งมีการสืบทราบเส้นทางการหลบหนีโดยเบื้องต้นแล้ว
นางสาวเดือน (นามสมมติ) ลูกสาวของคนก่อเหตุ พาทีมข่าวไปดูกรงเลี้ยงหมาที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเพื่อจะทำเป็นฟาร์มเลี้ยงหมาไทยหลังอาน พบว่าตัวอาคารที่สร้างเป็นกรงหรือคอกหมูเก่า ถูกดัดแปลงและฉาบใหม่ ส่วนบริเวณลานหญ้าด้านหน้าคอกหมูเก่า มีเสาปูนล้มระเนระนาด ถอนจากจำนวนเสาทั้งหมด 23 ต้น ล้มไปกว่า 20 ต้น
นางสาวเดือน เล่าว่า หลังจากที่พ่อก่อเหตุแล้วไม่รู้ว่าหลบหนีหรือไปอยู่ที่ไหน เพราะตอนนี้ยังขาดการติดต่อ แต่ก่อนออกไปมีเพื่อนสนิทสาวเป็นคนมารับ หากเป็นไปได้ตนเองก็อยากให้พ่อมอบตัว ไม่อยากให้หนี เพราะในเมื่อทำผิดแล้วก็อยากให้มีการออกมารับผิดต่อการกระทำของตัวเอง เพราะตอนนี้ตนเองก็ยังทำใจไม่ได้ เนื่องจากคนที่ตายก็เป็นน้องชายของพ่อเอง
ส่วนคอกหมูเก่า พื้นที่ที่จะทำเป็นฟาร์มหรือคอกเลี้ยงหมาไทยหลังอาน เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของนายสมพร พ่อของตนเอง แต่หลังจากที่นายสมพงษ์คนตาย ผลโทษในคดียาเสพติดมาเมื่อ 1 ม.ค. ไปติดคุกอยู่ประมาณ 10 ปี กลับออกมาก็ทำมาหากินสุจริต และเตรียมที่จะตั้งตัว ด้วยการทำฟาร์มเลี้ยงหมาหลังอาน ซึ่งมีการคุยกับพ่อ พร้อมทั้งมีการขออนุญาตที่จะเลี้ยงหมา จึงได้พากันมาดัดแปลงและต่อเติม แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะจนกระทั่งยิงกันตาย แต่ก่อนหน้านี้พ่อได้ลงทุนที่จะเลี้ยงหมู แต่ไม่ผ่านระบบสาธารณูปโภค เพราะเนื่องจากการเลี้ยงหมูจะส่งกลิ่นเหม็น ประกอบกับอยู่ต้นน้ำระบบประปา ซึ่งถ้าหากเลี้ยงหมูก็กลัวว่าจะลงสู่ระบบประปาของหมู่บ้าน จึงไม่ได้รับอนุญาตให้เลี้ยงหมู ตัวของนายสมพงษ์คนตาย จึงมาของใช้พื้นที่ทำมาหากินแทน โดยการทำคอกเลี้ยงหมา
Advertisement