อดีตผู้บริหารหญิงเมาแล้วขับ ขอต่อสู้ในชั้นศาล แจงเหตุปี 65 แค่สเปรย์แอลกอฮอล์

1 พ.ค. 67

อดีตผู้บริหารหญิง รับดื่มเกินปริมาณ อ้างถูกของแข็งฝั่งตำรวจกระแทก มีใบรับรองแพทย์ ขอไปสู้ในชั้นศาล แจงเหตุปี 65 แค่สเปรย์แอลกอฮอล์

จากเหตุการณ์ อดีตผู้บริหารหญิง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับในข้อหาเมาแล้วขับ และกลับต่อสู้ขัดขวางถึงขั้นถีบหน้า พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. ระหว่างนำตัวขึ้นรถส่งดำเนินคดีที่ สน.ประเวศ 

เหตุเกิดที่ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ฝั่งตรงข้ามมัสยิด ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เมื่อคืนวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนผู้บริหารหญิงรายนี้ชี้แจงไม่ใช่ความจริงทั้งหมด และถูกบิดเบือน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ต่อมาวันที่ 1 พ.ค. 67 คุณเหมียว อดีตผู้บริหารหญิง ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโหนกระแสตอนหนึ่งว่า ตนไม่ใช่ซีอีโอ เพราะเป็นเพียงอดีตพนักงานธรรมดาของบริษัทเอกชนที่มีหน้าที่ดูแลกลุ่มลูกค้าเท่านั้น ทั้งนี้ตนยอมรับว่าทำผิดเรื่องดื่มเกินปริมาณ แต่บางเรื่องไม่ใช่ข้อเท็จจริง จึงอยากชี้แจงว่าตนไม่ใช่ปาร์ตี้ เกิล ปกติหากจะดื่มเฉพาะกับลูกค้าหรือในเชิงธุรกิจและการงานเท่านั้น 

โดยวันเกิดเหตุที่ 24 เม.ย. ได้ไปดินเนอร์และเลิกดึก เหตุการณ์คืนนั้นขับรถมาเจอด่านตรวจแถวบ้าน และเป่าแอลกอฮอล์ทันที พบเกินถึง 108 และเป่าอีกรอบเป็น 104 ตอนลงจากรถ ทำให้ประเด็นนี้ยอมรับและคุยกับตำรวจ โดยตำรวจชี้ให้ไปหาผู้ชายอีก 2 คนที่ขี่รถจักรยานยนต์ในมุมมืด ตอนนั้นรู้สึกกลัวและกลางคืนด้วย เพราะไม่รู้คืออะไร และชาย 2 คนนั้นไม่ได้แต่งเครื่องแบบด้วย จึงรู้สึกงง และเดินมาหาตำรวจอีกที

คุณเหมียว กล่าวว่า ต่อมาตำรวจบอกว่า เชิญไปโรงพักเลย ทำให้งงว่าแล้วจะให้เดินไปหาชาย 2 คนนั้นทำไม อีกทั้งตอนนั้นเป็นห่วงลูกที่อยู่บ้านด้วย ซึ่งตำรวจก็ยังไม่ให้คำตอบว่า ให้เดินไปหาชาย 2 คนนั้นทำไม และมองไปที่โต๊ะทำงานของตำรวจพบห้ามถ่ายคลิป จึงลองหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อหวังให้คลายความสงสัย แต่ตำรวจก็บอกให้ไปโรงพักเลย 

จากนั้นในรายการได้เปิดคลิปที่คุณเหมียวถ่ายคลิปไว้ รายละเอียดในคลิปเป็นการพูดคุยกับตำรวจ ถึงความสงสัยที่ตำรวจให้เดินทางไปหาชาย 2 คนที่ขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในมุมมืด โดยในคลิปตำรวจบอกทำตามหน้าที่ 

คุณเหมียว กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ใช้เวลาอยู่ที่ด่านตรวจกว่า 40 นาที แต่ในคลิปตำรวจมีแค่ 10 กว่านาทีเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่พยายามจับกุมและล็อกแขนด้วย ตอนถูกนำตัวขึ้นรถตำรวจ เหมือนเจ้าหน้าที่ทำรุนแรงเกินไป และควรมีตำรวจหญิงในด่าน เพราะตนเป็นผู้หญิงคนเดียว 

คุณเหมียว กล่าวว่า หลังจากขึ้นไปบนรถตำรวจ เราเจ็บตั้งแต่ตอนถูกตำรวจนำตัวมา และถูกแตะตัวด้วย ตอนนั้นไม่โอเคกับคนกลุ่มนี้ โดยถูกผลักให้ขึ้นมาบนเบาะหลัง ซึ่งตำรวจล็อกเท้าให้และดันหัวตนเข้าไปในรถก่อน เป็นจังหวะที่ตำรวจก้มหัวเข้ามา ตอนนั้นคิดว่าต้องปกป้องตัวเอง และคิดว่าต้องดิ้นให้หลุดจากการล็อก ประกอบกับส่วนตัวเคยเป็นโควิด-19 และมีปัญหาเรื่องการหายใจด้วย จึงต้องปกป้องตัวเอง 

ขณะที่หนุ่ม กรรชัย พิธีกร ถามว่าบางมุมดูไม่แถไปหน่อยหรือ เหมือนพยายามเบี่ยงประเด็น คุณเหมียว กล่าวว่า เรื่องนี้เข้าใจ เพราะอีกฝ่ายมีคลิปด้านเดียว จึงอยากชี้แจงทั้งหมด โดยยอมรับเมาแล้วขับและผิดจริง แต่อยากชี้แจงว่ามีอีกมุมหนึ่ง 

เหตุการณ์ในรถที่ถูกตำรวจนำตัวไป ตอนนั้นพยายามสู้และดิ้น เพราะขณะนั้นเหมือนโดนรุม โดยตอนนั้นคล้ายถีบไปโดน และรู้สึกเหมือนมีอะไรมาโดนเช่นกัน เป็นของแข็งบางอย่างกระแทก แต่ไม่รู้เจตนาหรือไม่ และมีใบรับรองแพทย์ ซึ่งมีคลิปส่วนนี้ แต่ขอไปสู้ในชั้นศาล 

หนุ่ม กรรชัย ถามว่าฝั่งตำรวจ รอง ผกก.ยืนยันว่าถูกคุณเหมียวได้ถีบหน้าเขาจริงๆ คุณเหมียว กล่าวว่า ยืนยันฝ่ายตำรวจก็มีสวนด้วย เป็นการกระทำโดยมิชอบ ก่อนมาถึงโรงพักก็มีตำรวจนายหนึ่งพูดไม่ดีก่อน ทำให้ตนพูดคำว่าชั้นต่ำไป ซึ่งชั้นต่ำเป็นการพูดถึงพฤติกรรมคนมากกว่า 

คุณเหมียว กล่าวว่า ยืนยันหลังเกิดเหตุได้โทร.ไปขอโทษรองผกก.แล้ว แต่รองผกก.บอกไม่ให้ไปบอกใครหรือผู้สื่อข่าว ก่อนมีคลิปเหตุการณ์ออกมา จึงโทร.ไปถามตำรวจปล่อยคลิปทำไม ตำรวจยืนยันไม่ได้ปล่อย โดยตำรวจนายนี้บอกไม่ชอบออกสื่อ 

หนุ่ม กรรชัย ถามว่าตกลงมีประเด็นเมาแล้วขับเมื่อปี 65 ด้วยหรือไม่ คุณเหมียว กล่าวว่า ปี 65 มีการกล่าวหาและสอบ ก่อนจบตรงนั้น โดยเป็นช่วงโควิด ทำให้พกสเปรย์แอลกอฮอล์ในการป้องกันโควิด ซึ่งปกติจะฉีดเยอะ เพราะมีลูกเล็กด้วย วันเกิดเหตุไปเจอด่าน โดยตนฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ใส่เครื่องเป่าก่อน พบเกินและขึ้นมา 69 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทำให้สงสัยเป็นเพราะสเปรย์แอลกอฮอล์ที่ฉีด เนื่องจากไม่ได้ดื่มมา ก่อนส่งเรื่องมายังโรงพัก และเล่าเรื่องให้ฟัง โดยมีการส่งผลไปตรวจสอบแล้ว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส