จตุพร ชี้ได้กลิ่นรัฐประหาร ใกล้เข้ามาแล้วที่จะได้ยินคำว่า โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง

จตุพร พรหมพันธุ์ ชี้ได้กลิ่นรัฐประหาร รัฐบาลจุดชนวนให้องค์ประกอบครบ เตือนใกล้เข้ามาแล้วที่จะได้ยินคำว่า โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ให้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟประเด็น "ส.ว.ยังมีอิทธิฤทธิ์-กลิ่นปฏิวัติ?" ผ่านรายการ "คลุกวงใน" ถามตรง ถามจริง ทางช่อง อมรินทร์ ทีวี หมายเลข 34 โดยสองตัวพ่อแห่งวงการข่าว ใหม่-อิทธิพันธ์ บัวทอง และ หมู-พัชระ สารพิมพา รับหน้าที่เขย่าลึกทุกประเด็นร้อน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน เผยว่าการรัฐประหารก่อนหน้านี้ 2 รอบที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ตนเป็นโฆษกพรรคไทยรักไทย ตนได้สอบถามคนในพรรคเรื่องมีการเคลื่อนกำลังพลแต่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีอะไร แต่ตนได้ยินเรื่องนี้ทั้งวันก็สอบถามไปเรื่อยๆ จนโดยตอนกลับมาว่า จะถามอะไรนักหนาเขายืนยันว่าไม่มีแต่สุดท้ายก็เกิดจนได้ และเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ตนบอกนายกฯ ยิ่งลักษณ์ นายกฯ ทักษิณ ล่วงหน้ามา 2-3 ปี แต่ไม่มีใครฟังเลยสักคนก็เกิดอีก

วันนี้เงื่อนไของค์ประกอบต่างๆ มันครบถ้วน ทั้งอภิสิทธิ์ชนไม่ติดคุกสักวันเดียว เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างย่อยยับ การขัดพระบรมราชโองการ รวมทั้งแนวคิดดิจิทัลวอลเล็ตที่จะก่อหนี้ให้ประเทศ นี่เป็นชนวนสำคัญ นายกฯ ใช้รถหลวงไปขอพรสงกรานต์ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า รวมทั้งการไปกล่าวหาว่าธนาคารแห่งประเทศไทยขัดขวางเป็นอุปสรรคในการพัฒนาเศรษฐกิจ คณะที่ควบคุมการดีลเรื่องทั้งหลายก็เริ่มตึงเครียด ทำให้นายพลทั้งหลายมีการพูดคุย มีการขยับทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว

การปรับ ครม.ล่าสุด ก็ยังมีคนไม่พอใจอยู่ สภาพพรรคเพื่อไทยตอนนี้ไม่เหมือนเดิม หากไม่มี สว. 152 เสียงที่โหวตให้ รัฐบาลนี้ก็เกิดไม่ได้ ทุกอย่างไม่ตรงปก บอกจะไม่จับมือใครก็ไปตระบัดสัตย์ วันนี้พรรคเพื่อไทยไม่มีประชาชนเป็นหลังพิง ตนเห็นว่าใกล้เข้ามาแล้วที่จะได้ยินคำว่า โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง องค์ประกอบมันครบแล้ว ดีลมาแล้วแต่ควบคุมไม่ได้ คนชังก็ชังอยู่ แต่คนรักเปลี่ยนเป็นคนชังไปจำนวนมาก กระบวนการยุติธรรมย่อยยับ เศรษฐกิจกำลังจะพินาศ ผลประโยชน์ก็ได้รับเป็นบุคคล แต่ไม่ใช่ประเทศชาติ

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เผยว่า นายจตุพรเป็นพวกนกรู้ เป็นผู้มีประสบการณ์เยอะ สามารถวิเคราะห์ได้ ก็ต้องรับฟังซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น หลังอภิปรายชี้แนะรัฐบาล สว.ก็ได้ติดตามสิ่งที่รัฐบาลบริหารจัดการตามที่หาเสียงไว้ ก็ต้องบอกตามตรงว่ายังไม่เห็นมีอะไรเป็นรูปธรรม เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเป็นหนี้สินของชาติ เพราะฉะนั้นต้องคิดดูให้ดีว่าจะบริหารประเทศโดยเอาประโยชน์จากการหาเสียงแล้วก็งบประมาณไปใช้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย มันเป็นเรื่องการสัญญาว่าจะให้ เวลาจะใช้เงินเหล่านี้มาแจกต้องดูให้ดีว่างบจากไหน รัฐธรรมนูญก็ห้ามไว้ สว.ไม่ได้ขัดขวาง แต่ สว.จะให้เหตุผลที่คัดค้าน