จากกรณีดราม่าที่เกิดขึ้นในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำข้าวเปลือกมาหว่านในสภาเพื่อสะท้อนปัญหาราคาข้าวตกต่ำที่ปัจจุบันมีการรับซื้อเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท หรือตันละ 5,000 บาท ซึ่งในวันนี้เริ่มมีเสียงสะท้อนกระเพิ่มกรณีดังกล่าวจากทางฟากฝั่งชาวนา
ทีมข่าวลงพื้นที่ จ.ชัยนาท เพื่อพูดคุยกับชาวนาซึ่งนายชาลี หางแก้ว ชาวนาใน ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท เปิดเผยว่าราคาข้าวปัจจุบันที่โรงสีรับซื้อเพียงตันละ 5,000 บาทเศษนั้น ถือว่าตกต่ำที่สุดในชีวิตการทำนากว่า 30 ปีของตน ไม่เคยมีปีไหนหรือยุคไหนราคาข้าวตกต่ำได้ขนาดนี้ ซึ่งถ้าราคาข้าวเป็นแบบนี้เรื่องผลกำไรจากการทำนานั้นคงไม่ต้องหวัง เพราะลำพังต้นทุนการทำนาต่อไร่ก็ตกไร่ละ 5,000 บาทแล้ว ยิ่งซ้ำร้ายในรายที่เช่านาทำก็ตก 6,000บาท/ไร่ เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่าต้นทุนสำคัญอย่างปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชนั้นมีราคาแพงไม่สอดคล้องกับราคาข้าวเปลือก
เมื่อถามว่าราคารับซื้อข้าวเปลือกหน้าโรงสีต้องอยู่ในเกณฑ์เท่าไหร่ชาวนาถึงจะพออยู่ได้ นายชาลีบอกว่าเมื่อต้นทุนตกไร่ละ 6,500 บาทแล้ว ราคาข้าวที่รับซื้ออย่างน้อยก็ควรจะอยู่ที่ 7,000 บาท/ตัน ชาวนาถึงจะพออยู่ได้ แต่ถ้าราคายังตกต่ำแบบนี้มีแต่ขาดทุน ซึ่งจากสถานการณ์ที่ทั้งราคาข้าวตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ชาวนาจำนวนมากเริ่มประกาศขายที่นากันแล้ว เพราะไม่รู้จะฝืนทนทำนาเพื่อที่จะขาดทุนไปทำไม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชาวนาบุรีรัมย์ทุกข์หนัก เร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำ ก่อนจมเสียหายทั้งหมด
Advertisement