เมื่อวันที่ 6 ม.ค.65 เวลา 09.00 น. นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมด้วยทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ และนายธนวัฒน์ ชาวสมุทร หรือ โกบอย รวมถึงพญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ หมอเกศ เจ้าของเกศกมล คลินิก ได้พาผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคลินิกรักษามะเร็งด้วยวิธีการพิสดาร ด้วยการใช้หินศิลา และต้มยาผีบอกให้ผู้ป่วยดื่ม เสียเงินค่ารักษาคอร์สละหลักแสนบาท ไปจนถึง 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทราบว่ามีบุคคลอ้างตัวเป็นแพทย์ทางเลือกรับรักษามะเร็ง อวดอ้างว่าสามารถรักษาให้หายขาดได้ ภายใน 10-20 วัน โดยใช้แท่งหินศิลาบำบัดติดตามร่างกาย วันละ 10 ชั่วโมง เพื่อดูดเซลล์มะเร็งออกมา คิดราคาค่าคอร์สรักษาตามอาการ คอร์สละประมาณ 200,000-350,000 บาท แต่เมื่อผู้เสียหายเข้ารับการรักษาที่คลินิกกลับไม่มีห้องปลอดเชื้อ ซึ่งทางคลินิกได้พาผู้เสียหายไปเปิดห้องโรงแรม และรีสอร์ต เพื่อใช้ในการรักษา อ้างว่าจะได้ใกล้ชิดธรรมชาติ
นางสาวติ๊กกับนายนิว ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ศาลาแดง เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการร้องทุกข์ ก่อนจะเดินทางไปเจรจากับทางคลินิก โดยใช้เวลาในการลงบันทึกประจำวันประมาณ 30 นาที
จากนั้นนางสาวติ๊ก อายุ 55 ปี ผู้ป่วยมะเร็งมดลูกระยะ 2 ในปี 60 จนต้องตัดมดลูกทิ้ง และป่วยมะเร็งปอดและน้ำเหลืองระยะ 4 ในปี 62 ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรู้จักคลินิกดังกล่าวผ่านคนรู้จัก จึงได้ติดต่อไปยังคลินิกเพื่อเข้ารับการรักษามะเร็ง เพราะมะเร็งของตนเป็นระยะที่รักษาไม่ได้แล้ว เป็นมะเร็งที่จะเกิด 1 ใน 100,000 คน ไม่ตอบสนองต่อยาและการทำคีโม โดยทางคลินิกได้มีการอวดอ้างสรรพคุณว่าจะได้ไปออกรายการโหนกระแส เพราะวิจัยการรักษาโรคต่าง ๆ มานานกว่า 15 ปี รักษาคนไปแล้วหลักหมื่นราย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตนก็มีความหวัง ซึ่งทางคลินิกคิดค่ารักษา 10 วัน จำนวนเงิน 200,000 บาท แต่เนื่องจากตนไม่มีเงิน คลินิกจึงปรับราคาให้ใหม่ คิดราคา 20 วัน จำนวนเงิน 200,000 บาท โดยในวันที่ 20 ตุลาคม 64 โอนให้ 50,000 บาท และวันที่ 26 ตุลาคม 64 โอนให้อีก 150,000 บาท ในวันที่ตนเดินทางไปยังคลินิกพบว่าลักษณะคล้ายกับร้านนวด ตนไม่เคยเห็นใบรับรองหรือเลขอนุญาต แต่ขณะนั้นยังไม่เอะใจ
กระทั่งตนเข้ารับการรักษาได้ 20 วัน ด้วยการแปะหินทั่วตัว และดื่มยาต้มสมุนไพร ไม่ทราบส่วนผสม ซึ่งดื่มได้ไม่เกิน 7 วันก็ต้องหยุด เนื่องจากดื่มแล้วมีอาการเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หัวใจเต้นแรง และตัวชา หลังจากเข้ารับการรักษา 1 คอร์ส จำนวน 20 วัน ผลเลือดของตนค่อนข้างแย่ คลินิกจึงรับรักษาให้ฟรีอีก 10 วันไปเรื่อย ๆ สลับกับการตรวจเลือดจนกว่าผลตรวจเลือดจะดีขึ้น
แต่ปรากฏว่าตนรักษาต่อได้อีก 5 วัน รวมทั้งสิ้น 25 วัน ทางคลินิกกลับบอกตนว่า “ต้องไปรักษาทางอื่น คุณอาจจะไม่เหมาะกับวิธีนี้” จากนั้นผู้ป่วยประมาณ 5 คน ได้พูดคุยและเจอกันที่คลินิก ทำให้ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล และคิดว่าน่าจะถูกหลอก เพราะไม่มีใครอาการดีขึ้น จึงได้รวมตัวกันส่งตัวแทนมาร้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนในวันนี้ (6 มกราคม 65)
หลังเสร็จสิ้นการลงบันทึกประจำวันที่ สน.ศาลาแดง ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี พร้อมผู้เสียหายเดินทางไปยังคลินิกดังกล่าว ตั้งอยู่ห่างจากสน.ศาลาแดง เพียง 1.3 กิโลเมตร พบว่าคลินิกดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ตึก ได้แก่ 1.ตึก 2 คูหา 1 ชั้น ติดป้ายเปิดเป็นคลินิกแพทย์แผนไทย 2.ตู้คอนเทนเนอร์ต่อกันเป็นแถวยาว ติดป้ายคำภาษาอังกฤษ “Panacea Wellness” แปลเป็นไทยได้ว่า “ยาครอบจักรวาลเพื่อสุขภาพ”
นางสาวเปรมฤดี คิม หรือ เติ้ล เจ้าของคลินิก แสดงท่าทีตกใจ เพราะขณะนั้นมีผู้ป่วย 1 ราย กำลังรักษาโรคพาร์กินสันอยู่ด้วยการแปะหินศิลาทั่วร่างกาย โดยนางสาวเปรมฤดี กล่าวชี้แจงว่า ตนเป็นเจ้าของคลินิก เรียนจบแพทย์แผนไทย แต่ยังไม่ได้สอบใบประกอบวิชาชีพ ตนได้เปิดคลินิก 1 คูหา จดทะเบียนเป็นคลินิกแพทย์แผนไทย แต่ตู้คอนเทนเนอร์เป็นที่พักผ่อนของผู้ป่วย ตนรักษาผู้ป่วยโรคต่าง ๆ มานานกว่า 15 ปี เช่น ไขข้อ กล้ามเนื้อ ด้วยการใช้ความรู้ที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี ข่างในหินมีสมุนไพรกว่า 50 ชนิด ซึ่งหนึ่งก้อนมีราคาสูงถึง 140,000 บาท อายุการใช้งานต่อก้อนประมาณ 100 ปี แต่ตนเพิ่งนำแร่หินมาใช้รักษาโรคมะเร็งได้ประมาณ 1 ปี ก้อนเล็กขายราคา 60,000 บาท แต่ก็ยังไม่เคยมีใครหายมะเร็ง มีเพียงแค่ที่อาการดีขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ ตนเชื่อว่าแร่ศิลายังสามารช่วยป้องกันโควิด-19 ซึ่งการวิเคราะห์ของตนพบว่าแร่ศิลามีคลื่นรังสีแผ่ออกมาคล้ายเกราะป้องกันโรคให้คนที่แปะแร่ไว้กับร่างกาย ส่วนการที่ตนกล่าวถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง ตนคาดว่าเป็นการเข้าใจผิดของผู้ป่วย ตนต้องขออภัยถึงบุคคลเหล่านั้นด้วยที่วันนี้อาจทำให้เสื่อมเสียชื่อ
"เรารู้แก่ใจว่าจะต้องมีวันนี้ วันที่สังคมตั้งคำถาม เตรียมใจไว้แล้ว ทั้งหมดที่พูดเราทำการเก็บข้อมูล ซึ่งถือว่าเป็นการวิจัยด้วยตัวเองรูปแบบหนึ่ง กรณีที่มีผู้ป่วยมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนก็ถือเป็นโอกาสที่จะประกาศให้สังคมได้รู้ถึงสรรพคุณการรักษา ซึ่งเรายินดีให้หน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมาพยายามผลักดันวิธีการรักษาให้ได้รับการรับรอง แต่ไม่มีที่ใดเข้าใจ ส่วนผู้ป่วยที่เคยเข้ามารับการรักษา แต่ไม่เห็นผล ก็ยินดีคืนเงินให้ เพราะการรักษาไม่มีอะไรที่สามารถรักษาได้ 100% หากพิสูจน์สรรพคุณอะไรไม่ได้ ยินดีติดคุก" นางสาวเปรมฤดี กล่าว
ด้านนายจีรพันธ์ เพชรขาว ถามถึงผู้ป่วยที่เคยรักษามะเร็งหายขาด แต่เจ้าของคลินิกบอกว่าไม่มีผู้ป่วยมายืนยัน เพียงแต่ตอบได้ว่าผู้ป่วยแต่ละคนมีอาการดีขึ้น หมอปลา จึงท้าให้นางสาวเปรมฤดี พูดผ่านสื่อไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข
พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ หมอเกศ กล่าวโต้แย้งว่า การที่จะนำวิธีการรักษาแบบใหม่มาใช้กับผู้ป่วย ควรได้รับการรับรอง ไม่ใช่นำมาใช้กับผู้ป่วยแล้วค่อยขอใบรับรอง ส่วนการวิจัยด้วยตัวเองแต่ไม่ได้ออกมานำมาตีพิมพ์ หรือผ่านการตรวจสอบ ก็ถือว่าไม่ใช่การวิจัยที่ถูกต้อง ดังนั้นคลินิกไม่สามารถอ้างได้เลยว่าวิธีการใช้แร่นั้นถูกต้อง
สำหรับการโต้เถียงเป็นไปนานเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนจะยุติด้วยบทสรุป รอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งนางเปรมฤดี คิม เจ้าของคลินิก ยังได้บอกกับทีมข่าวด้วยว่า "ปกติตนจะรับรักษาฟรี แต่บางช่วงจำเป็นที่จะต้องเรียกเก็บเงินค่ารักษา เนื่องจากต้องการหาทุนไปรักษาผู้ป่วยรายอื่นแบบฟรีต่อ"
หลังจากจบการชี้แจงและพูดคุยกัน นางสาวเปรมฤดี คิม เจ้าของคลินิก ก็ได้ตกลงที่จะคืนเงินให้กับนางสาวติ๊ก จำนวน 200,000 บาท และนายนิว อายุ 22 ปี จำนวน 300,000 บาท ผ่านการโอน ซึ่งสื่อมวลชนได้เป็นพยานบันทึกภาพเอาไว้
นายนิว กล่าวว่า พ่อของตนป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ตั้งแต่ปี 59 ขณะนี้มะเร็งเข้าสู่ระยะที่ 4 ลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง พ่อได้เข้ารับการรักษาด้วยการฉายรังสีมาโดยตลอด จนพ่อรู้สึกทรมาน ตนจึงพยายามหาวิธีอื่นในการรักษาจนมาเจอกับคลินิกแห่งนี้ จึงตกลงรักษาพ่อ 10 วัน ราคา 350,000 บาท แต่ลดเหลือ 300,000 บาท ซึ่งคลินิกได้ขอให้พ่อของตนหยุดรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน อ้างว่าการรักษาจะต้านกัน
สำหรับวิธีการรักษา คลินิกจะแปะแร่ศิลาตามร่างกายของพ่อตนวันละ 4 ชั่วโมง นาน 10 วัน และพาพ่อของตนไปรักษาที่รีสอร์ต อ้างว่าผู้ป่วยจะได้อยู่กับธรรมชาติ แต่ผลกลับทำให้ผิวหนังของพ่อตนแพ้ระคายเคือง ต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น เนื่องจากมีการกดทับ ทำให้ตนรู้สึกว่าคลินิกทำให้พ่อของตนเสียโอกาสในการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันนาน 10 วัน ตนรู้สึกไม่พอใจและรับไม่ได้ที่อวดอ้างเกินจริง ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ป่วยบางส่วนที่เข้ารับการรักษา สรุปกันว่าจะรวมตัวกันเข้าร้องเรียนการคลินิกดังกล่าว ขณะนี้ตนและนางสาวติ๊ก ได้รับเงินคืนแล้ว ซึ่งตนพอใจ ส่วนการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตรวจสอบคลินิกหลังเป็นข่าวก็ยังคงเป็นสิ่งที่ตนต้องการให้ดำเนินการ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
นางตุ้ม อายุ 75 ปี ป่วยโรคพาร์กินสัน ซึ่งเข้ารับการรักษาที่คลินิกแห่งนี้มาแล้ว 4 คอร์ส ราคาคอร์สละ 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 800,000 บาท ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้รับการชักชวนจากเพื่อนบ้านให้เข้ารับการรักษาที่คลินิกแห่งนี้ เนื่องจากการรักษาด้วยแร่ศิลานั้นไม่ต้องกินยา ตนไม่ชอบกินยา
โดยตนเข้ารับการรักษามานานแล้วหลายเดือน ด้วยการติดแปะแร่ศิลาทั่วร่างกาย 10 วัน วันละ 3 ชั่วโมง จากที่ตนนอนติดเตียงก็สามารถลุกเดินได้ จากที่มือสั่นขาสั่นก็หายสั่น ตนจ่ายค่าคอร์สรวมแล้ว 800,000 บาท เป็นเงินที่ลูกให้มาไม่ได้กู้ใคร
นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเดินทางมาที่คลินิก ตนไม่สามารถบรรยายความรู้สึกได้ แต่ขอให้ผู้ที่ติดตามข่าวดูภาพเอง เพราะเจ้าของคลินิกไม่มีใบอนุญาตใด ๆ เลย ตนอยากจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนจะนำแร่ศิลามาแปะแล้วมะเร็งหายขาด ซึ่งถ้ามะเร็งหายจริง ประเทศไทยคงจะรวยและสามารถปลดหนี้ได้ ทั้งนี้ ตนอยากทราบว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงที่คลินิกกล่าวอ้างนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลินิกหรือไม่ ตนอยากเตือนผู้ป่วย ถ้าดูข่าวแล้วยังอยากจะมาคลินิกแห่งนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าจะเตือนอย่างไรแล้ว
Advertisement