จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพเด็กชายวัย 9 ขวบ ยืนร้องไห้อยู่ในสภาพสะบักสะบอม เสื้อผ้าหน้าตาเปื้อนเลือด และหน้ากากอนามัยที่เต็มไปด้วยเลือดของเด็กชาย พร้อมเขียนข้อความว่า "เด็กทะเลาะกัน จำเป็นไหมต้องทำถึงขนาดนี้เข้าใจแหละว่าน้องเราดื้อ อาจจะไม่ถูกตาถูกใจพวกคุณ แต่คุณก็ไม่ควรที่จะทำ เพราะว่าอายุก็ไม่น้อย #ผู้ใหญ่ลังแกเด็ก บอกว่าจะตบสั่งสอน #มีสิทธิอะไรที่ทำแบบนี้ #เกินไปจริงๆ #โตไม่รู้จักโต #เหตุผลน้ำเน่า #อาแท้ๆของเราทำกับน้องเราได้ขนาดนี้ เสียใจ เสียความรู้สึก"
ล่าสุด วันที่ 25 มกราคม 2565 นางสาวธันยพัฒน์ กาญจน์ธนศิริ อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ ได้พาน้องคุณ ลูกชายวัย 9 ขวบ มายัง สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเข้าแจ้งความไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565
นางสาวธันยพัฒน์ เปิดใจว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 น้องคุณไปเล่นกับเพื่อน 2-3 คน ที่ตลาดสระหญ้าม้า ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งน้องไปเล่นที่นี่บ่อย แต่ไม่เคยมีปัญหา อาจจะมีบ้างที่ทะเลาะกับเพื่อน เพราะด้วยความซนของเด็ก แต่วันนั้นตอนประมาณ 17.00 น. ขณะที่ตนเดินทางไปรับลูกที่ตลาดเพื่อพากลับบ้าน ไปถึงก็เห็นว่าลูกนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่แผงผลไม้ในตลาด ก็เลยบอกกับนางสาวนุช (นามสมมติ) คู่กรณี ว่า "นุช ช่วยตามน้องคุณไปกินกุยช่ายหน่อย" เพราะตอนนั้นตนยังไม่อยากบังคับลูก ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านไปเตรียมตัวขายของตอนเย็นที่ตลาดคิวรถเล็ก ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ห่างจากตลาดสระหญ้าม้าประมาณ 450 เมตร
ผ่านไปประมาณ 30 นาที น้องคุณเดินร้องไห้มาหาตนที่ตลาดคิวรถเล็ก ในสภาพเลือดอาบเต็มใบหน้าและหน้ากากอนามัย ตนก็ตกใจมาก จึงถามลูกไปว่าใครเป็นคนทำ ลูกก็บอกว่าป้าของเพื่อนหรือนางสาวนุชเป็นคนเอามือตบหน้าจนเลือดอาบ ตนจึงทำการล้างเลือดออกให้ลูก พาไปหาหมอเพื่อเอ็กซเรย์ ไม่พบบาดแผล เลือดที่ไหลออกมาเป็นเลือดกำเดาหรือเลือดจากเยื้อโพรงจมูก หมอจึงให้กลับบ้านได้
หลังจากนั้น ตนจึงพาลูกไปหานางสาวนุชเพื่อจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น นางสาวนุชอ้างว่าตัวเองตามน้องคุณให้กลับบ้านตามที่ตนบอก แต่น้องยังติดเล่นกับเพื่อน จนทะเลาะกัน น้องคุณเอาน้ำล้างผลไม้สาดใส่เพื่อนที่เป็นหลานของนางสาวนุชจนเปียก ก็เลยบอกว่า "น้องคุณ แม่ให้กลับบ้าน" แต่น้องกลับพูดจาไม่เพราะ ขึ้นมึงขึ้นกู น้องบอกว่า "กูไม่ได้กลัวแม่กูหรอก กูยังไม่อยากกลับบ้าน" ก็เลยพยายามจะเอามือตบปากเบา ๆ 1 ทีเป็นการสั่งสอน แต่น้องคุณดิ้นเลยพลาดไปโดนจมูกจนเลือดไหล หลังจากนั้นนางสาวนุชบอกว่าหลังเห็นเลือดก็พยายามพาน้องคุณไปล้างหน้าล้างตาแล้ว แต่น้องไม่ยอม กลับวิ่งกลับบ้านทันที
หลังจากไปพูดคุยกันเสร็จ ตนก็กลับมาถามลูกชายอีกรอบว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกชายยอมรับว่าพูดคำหยาบจริง แต่พูดกับเพื่อนที่เล่นด้วย ไม่ได้พูดกับนางสาวนุช พร้อมกับสำนึกผิดบอกว่า "หนูผิดละมั้ง ที่หนูพูดไม่เพราะ" ซึ่งทำให้ตนรู้สึกสะเทือนใจมาก กลัวว่าเหตุการณ์นี้จะกลายเป็นตราบาปของลูก เหตุผลที่ว่าทำไมลูกชายถึงพูดกับเพื่อนว่า "กูไม่กลัวแม่กูหรอก" เพราะปกติแล้วตนเป็นคนที่ดุลูกจริง บอกจะตีแต่ก็ไม่เคยตีสักครั้ง ก็ทำให้ลูกไม่กลัว
ดังนั้นจึงคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่านางสาวนุชอายุก็เยอะแล้ว ควรที่จะฟังความสองฝั่ง ไม่ใช่เห็นว่าลูกตัวเองโดนสาดน้ำใส่แล้วจะลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายลูกคนอื่นแบบนี้ ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ตนตั้งใจจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ไม่ขอรับเงินหรือสิ่งของ เนื่องจากตอนนี้สายตาของลูกชายยังมีความระแวงอยู่ หวั่นว่าจะกลายเป็นเรื่องฝังใจลูก แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บส่วนอื่น ๆ
ทั้งนี้อยากฝากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองว่าเด็กวัย 9-10 ขวบ ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอที่จะตัดสินใจพูดหรือทำอะไรออกไป เพราะฉะนั้นคนที่เป็นผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ก็ควรที่จะตัดสินเด็กด้วยความเป็นธรรม มองหาเหตุผลที่เหมาะสม เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่ลงไม้ลงมือแบบนี้ โดยเฉพาะกับลูกหลานคนอื่น
นางสาวนุช (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ เปิดใจเล่าเหตุการณ์ว่า หลังจากที่แม่ของน้องคุณมาตาม ตนก็บอกกับน้องคุณไปแล้วรอบหนึ่งว่าให้กลับบ้าน เพราะเมื่อสักครู่แม่มาตามให้ไปกินข้าว แต่น้องก็ยืนเฉย ไม่ขยับตัว ตนเลยพูดย้ำอีกรอบว่า "คุณ กลับบ้านได้แล้วลูก" หลังจากนั้นตนก็ออกไปทำธุระข้างนอก ผ่านไปประมาณเกือบ 30 นาที ตนกลับมายังเห็นน้องคุณอยู่ที่แผลผลไม้ ตนก็ถามว่ายังไม่กลับบ้านอีกเหรอ แต่น้องกลับตอบตนออกมาว่า "ไม่ต้องเสื-กเรื่องของกู" เป็นเสียงเบา ๆ ใต้หน้ากากอนามัย ตนก็เลยถามย้ำว่าพูดอะไร น้องกลับพยามเดินหนี ตนจับแขนเพื่อที่จะสอนว่าเป็นเด็กไม่ควรพูดกับผู้ใหญ่แบบนี้ น้องสะบัดแขนตนออก ทำให้มือตนไปโดนจมูกของน้องแล้วเลือดไหล
หลังจากนั้น ตนก็พยายามที่จะพาน้องไปล้างเลือดออก แต่น้องกลับปฏิเสธ บอกว่า "ไม่ต้องมายุ่งกับกู ปล่อยกู" ก่อนที่จะพูดอีกครั้งว่า "ปล่อยผม ไม่ต้องมายุ่งกับผม" แล้วน้องก็เดินกลับบ้านไป ยืนยันว่าทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุ ส่วนตัวไม่มีเจตนาจะตบเด็กกลางตลาด และการที่เด็กสาดน้ำใส่กันก็มองว่าเป็นเรื่องปกติที่เด็กเล่น อาจจะมีเรื่องทะเลาะกันบ้าง ไม่ได้ถือโกรธเลย
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา น้องคุณมาเล่นที่ร้านผลไม้เป็นประจำ แต่ทุกครั้งที่มาเล่น น้องจะทะเลาะกับเพื่อนเสมอ น้องเป็นฝ่ายหาเรื่องคนอื่น ชอบไปแย่งเพื่อนจากคนอื่น เพื่อให้มาเล่นกับเขา ตนก็บอกน้องตลอดว่า "คุณ กลับบ้านเถอะลูก ถ้าเขาไม่เล่น" แต่น้องก็ไม่กลับ ยืนตาละห้อยอยู่หน้าร้าน ตนก็อดสงสารไม่ได้ เลยบอกให้เด็ก ๆ มาเล่นกับเขาด้วย เท่าที่สังเกตแล้วน้องคุณดูคล้ายกับเด็กที่มี 2 บุคลิก อยู่บ้านอาจจะเป็นเด็กเรียบร้อยคนหนึ่ง แต่มาอยู่ที่ตลาด แรก ๆ อาจจะน่ารัก เรียบร้อย แต่พอเล่นไปสักพักจะชอบแกล้งเพื่อน ชอบพูดคำหยาบ ตนเตือนหลายครั้งแล้วว่าไม่ชอบให้พูดคำหยาบ ส่วนตัวไม่โอเคมากที่มีการเอาไปโพสต์ต่อว่าตน ทั้งที่ยังไม่ได้เข้ามาคุยกันดี ๆ เลย มีแต่ญาติของอีกฝั่งที่เข้ามาด่าตนกลางตลาด
นางสาวลูกชิ้นในตลาดสระหญ้าม้า ยืนยันว่า นางสาวนุชไม่ได้เป็นแม่ค้าที่มีนิสัยก้าวร้าว ส่วนใหญ่ก็จะอยู่และเล่นกับเด็ก ซื้อขนมมาให้เด็ก อาจจะเป็นคนเสียงดังตามประสาแม่ค้าบ้าง แต่ไม่เคยมีปัญหากับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ส่วนน้องคุณปกติแล้วจะมาเล่นที่นี่เป็นประจำเกือบทุกวัน มีบ้างที่น้องพูดคำหยาบ เช่น ไอเหี้- ไอ้สั-ว์ แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายคนอื่น เหตุการณ์ในวันนั้น ตนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ยืนยันว่านางสาวนุชไม่ได้ตั้งใจตบหน้าเด็ก แต่เป็นอุบัติเหตุ เนื่องจากตอนนั้นนางสาวนุชพยามจะดึงแขนเพื่อที่จะมาถามอะไรบางอย่าง แล้วน้องสะบัดแขนทำให้มือของนางสาวนุชพลาดไปโดนจมูกของน้องจนเลือดไหล
Advertisement