จากกรณี เมื่อเวลา 15.05 น. วันที่ 23 เม.ย. 65 พ.ต.อ.ตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองยะลา พร้อมด้วย พ.ต.ต.ปิยะพงศ์ คำเนตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยะลา เเละกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา อส. มูลนิธิกู้ภัยแม่ทับทิม ได้รุดเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงประชาชน เสียชีวิต 1 ราย ภายในซอยนุกูลกิจพัฒนา 1 ถ.วงเวียน 3 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา
ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสถานที่ก่อสร้าง พบร่างผู้เสียชีวิตคือ นายอับดุลตอเละ จะปะกียา อายุ 49 ปี รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลเขาตูม และยังเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าอยู่ที่บริเวณพื้นดินภายในบ้านที่กำลังก่อสร้าง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธเข้าตามลำตัวหลายนัด พบปลอกกระสุน และหัวกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวนกว่า 10 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุด วันที่ 24 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่บ้าน ม.1 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี บรรยากาศที่บ้านของผู้เสียชีวิตในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ญาติจับกลุ่มนั่งคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าบ้าน บางส่วนก็มีการนอนหบับพักผ่อนภายในบ้าน หลังจากเมื่อช่วงเวลา 07.30 น. ที่ผ่านมาได้มีการทำพิธีทางศาสนาอิสลามฝังร่างของ นายอับดุลตอเละ จะปะกียา ณ กูโบร์บ้านแลเกาะบือแนกือบงประจัน
โดยในช่วงเวลา 15.20 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองยะลา เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา มาตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 23 ซอยนุกูลกิจพัฒนา 1 ถ.วงเวียน 3 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ของนายปราโมทย์ ฉายเทพประสิทธิ์ หรือเอก อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้พาตัวนายปราโมทย์ ข้าไปภายในบ้านเพื่อตรวจค้นเสื้อผ้า อาวุธปืน รวมถึงหลักฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในวันก่อเหตุ หลังจากพบว่าเจ้าตัวไปตัดผมสั้นก่อนมามอบตัวด้วย
พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้พาทีมข่าวดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้พนักงานสอบสวน ได้ขอศาลจังหวัดยะลาออกหมายจับนายปราโมทย์ ฉายเทพประสิทธิ์ หรือ เอก อายุ 50 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน, ครอบครองอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน, ยิงปืนในที่สาธารณะ
วันนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าค้นบ้านของนายปราโมทย์เพื่อหาวัตถุพยานเพิ่มเติม แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ ไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงรองปลัด อบต. แต่มีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ที่สามารถยืนยันได้ว่านายปราโมทย์เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ
ปมสาเหตุที่รวบรวมข้อมูลมาได้คาดว่ามาจากเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ในเรื่องของปมที่ดินในที่เกิดเหตุ ซึ่งเดิมเป็นที่ของแม่ของภรรยาผู้ก่อเหตุ แต่เมื่อหลายปีก่อนได้ถูกธนาคารยึดไป จากนั้นได้มีการขายทอดตลาดเปลี่ยนมือเจ้าของมาหลายมือ จนสุดท้ายผู้ตายได้ซื้อที่ดินไว้ในครอบครอง มีการจะขอซื้อคืนจากผู้ตาย แต่ยังไม่สามารถตกลงราคากันได้ คาดว่าตอนนั้นผู้ตายน่าจะขายราคาสูง ซึ่งตัวของผู้ตายและภรรยาคนยิง ทำงานอยู่ที่ อบต.เขาตูม ที่เดียวกันจึงรู้จักกัน
จากการสอบตรวจเบื้องต้น พบว่านายปราโมทย์เคยมีประวัติครอบครองเฮโรอีน โดนจับ 2 ครั้ง โดยครั้งเเรกโดนจับในเมืองยะลา ติดคุกนาน 4 เดือน ส่วนอีกครั้งที่ จ.นราธิวาส ไม่ทราบปีและระยะเวลาที่ติดคุก
เวลา 17.20 น. ตำรวจได้คุมตัวนายปราโมทย์ออกมาจากบ้าน ช่วงเวลานั้นทีมข่าวได้พยายามสอบถาม ขอให้นายปราโมทย์ชี้เเจง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นายปราโมทย์ไม่ตอบคำถามใด ๆ ก่อนจะเดินขึ้นรถยนต์ไปที่ สภ.เมืองยะลา เพื่อสอบปากคำต่อ
นางสาวนัจวา จะปะกียา อายุ 18 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นิสัยใจคอของพ่อเป็นคนดี น่ารัก ชอบพูดจาหยอกล้อกันลูก ๆ ครอบครัวตนมีกันทั้งหมด 6 คน พ่อเเม่และลูก 4 คน ตนเป็นลูกสาวคนโต อายุ 18 ปี น้องสาวอีก 2 คน อายุ 15 ปี และ 9 ปี น้องคนเล็ก ผู้ชายอายุ 5 ขวบ โดยเเม่ของตนเสียชีวิตไปแล้ว ปัจจุบันพ่ออยู่กับภรรยา แม่ของน้อง ๆ ทั้ง 3 คน
เดิมพ่อของตนทำงานอยู่อนามัย ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่หน่วยงานสาธารณสุข ที่ขึ้นกับ อบต. จากนั้นก็ไปสอบเป็นรองปลัด อบต. และรับตำแหน่งนี้มาได้ประมาณ 1 ปีกว่า นอกจากนี้ พ่อยังมีงานรับเหมาก่อสร้างอีกด้วย ซึ่งเรื่องบ้านที่เกิดเหตุที่พ่อกำลังสร้างนี้ ตนก็เพิ่งจะมาทราบภายหลังจากที่พ่อเสียชีวิต โดยเหตุการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา ตนทราบข่าวตอนประมาณ 15.00 น. หลานพ่อโทรมาบอกว่าพ่อถูกยิง ตอนนั้นตนคิดแค่ว่าพ่ออาจแค่ได้รับบาดเจ็บ ไม่คิดว่าพ่อจะถึงขั้นเสียชีวิต เพราะเมื่อวานช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ตนเพิ่งจะเเยกกับพ่อออกจากบ้าน โดยตอนนั้นตนไม่ทราบว่าพ่อจะออกไปที่ไหน ซึ่งก่อนจะแยกกัน ตนและพ่อยังคุยหยอกล้อกันปกติอยู่เลย ตนไม่มีลางสังหรณ์อะไรมาก่อนเลย
หลังจากนั้น ตนก็ได้ไปที่เกิดเหตุ เห็นพ่อนอนอยู่ที่พื้น ความรู้สึกตอนนั้นแย่มาก ไม่ได้คุยกับคนที่เห็นเหตุการณ์ ตอนนี้สภาพจิตใจของตนดีขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น ตนยืนยันไม่ทราบมาก่อนว่าพ่อพกปืนมาก่อน พ่อไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครด้วย ทั้งที่ทำงานหรือเรื่องส่วนตัว เพราะเวลาอยู่ที่บ้านด้วยกัน พ่อจะเป็นคนร่าเริง อีกอย่างที่บ้านก็ไม่เคยมีใครมาวนรถข่มขู่ใด ๆ ตอนนี้ตนค่อนข้างเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นในตอนกลางวัน และเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจ หากจับคนร้ายตนก็ไม่มีอะไรอยากจะพูดถึง แต่อยากให้เขารับผิดในสิ่งที่ทำ ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นางสาวนัจวา กล่าวทั้งน้ำตาว่า พ่อตนไปอย่างดีแล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วง ตอนนี้คงถึงเวลาของพ่อแล้ว ต่อจากนี้ไม่มีพ่อที่เป็นเหมือนเสาหลักแล้ว ตนต้องเข้มเเข็ง ซึ่งโชคดีที่มีญาติ ๆ น้า ๆ คอยช่วยเหลืออยู่อีก
ด้านนางสาวไก่ (นามสมมติ) น้องสาวภรรยาผู้ก่อเหตุ อายุ 46 ปี เปิดเผยว่า เมื่อวานตอนที่เกิดเหตุตนอยู่ที่บ้านหลังที่ตำรวจเข้าค้น ตนยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงปืนเลย ตนเองอยู่ที่บ้านข้างกับที่เกิดเหตุ อยู่ในช่วงกำลังจะซ่อมบ้าน จึงได้ไปอาศัยบ้านพี่สาวอยู่ ส่วนที่ดินที่เกิดเหตุเคยเป็นของเเม่ของตนมาก่อนจริง หลังจากนั้น ตนก็ทราบเพียงเเค่ว่าที่ดินตรงนี้ได้มีการขายฝากไว้ ทราบอีกครั้งคือที่ดินกลายเป็นของรองปลัด อบต. แล้ว ประมาณ 2 ปีกว่า เท่าที่เห็นนายปราโมทย์ไม่เคยมีอาวุธปืนมาก่อน นิสัยใจคอเป็นคนเงียบ ยอมรับว่ายังค่อนข้างตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
Advertisement