พ่อชมพู่เปิดใจครั้งแรก ถูกพุ่งเป้าต้องสงสัยไร้พยานเห็นทำไร่ แต่พ้นมลทินด้วย "เวลา" (คลิป)

จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. กระทั่งผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ พบบาดเเผลที่อวัยวะเพศ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง นอกจากนี้ยังมีหมอธรรมและพระป่าออกมาทำนายจุดซ่อนหลักฐานก็ยังหาไม่พบ แต่ที่กลายเป็นกระแสฮือฮา กลับมีชาวบ้านถูกหวยในงวดวันที่ 1 มิ.ย.63 รับทรัพย์ไปตาม ๆ กัน

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

อ่านข่าวน้องชมพู่เพิ่มเติม
- สุดแปลก! พระป่าทำพิธีเปิดเขาจู่ ๆ ลิ้นจุกปาก ร้องถูกบีบคอ ชี้คนฆ่าชมพู่เอาเสื้อไปแล้ว 
- พบหลักฐานใหม่! “ปลอกมีดไหม้ไฟ-ถุงเท้าเด็ก” ตำรวจคาดโยงมือฆ่าน้องชมพู่ 
- ลุงชมพู่หลั่งน้ำตา เครียดถูกสงสัยเป็นคนฆ่า แจงบังเอิญเจอศพรักหลานเหมือนลูก 
- พระป่าผวาไขคดีชมพู่ หวั่นถูกเจ้ามือหวยสั่งเก็บ เจอพิธีในอดีตมีเลขธรรม "080" 
- แม่น้องชมพู่พิสูจน์ไร่มันเพื่อนบ้าน คาใจลูกเดินไกล ชัด "ถุงปุ๋ย" ไม่ใช่ของฆาตกร 

ล่าสุดวันที่ 5 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถาม นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่ เล่าเหตุการณ์วันที่ 11 พ.ค.63 วันที่น้องหายตัวไป เปิดเผยว่า วันดังกล่าวตนขับรถไถออกไปรับจ้างไถ่นาอยู่ที่นาของยายอุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนไปราว 2 กม.

ในช่วงเวลา 07.00 น. ตนออกจากบ้าน โดยออกไปก่อนภรรยา ซึ่งขับรถไถ่ออกไปเพียงลำพัง ระหว่างไถ่นาก็ทำงานจนถึง 10.00 น. ขณะนั้นไม่ได้มีใครทักตน มีเพียงคนเลี้ยงวัวที่อยู่ไม่ไกลจากตน แต่ไม่แน่ใจว่ามีใครเห็นตนหรือไม่ ซึ่งตนนัดหมายกับยายอุ่น มาระยะหนึ่งแล้วว่าจะไปไถนาให้

ระหว่างนั้นภรรยาโทรศัพท์มาหา บอกให้รีบกลับบ้านเพราะลูกสาวคนเล็กหายตัวออกจากบ้าน จึงทิ้งงานไถ่นาแล้วรีบกลับบ้านมาหาลูก หลังจากนั้นตนก็ออกตามหาทันที โดยเดินไปทางเขา หาตามสวนยาง สวนมันสำปะหลัง โดยยังไม่ได้ขึ้นเขา ชาวบ้านก็เริ่มค้นหา วันแรกตนหาจนถึงช่วงราว 02.00 น. โดยหาตามป่าตามเขา ขึ้นทางเชิงเขาไปราว 500 เมตร โดยเดินขึ้นทางฝั่งขวาของเขา ส่วนวันที่เจอน้องชมพู่ ตนขึ้นเขาไม่ไหวแล้ว

จากนั้นเมื่อเจอศพลูก ตนก็ไม่ได้ขึ้นเขาอีกเลย เพราะตนไม่อยากให้เห็นภาพติดตา และจะนึกถึงสภาพความเป็นอยู่ของลูกตลอดเวลา 

ทั้งนี้ในวันที่ 11 พ.ค.63 หากพ่อของน้องชมพู่ จะต้องขึ้นเขาภูเหล็กไฟตั้งแต่เวลา 09.00 น. ไปถึงจุดพบศพเวลา 11.00 น. และกลับลงมาที่หมู่บ้านจะต้องใช้เวลามากถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง

นอกจากนี้ จุดที่พบศพน้องชมพู่ยังห่างจากถ้ำที่ 3 ประมาณ 2 กม. พ่อของน้องชมพู่ จะได้เวลามากถึง 4 ชม. ถึงจะกลับลงมาที่หมู่บ้านได้ ทำให้เลยเวลาที่จะเป็นผู้ต้องสงสัยหรือไม่