เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 27 ก.พ. 68 ร.ต.อ.ชัชวาลย์ จันทะวงษ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอาวุธปืนยิงใส่เป็นชาย 1 รายภายในบ้านกลางคอกวัว หมู่ที่ 3 ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร รพ.โพธาราม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรี
ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรีพยายามช่วยชีวิตนายนพรัตน์ อายุ 45 ปี สภาพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นนอนอยู่บนเตียงนอนภายในบ้าน ซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ระยะเผาขนเข้าบริเวณอกใต้ราวนมขวา ทะลุซี่โครงซ้าย 1 รูและหัวกระสุนยังทะลุฝาบ้านออกไป แต่ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถเยื้อชีวิต นายนพรัตน์ไว้ได้และเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุบริเวณที่นอนภายในบ้านพักของตนเอง บริเวณใกล้กันพบปลอกกระสุนขนาด 38 ซุปเปอร์จำนวน 1 ปลอกตกอยู่ขอบผนังบ้าน
จากการสอบถามภรรยานายนพรัตน์ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายสมนึก หรือ นึก ตุ้มแก้ว อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ตําบลชําแระ อ.โพธาราม แต่เคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหายาเสพติด และได้พ้นโทษมาเมื่อปี 2568 ทั้งนายนึก ผู้ก่อเหตุ ยังเป็นแฟนเก่าของภรรยาผู้เสียชีวิตด้วย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่อง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรีเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมจัดชุดสืบสวน สภ.โพธาราม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ และไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เพราะถือเป็นเหตุอุกอาจ
ซึ่งต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปบ้านที่เกิดเหตุ ม.3 ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี นางอนุตรา พูหลำ อายุ 65 ปี แม่ผู้เสียชีวิต และ นายมิค(นามสมมติ) อายุ 17 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิตตลอดจนบรรดาญาติของผู้เสียชีวิต ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูยังบริเวณที่ผู้ตาย ถูกนายนึกแอบย่องเข้ามายิงจนเสียชีวิตคาบนที่นอนภายในบ้าน ทั้งยังพาผู้สื่อขาวไปดูบริเวณผนังบ้าน ซึ่งยังมีรอยรูกระสุนทะลุ 1 รอย โดยบรรยากาศที่บ้านผู้เสียชีวิต บรรดาญาติและครอบครับยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ และโกรธแค้นผู้ก่อเหตุเป็นอย่างมาก
นางอนุตรา แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า เมื่อคืนตอนที่เกิดเหตุเธอนอนอยู่ที่บ้านคนละหลังกับลูกชายได้ยินเสียงคล้ายปืนดัง 1 นัด จนแฟนลูกชายวิ่งจากบ้านลูกชายมาตะโกนบอกว่าลูกชายโดนยิง เธอกับสามีจึงรีบวิ่งตามมาดูบ้านที่เกิดเหตุ พบลูกชายเสียชีวิตแล้ว ซึ่งแฟนลูกชายที่นอนอยู่กับลูกชายเล่าให้ฟังว่า ผู้ก่อเหตุคือนายนึก แฟนเก่าของเธอที่แอบเข้ามาในบริเวณเขตบ้าน แล้วมายืนที่ข้างบ้านที่มีช่องระบายอากาศ ก่อนร้องเรียกว่า "เฮ้ย" 2 ครั้ง จนลูกชายลุกขึ้นจากเตียงแล้วหันมาดูว่าใครเรียก ก่อนจะใช้ปืนยิงมาที่ลูกชาย จนล้มนอนแน่นิ่งไปบนที่นอน
ส่วนปมเหตุน่าจะมาจากเรื่องหึงหวง เพราะผู้ก่อเหตุเคยเป็นแฟนเก่าของแฟนลูกชาย ที่ยังไม่ยอมเลิกรา พอแฟนลูกชายมาอยู่บ้าน ลูกชายจึงตามมาทำร้ายลูกชาย ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุยังเคยวนเวียนมาที่บ้านบ่อยๆและใช้อาวุธยิงบริเวณคลองใกล้บ้านเพื่อข่มขู่ลูกชายและแฟนอยู่หลายครั้ งทั้งลูกชายยังเคยโดนผู้ก่อเหตุใช้ปืนตบที่หัวจนเลือดคั่งจนต้องแจ้งความที่โรงพัก และก่อนเกิดเหตุช่วงเที่ยงคืนไผู้ก่อเหตุยังขี่รถ จยย.มาแถวบริเวณหน้าบ้าน และตะโกนลั่นว่า "เดี๋ยวจะยิงให้ตายทั้งหมด" ก่อนจะมาลงมือก่อเหตุในช่วยตีสาม
นางอนุตรา แม่ผู้เสียชีวิต ยังบอกอีกว่าเธอเสียใจมาก ไม่คิดว่าผู้ก่อเหตุจะมาจ่อยิงลูกชายจนตายขณะไม่รู้ตัวแบบนี้ "ลูกชายไม่รู้ตัวเขากำลังนอนอยู่ ปลุกเขาขึ้นมาตาย ทำไมใจร้ายแบบนี้ ทำแบบนี้มันอุกอาจกันเกินไปสงสารแต่หลานไม่มีแม่แล้วต้องมาเสียพ่อโดนฆ่าตายอีก
ยอมรับว่าครอบครัวเธอโกรธแค้นผู้ก่อเหตุมากๆ ซึ่งเธอและครอบครัวจะดำเนินคดีผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด แล้วขอผู้ก่อเหตุไม่ต้องมาร่วมงานศพหรือขอขมา เพราะเธอและครอบครัวไม่ยอมรับ ไม่ต้องมาและอยากฝากบอกผู้ก่อเหตุว่าให้รีบมามอบตัวเถอะ ยังไงก็ไม่รอดทำคนตายขนาดนี้แล้ว
ขณะที่นายมิค อายุ 17 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิตเปิดใจว่า ตนรู้สึกเสียใจและโกรธแค้นผู้ก่อเหตุเป็นอย่างมากที่มาฆ่าพ่อจนตายแบบนี้ ถ้าตนอยู่ด้วย ตนจะช่วยพ่อของตนไม่ให้ตายเด็ดขาด และถ้าตนมีปืน ตนจะยิงเขาให้ตายเช่นกันและถ้าตนเจอตัวผู้ก่อเหตุตอนนี้ "ผมจะไม่ถามอะไร แต่ผมอยากทำอย่างที่เขาทำกับพ่อของผม"
ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังเข้าตรวจสอบภาพในห้องที่เกิดเหตุอยู่นั้น ทางญาติผู้เสียชีวิตได้แจ้งว่าสุนัขแม่ลูกอ่อนที่เป็นของผู้เสียชีวิตนอนตายข้างๆคอกวัวเหมือนลักษณะโดนวางยาเบื่อ ซึ่งตอนแรกที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปจุดเกิดเหตุตอนแรกยังพบสุนัขแม่ลูกอ่อนตัวดังกล่าวยืนเฝ้าที่นอนของผู้เสียชีวิตอยู่เลย ก่อนจะมาสิ้นใจตายบริเวณคอกวัวและลูกสุนัข 6 ตัวของแม่ลูกอ่อนก็ถูกโดนวางยาเบื่อเช่นกัน ซึ่งทางญาติพยายามช่วยชีวิตลูกสุนัขจนสามารถช่วยไว้ได้ 5 ตัวและตาย 1 ตัว
ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตคาดว่าสุนัขที่ตายทั้งสองตัว น่าจะไปกินอาหารที่ถูกผู้ก่อเหตุวางยาเบื่อไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขเห่าหอนส่งเสียงดังขณะเข้ามาก่อเหตุ เพราะสุนัขทั้งหมดรักผู้เสียชีวิตมาก และเลี้ยงมากับมือเช่นเดียวกันกับวัว 8 ตัว ที่ผู้เสียชีวิตเลี้ยงไว้ได้ร้องส่งเสียงดังตลอดเวลา เหมือนเรียกหาผู้เสียชีวิต เพราะวัวทั้งหมดผู้เสียชีวิตเป็นคนเลี้ยงไว้และต้องพาออกไปกินหญ้าทุกเช้า
ขณะที่แม่และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ก็กำลังวุ่นวายหายืมเงินมาจัดงานศพให้กับผู้เสียชีวิต เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัวและมีรายได้หลักจากการรับจ้างและเลี้ยงวัวมาส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัว ซึ่งทางครอบครัวจะนำศพของผู้เสียชีวิตมาประกอบบำเพ็ญกุศลตามชาวมอญ เป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากครอบครัวผู้เสียชีวิตมีเชื้อสายมอญ จึงจะทำพิธีหลบหลุมก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 2 มี.ค.68 ที่น่าเวทนาตอนนี้ทางครอบครัวต้องหยิบยืมเงินจากคนรู้จักมาใช้จัดงานศพ
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดปิด พบว่าในช่วงเวลา 03.06 น.ผู้ก่อเหตุขี่รถจยย.มาจอดคนละฝั่งคลองกับบ้านที่เกิดเหตุ แล้วใช้ไฟไฟฉายคาคหัวส่องสำรวจที่บ้านแล้วขี่รถจยย.กลับไป จนช่วงเวลา 03.16น.พบผู้ก่อเหตุขี่รถจยย.เข้ามาที่บ้านที่เกิดเหตุ จอดรถบริเวณใต้ต้นไม้โดยไม่ได้ดับเครื่องพร้อมไฟฉายคาดหัว เดินเข้ามาภายในบริเวณบ้านเพื่อก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิต.
Advertisement