Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ย่างสดหลวงตาวัย 74 เผานั่งยางหน้าพระธาตุ

ย่างสดหลวงตาวัย 74 เผานั่งยางหน้าพระธาตุ

27 ก.พ. 68
21:17 น.
|
1.6K
แชร์

สลด พบร่างหลวงตา 74 ปี สภาพเผานั่งยางเป็นตอตะโก หน้าพระธาตุศรีจอมเทพ เขียน จม.ลาก่อนมรณภาพ

จากกรณี เวลา 07.00 น.วันนี้ (27 ก.พ.) ร.ต.อ.นพพล สัตยดิษฐ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เวียงชัย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งว่ามีพระภิกษุมรณภาพภายในสถานปฏิบัติธรรมพระธาตุศรีจอมเทพ หมู่ 5 ต.เมืองชุม อ.เวียงชัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุประจำ อ.เวียงชัย

จึงพร้อมด้วยตำรวจสืบสวนและฝ่ายปกครอง ต.เมืองชุม รุดไปตรวจสอบพบพระธาตุตั้งอยู่บนดอยสูงห่างจากถนนพื้นราบประมาณ 1 กิโลเมตร และที่ลานห่างจากกกุฏิและพระธาตุประมาณ 100 เมตร พบร่างของพระไพรัตน์ โกมลกะหนก อายุ 74 ปี สภาพถูกไฟไหม้จนไม่เหลือสภาพร่างกายเดิม และพบมียางรถยนต์ประมาณ 2 เส้น กระเป๋าเดินทางและอื่นๆ ถูกไฟเผาไหม้ในบริเวณเดียวกันจนเป็นกองเถ้าสีดำ

ล่าสุดทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่บริเวณพระธาตุศรีจอมเทพ หมู่ 5 ต.เมืองชุม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุโดยมีนายแจ็คหรือนายคำ คำจันทร์ อายุ 35 ปี ลูกศิษย์หลวงพ่อ ไพรัตน์ และเป็นคนดูแลพระธาตุ ได้พาทีมข่าวไปดูยังจุดกุฎิของหลวงพ่อซึ่งอยู่บริเวณฐานด้านล่างพระพระธาตุ

โดยนายแจ็ค ได้ชี้ให้ทีมข่าวดูว่าบริเวณที่นอนของหลวงพ่อปกติแล้วจะมีที่นอนอยู่ แต่ที่นอนหายไปโดยบริเวณจุดตรงนี้ มีการพบจดหมายสั่งเสียของหลวงพ่อ 1 ฉบับ นอกจากนี้บริเวณชั้นเก็บของก็มีซองยารักษาโรคโรคประจำตัวของหลวงพ่อเป็นยากันชัก เเละซองยาระบาย ที่เหลือนอกจากนี้ก็เป็นยาสามัญประจำบ้านทั่วไป ส่วนที่บริเวณหน้าต่างและประตูไม่มีร่องรอยถูกงัดแงะ

นอกจากนี้นายแจ็คยังได้พาทีมข่าวขึ้นไปดูด้านบนพระธาตุ ซึ่งมีศาลาเป็นห้องกระจกอยู่บริเวณด้านหลังขององค์พระธาตุซึ่งเป็นจุดที่มีการพบจดหมายสั่งเสียของหลวงพ่ออีก 2 ฉบับ โดยจดหมายสั่งเสียของหลวงพ่อทั้งหมดสามฉบับนี้ทางตำรวจได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ส่วนที่โต๊ะหนังสือของหลวงพ่อ ทีมข่าวพบสมุดบันทึกเป็นไดอารี่ส่วนตัวของหลวงพ่อ ที่มีการเขียนจดบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้ โดยข้อความบางช่วง เช่น

ในวันที่ 23 ตุลาคม 2558 จะเห็นว่าหลวงพ่อท่านมีการมาตรวจสอบวัดแห่งหนึ่ง และมีการเขียนข้อสังเกตและข้อเสนอแนะในการปรับปรุงวัดไว้ด้วย นอกจากนี้ยังพบแบบแปลนที่มีการออกแบบ วัดต่างๆไว้ ซึ่งหลวงพ่อมีแผนที่จะบูรณะพระธาตุแห่งนี้ขึ้นใหม่ จึงคาดว่าน่าจะมีการไปศึกษาดูงานตามวัดต่างๆเเละขอแบบแปลนมา

โดยนายแจ็คยังได้ชี้ให้ทีมข่าวดูอีกว่า โดยปกติเเละเมื่อคืนนี้ เขาและลูกชายวัยประมาณ 5 ขวบจะนอนอยู่ภายในห้องพัก ซึ่งเป็นห้องกระจกปิดทึบจึงไม่ได้ยินเสียงผิดสังเกตใดๆเลย

ทั้งนี้ทีมข่าวได้ขอให้นายแจ็ค พามาสำรวจยังบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสถานที่ ที่เผาร่างของหลวงพ่อโดยจุดนี้เป็นลานโล่ง บริเวณด้านหน้าพระธาตุ และอยู่ห่างจากกุฏิหลวงพ่อประมาณ 100 เมตร ที่บริเวณนี้สังเกตเห็นว่ามีร่องรอยซี่ลวดวงล้อยางรถยนต์ จำนวนทั้งหมด 4 ล้อ และมีกระเป๋าเดินทางทั้งหัวเเละท้ายทั้งหมด 2 ใบ และยังสังเกตเห็นมีโครงเหล็กของร่ม รวมถึงเศษกระจกที่คาดว่าน่าจะเป็นจอทีวี โดยนายแจ็ค ยืนยันว่าทีวีหายไป เเละยังมีพวกหลอดไฟ รองเท้า ซึ่งคาดว่าทุกอย่างที่อยู่ในกองเพลิงเมื่อช่วงเช้านี้น่าจะของใช้ส่วนตัวของหลวงพ่อเเทบทั้งหมด

โดยนายแจ็ค ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่าเมื่อวานนี้ตนเองเจอกับหลวงพ่อครั้งสุดท้าย ก็คือช่วงประมาณ 6 โมงถึง 1 ทุ่ม ก็เห็นว่าหลวงพ่อเดินจงกรม แล้วมีน้ำตาซึมลักษณะคล้ายกับกำลังร้องไห้ หลังจากนั้นตนเองและลูกชายก็เข้าไปนอนในห้องพัก ซึ่งอยู่ด้านบนพระธาตุและตลอดทั้งคืนก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดสังเกต

จนกระทั่งรุ่งเช้า ตนเองตื่นประมาณตี 5 เพื่อที่จะมาทำกับข้าวให้หลวงพ่อฉัน ในครัวที่อยู่ติดกับห้องพักของตน เพราะช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาหลวงพ่อไม่ออกไปบิณฑบาต จนกระทั่งช่วงเวลา 07:00 น. ตนเองเดินลงจากพระธาตุ ก็เห็นที่ร้านหน้าพระธาตุมีกองไฟกองใหญ่กำลังลุกไหม้ ตอนนั้นตนจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นหลวงพ่อแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้หลวงพ่อเคยพูดกับตนหลายครั้งแล้วว่าจะเอาน้ำมันราดตัวเองและจุดไฟเผา

เมื่อตนเดินลงมาดูห่างจากกองไฟประมาณ 5 เมตร ก็เห็นว่ายังคงมีไฟลุกไหม้อยู่เล็กน้อยและมีร่างร่างหนึ่งอยู่ในกองเพลิง จากนั้นจึงรีบเดินทางลงไปด้านล่างเพื่อไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะกลับขึ้นมาอีกครั้ง รอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงก็ได้ใช้น้ำดับไฟ ก่อนจะเห็นว่าร่างของหลวงพ่อถูกเผาไหม้จนกลายเป็นตอตะโกกระดูกโผล่เเล้ว นอกจากนี้ที่บริเวณห่างจากกองเพลิงไม่ไกล ก็พบถังแกลลอนน้ำมันที่ตนเอาไว้ใช้เติมเครื่องตัดหญ้าถูกเทจนหมด

นอกจากนี้ยังมีจดหมายที่เป็นลายมือของหลวงพ่อได้เขียนสั่งเสียไว้ทั้งหมด 3 ฉบับ โดยฉบับแรกพบภายในกุฎิ ส่วนอีก 2 ฉบับ พบอยู่ที่บริเวณโต๊ะเขียนหนังสือภายในศาลาด้านบนพระธาตุ โดยเนื้อความทั้ง 3 ฉบับสรุปใจความได้ว่าหลวงพ่อขอโทษทุกคน เเละเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนี้เอง

ส่วนเรื่องยางรถยนต์ที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงนั้น ตนยืนยันว่าเป็นยางอะไหล่ของรถยนต์ที่ตนนำขึ้นมาไว้ด้านบนนานเเล้ว มีประมาณ 3-4 เส้นซึ่งตนกะจะเอาไว้ใช้ปลูกต้นไม้

ซึ่งตนมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะใช่เหตุฆาตกรรม เพราะ ประตูหน้าต่างไม่มีร่องรอยถูกงัดแงะและข้าวของสำคัญทรัพย์สินอะไรก็ไม่ได้หายไป แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยมีโจรขึ้นมาขโมยเงินในตู้บริจาคไปก็ตาม

เหตุการณ์นี้น่าจะเกิดจากหลวงพ่อทำร้ายร่างกายตัวเองด้วยเพราะ ข้อ 1 มีหลักฐานเป็นจดหมายสั่งเสียลายมือของหลวงพ่อ

ข้อที่ 2 ช่วงที่ผ่านมาหลวงพ่อมีความเครียดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่หลวงพ่อมีแผนจะบูรณะพระธาตุและจะทำหนังสือยื่นขอไปทางสำนักพระพุทธศาสนาจัดตั้งพระธาตุแห่งนี้ให้เป็นวัด เพราะตอนนี้สถานที่แห่งนี้ยังไม่ได้ถูกจัดตั้งให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีญาติโยมและผู้มีกำลังศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อที่จะบูรณะสถานที่แห่งนี้แล้ว โดยหลวงพ่อได้มีการขออนุญาตไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อเอกสารอนุมัติผ่านกลับมีคนมาตัดหน้าเอาเอกสารไป จนทำให้หลวงพ่อเกิดความเครียด เเละเชื่อว่าน่าจะมีคนขัดขวางไม่ให้ท่านบูรณะพระธาตุแก่งนี้

และข้อที่ 3 หลวงพ่อมีโรคประจำตัวคือโรคลมชักโดยมวลช่วงก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งเดือนก่อนหลวงพ่อลงไปบิณฑบาตด้านล่างก็เกิดอาการชักจนชาวบ้านต้องหามส่งโรงพยาบาลสงฆ์ และช่วงก่อนหน้านี้หลวงพ่อก็ท่าทางดูเซื่องซึมและดูเครียดเวลานั่งสมาธิหรือเดินจงกรมก็ดูเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจและมีน้ำตาคลอตลอด จนกระทั่ง 2-3 วันให้หลังหลวงพ่อก็ไม่ลงไปบิณฑบาตด้านล่าง

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ภาพนิ่ง ขณะที่ตำรวจตรวจในกุฎิพระไพรัตน์ โกมลกะหนก อายุ 74 ปี  และศาลาปฏิบัติธรรมด้านบนซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังพระธาตุศรีจอมเทพ พบสมุดเขียนข้อความที่มีการบันทึกเอาไว้ ประมาณ 3 หน้า โดย มีการเขียน ระบายความอัดอั้นตันใจ ที่เกิดขึ้นที่พระไพรัช พบเจอในวันที่ 14 และ 16 กุมภาพันธ์ มีใจความว่า 1.ไม่ได้รับความร่วมมือจากคณะสงฆ์ผู้ปกครอง 2.ยังไม่ได้ขออนุญาตบูรณะและก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการเรื่องขอเอกสารสิทธิ์เพื่อบูรณะตามขั้นตอนแล้ว เลยไปติดตามเรื่องในที่ประชุม

3.ถูกทรมานจิตใจจากคณะสงฆ์เป็นผู้ปกครองบางรูป 4.มาอยู่ที่วัด 6 ปีแล้ว ไม่มีส่วนร่วมในกิจกรรมท้องที่เลย 5.ไม่มีการหาทุนสมทบเลย มีแต่คณะศรัทธาที่ร่วมบริจาค 6.ทุกวันนี้ไม่มึทุนจัดการทุกอย่างเอง

และหน้าสุดท้ายเป็นข้อความสั่งเสียก่อนที่จะพบศพของท่านถูกเผานั่งยาง ภายในบริเวณสถานปฎิบัติธรรมวัดพระธาตุศรีจอมเทพ ระบุข้อความว่า ขณะเขียนมีสติและร่างกายเป็นปกติ จึงขอบอกกับเจ้าหน้าที่ให้ทราบว่าไม่มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องจึงไม่ต้องไปสอบสวนใคร และได้กราบนมัสการพระราชาคุณ เจ้าคณะจังหวัดและพระเถระขั้นผู้ใหญ่ทุกรูป ขออภัยที่ก่อเหตุแต่ทำเพราะความจำเป็นและหมดความอดทน ไม่ได้มีเจตาจะทำให้ศาสนามัวหมองและเกิดความเสียหาย 

บูรณะพระธาตุมาตั้งแต่ปี 2561 เพราะมีภิกษุที่รู้จักกันแนะนำและพระผู้ปกครองต้องการบูรณะให้เป็นพระธาตุประจำอำเภอหลังจากที่เคยรกร้างมานับ 10 ปี แต่ปรากฎว่าจนถึงปัจจุบันไม่ได้รับการช่วยเหลือดูแลจนคณะศรัทธาพากันท้อแท้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตัวเองคิดสั้นเช่นนี้

Advertisement

แชร์
ย่างสดหลวงตาวัย 74 เผานั่งยางหน้าพระธาตุ