วันที่ 20 พ.ย. 63 นายสมภาร สุรัญกุล หรือ เสี่ยเต้ย อายุ 41 ปี อดีตสามีของนางวรรณลี ปัญญาใส หรือ เจ๊อ๋อ อายุ 48 ปี ที่ถูกหวย 90 ล้านบาท ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างกะทันหัน จากอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน เสี่ยเต้ยเป็นข่าวกรณีวิวาทะกับอดีตภรรยาผ่านทางสื่อต่าง ๆ
โดยศพนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านพักเลขที่ 111 บ้านคำบอน ม.4 ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ร่างของเสี่ยเต้ยถูกนำบรรจุในโลงเย็นสีทองอยู่ภายในห้องโลงชั้น 1
มีภาพหน้าศพ ระบุเกิด 18 พ.ย. 2522 เสียชีวิต 19 พ.ย. 2563 หลังวันเกิดเพียงวันเดียว ซึ่งหน้าโลงศพตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้สีขาวทำเป็นรูปหางนกยูงตั้งข้างโลงศพทั้ง 2 ข้าง มีญาติพี่น้องและคนรู้จักเริ่มทยอยส่งพวงหรีดมาเคารพศพ
ด้านนอกรั้วบ้านได้นำเต็นท์มาตั้งคอยรับแขก โดยศพจะตั้งบำเพ็ญกุศล จนถึงวันที่ 25 พ.ย. 63 แล้วจะเคลื่อนศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดวัดป่าเทพสถิตนิมิตมงคลบ้านคำบอน
ขณะเป็นสามีภรรยากันเคยถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 61 เลข 149840 รวม 15 ใบ และเลขท้ายสองตัวอีก 40 ใบ รวมเป็นเงินรางวัลสูงถึง 90 ล้านบาท จากนั้น ผ่านมาแค่ 2 ปี หย่าขาดจากกัน โดยเจ๊อ๋อเปิดใจจ้างหย่าสามี 50 ล้านบาท และเสี่ยเต้ยออกมาโต้ตอบ ว่าเงินที่ได้เพียง 30 ล้านบาท และไม่ได้เป็นการจ้างหย่า เงินที่ได้มาเป็นสินสมรส จนเป็นข่าวก่อนหน้านี้นั้น
นอกจากนี้ โพสต์สุดท้ายของเสี่ยเต้ย มีการไลฟ์และพูดว่าชีวิตของคนเรามันสั้น ไม่รู้ว่าจะตายวันไหน หรือเราอาจจะฆ่าตัวตายก็ได้ เพราะตอนนี้เป็นโรคซึมเศร้า
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่อนางวรรณลี หรือ เจ๊อ๋อ เจ้าตัวระบุว่า ออกมาร่วมงานบุญที่ จ.ยโสธร ทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจ ขออโหสิกรรมให้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนบอกให้เสี่ยเต้ยทำบุญมาก ๆ เหมือนกับตน แต่ไม่ทราบว่าเสี่ยเต้ยได้ทำบุญไหม ทั้งนี้ ถ้าตนพอมีเวลาก็จะไปกลับร่วมงานศพหรือไปเผาศพเสี่ยเต้ยด้วย อีทั้งตนก็อยู่กับคนรักใหม่ จึงไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้เขาไม่สบายใจ
นายสนอง สุรัญกุล พี่ชายของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ น้องชายป่วยเป็นไข้หวัด กินยารักษาก็หายแล้ว หลังจากนั้นวันที่ 17 พ.ย. 63 ก็ออกไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า กลับมาก็ปวดขา แช่น้ำอุ่นแล้วทายาหม่อง จนเกิดปวดแสบปวดร้อนพองเหมือนถูกไฟลวก แล้วเอาน้ำแข็งมาถู
จากนั้น ขาน้องก็บวมผิดปกติ มีรอยช้ำไหม้ แน่นหน้าอก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นธรรมดา ไม่ได้ไปหาหมอ แล้วเขาคงทนไม่ไหวจึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่บ้านใกล้กัน ให้พาไปโรงพยาบาลหนองแสง ตอนนั้นญาติพี่น้องไม่มีใครรู้ว่าน้องชายไปโรงพยาบาล จากนั้นจึงโทรศัพท์ไปถามเพื่อนของน้อง ก็บอกว่าอยู่โรงพยาบาล พี่น้องจึงออกไปดูเห็นว่าเขาเหนื่อยหอบ และน้องทำประกันรักษาตัวอยู่จึงให้รถพยาบาลไปส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในตัวเมือง แต่ทางโรงพยาบาลบอกไม่มีคลังเลือด
จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี บอกว่าน้องติดเชื้อในกระแสเลือด และมีภาวะอวัยวะภายในหลายอย่างที่น้องเป็นไวรัสตับอักเสบก่อนหน้านี้ ตนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ต่อมาน้องเกล็ดเลือดต่ำ ตัวบวม แล้วตับไม่ทำงาน จนทำให้อาการหนักมาก เสียชีวิตประมาณใกล้เที่ยงคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทุกคนก็ตกใจ ร้องไห้เสียใจ ก่อนหน้านี้น้องก็รักษาตัวโรคตับอยู่ แต่ไม่หายขาดจนน้องมาดื่มหนักช่วงที่เป็นข่าว แต่ก่อนเสียชีวิตที่เป็นไข้ เขาไม่ดื่มมา 2-3 วัน คิดว่าน้องรู้ตัวเขาเอง บอกว่า "ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า คงอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี"
นางระยอง คลื่นแก้ว อายุ 47 ปี พี่สาวคนที่ 2 ของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจมาก ทำใจไม่ได้ ก่อนหน้านี้น้องเคยป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบมานานแล้ว ช่วงนั้นก็หยุดดื่มเหล้ามานานแล้ว แต่หันกลับมาดื่มอีก และดื่มหนักมาก หลังจากนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ส่วนเรื่องทรัพย์สมบัติของน้อง ต้องรอคุยปรึกษากับพี่น้องในครอบครัวก่อน
ก่อนหน้านี้มีลางสังหรณ์ว่า น้องมาพูดว่า "จะโกรธกันไปทำไม เดี๋ยวก็ตายจากกันไปแล้ว" และก็พูดแบบนี้บ่อยมาก อีกอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข่าวทำให้เขากลับมาป่วยหนัก เขาบอกว่าอยากจะตาย อยู่ไปก็ปวดหัว เพราะเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนี้ครอบครัวของตนก็ไม่เคยโกรธเจ๊อ๋อ คิดสงสารด้วยซ้ำกับครอบครัวของเจ๊อ๋อ เราก็สนิทสนมกันรักใคร่เอ็นดูกัน
นางหัด ปัญญาใส แม่เจ๊อ๋อ อดีตภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนสนิทกับเต้ยมาก จนจะเป็นลูกคนหนึ่งเลย รู้สึกเสียใจกับที่เต้ยจากไปแบบกะทันหัน เขาเป็นคนดี ตนหาแบบเต้ยไม่ได้แล้ว ส่วนตนกับลูกสาวไม่ค่อยได้คุยกัน เพราะไม่ค่อยอยู่บ้าน ออกไปข้างนอกเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าลูกสาวจะไปคบใครเป็นจริงจัง และอีกอย่างใช้เงินเยอะ ตนกลัวเงินลูกจะหมดตัว
Advertisement