จากกรณีการเสียชีวิตกะทันหันของนายสมภาร สุรัญกุล หรือ เสี่ยเต้ย อายุ 40 ปี อดีตสามีของนางวรรณลี ปัญญาใส หรือ เจ๊อ๋อ อายุ 48 ปี สาวผู้โชคดีเคยถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 61 หมายเลข 149840 จำนวน 15 ใบ 90 ล้านบาท ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดนั้น
วันที่ 23 พ.ย. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของเสี่ยเต้ย เลขที่ 111 ม.4 บ้านคำบอน ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ซึ่งบรรยากาศงานศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยมีพระสงฆ์มาสวดศพตั้งแต่เวลา 17.30 น.
นางสาวสงกรานต์ สุรัญกุล หรือ หนิง อายุ 43 ปี พี่สาวของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า สำหรับความลำบากในวัยเด็ก ตนจำได้ว่าทุกคนอยู่ในวัยประถม พ่อแม่เป็นหนี้ ทำให้พ่อต้องไปทำงานก่อสร้างเพื่อหาเงินใช้หนี้ที่สร้างไว้ และทิ้งให้แม่ต้องเลี้ยงพวกตน ซึ่งลูก ๆ เองก็ต้องปากกัดตีนถีบ ตัดอ้อยและทำทุกอย่างเพื่อช่วยแม่ พี่น้องทุกคนจะแบ่งหน้าที่ทำงานในบ้าน ซึ่งตัวของเสี่ยเต้ยก็จะทำหน้าที่ขนน้ำมาใช้สอยในบ้าน เป็นคนขยันตั้งแต่เด็ก
สำหรับบ้านที่เต้ยอยู่ตอนนี้ เป็นบ้านที่เต้ยสร้างจากน้ำพักน้ำแรง และสร้างมาด้วยตัวเองทั้งหมด สร้างก่อนที่จะถูกลอตเตอรี่ สำหรับศพของเสี่ยเต้ยจะเผาในวันที่ 25 พ.ย. 63 ที่วัดบ้านคำบอน เรื่องทรัพย์สินนั้นญาติ ๆ ไม่ค่อยคิดถึงเรื่องแบบนั้น ปล่อยให้เป็นไปตามที่เขาพูด เขาเคยพูดว่า "เป็นอะไรมา ผมทำไว้หมดแล้ว" โดยปกติเสี่ยเต้ยไม่ช่วยใครง่าย ๆ จะให้ญาติ ๆ สู้ถึงที่สุดก่อน เขาถึงจะยอมช่วย
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากพินัยกรรมระบุให้เงินลูกบุญธรรม ทุกคนก็ต้องยอมรับความเป็นจริงตามที่เต้ยตัดสินใจ เพราะลูกบุญธรรมนั้นตนก็รัก ตอนนี้เจ้อ๋อยังไม่มาร่วมงาน แต่ส่งตัวแทนมาแสดงความเสียใจ ซึ่งทราบข่าวว่าจะเดินทางมาในวันเผา ตนอยากให้เจ้อ๋อมาร่วมงานศพ เพราะน้องชายรักเขามาก เสี่ยเต้ยก็เคยพูดถึงเจ้อ๋อทั้งน้ำตาว่า "เคยคิดฝากผีฝากไข้ ทำไมทำกับเขาได้ลงคอ" ซึ่งครอบครัวก็ไม่โกรธเจ้อ๋อ เพราะเขาก็ดีกับครอบครัวมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป
สุดท้าย สำหรับเรื่องพินัยกรรมนั้นน่าจะมีการเปิดหลังการเผา ส่วนเรื่องจะเชิญเจ้อ๋อมานั่งฟังพินัยกรรมด้วยหรือไม่นั้น ตนก็ยังไม่รู้ ต้องรอปรึกษาพี่ชาย แต่ในวันที่เปิดพินัยกรรมก็จะมีญาติพี่น้องร่วมกันทั้งหมด
นอกจากนี้ สำหรับรถยนต์และทรัพย์สินของเสี่ยเต้ยนั้นยังไม่มีใครรับเป็นผู้ดูแล มีเพียงรถกระบะที่นำมาขับซื้อของ
นายสนอง สุรัญกุล อายุ 50 ปี พี่ชายของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว ดีขึ้นระดับหนึ่ง ซึ่งในวัยเด็กตนเป็นคนที่ต่อสู้และเลี้ยงน้องมาตั้งแต่เด็ก เสี่ยเต้ยเป็นน้องเล็กสุดก็ไม่ค่อยได้รับความลำบากมากนัก เพราะพี่ก็ดูแลเขามา
เสี่ยเต้ยเคยพูดกับญาติว่า "ถ้าผมเป็นไรไป ให้ไปดูในตู้เซฟธนาคาร" ซึ่งมีพินัยกรรมเก็บเอาไว้ ซึ่งหลังจากที่เสี่ยเต้ยตาย พี่น้องก็ดูภายในบ้านก็ไม่เจอทรัพย์สินมีค่าอะไรเลย จึงเชื่อว่าสิ่งของน่าจะอยู่ในตู้เซฟ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเปิดตู้เซฟเมื่อไร แต่จะเปิดหลังเผาศพน้อง และจะดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่ถ้าพินัยกรรมระบุว่าจะให้เงินกับลูกบุญธรรม ญาติก็ตั้งใจจะให้เงินอยู่แล้ว เพราะรักลูกบุญธรรมของเต้ยมาก เนื่องจากเลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก แต่เพิ่งถูกพรากไปอยู่กับเจ้อ๋อในช่วงที่มีปัญหาความสัมพันธ์กับเสี่ยเต้ย
อย่างไรก็ตาม ในวันที่จะไปดูของในเซฟตนก็จะดำเนินการตามกฏหมาย และคิดว่าต้องชวนเจ้อ๋อไปดูในตู้เซฟด้วย ต้องให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และทุกคนก็ไม่โลภมากเกินไป เพราะมันไม่ใช่ของ ๆ เรา ขนาดบางคนมีเงินมากก็ยังไม่มีความสุขเลย ตอนนี้ก็คิดจัดงานศพเพื่อให้น้องชายได้ไปสบาย
ด้านทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดเผยว่า ตามหลักกฎหมายผู้ที่จะมีสิทธิ์รับผลประโยชน์กลุ่มแรกก็คือ พ่อแม่ ลูก เมีย กรณีเสี่ยเต้ยไม่มีภรรยา พ่อแม่เสียชีวิต มีพี่อีก 4 คน แต่เสี่ยเต้ยไปเซ็นรับรองบุตรบุญธรรมวัย 4 ขวบเอาไว้ ถ้าเป็นแบบนี้ทรัพย์มรดกทั้งหมดจะตกถึงบุตรบุญธรรมแต่เพียงผู้เดียว
ขณะเดียวกันแม้ว่า เจ๊อ๋อจะป็นผู้ปกครองเด็ก ก็ไม่สามารถจะถอนเงินไปใช้ได้ ถ้าจะใช้เงินก้อนนี้ต้องไปขออนุญาตจากศาล ส่วนลูกบุญธรรมต้องรอให้อายุ 20 ปีบริบูรณ์เสียก่อน ถึงจะมีสิทธิ์ใช้เงินเหล่านี้ได้
ขณะที่พี่น้อง ลุงป้าน้าอาของเสี่ยเต้ย จะขอแบ่งทรัพย์มรดกนั้น ทำได้เพียงต้องรอให้บุตรบุญธรรมแบ่งมรดกให้โดยสเน่หาเท่านั้น แต่ไม่ใช่การรับมรดก และต้องรอจนกว่าเด็กจะอายุ 20 ปี ถึงแม้ญาติเสี่ยเต้ยยื่นขอแบ่งมรดกกับศาล ศาลก็ยกคำร้อง เพราะไม่มีสิทธิ์ในมรดก
ที่วัดโคกศรีสว่าง บ้านหนองเหี้ย ต.หนองหว้า อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน พระอธิการไพบูลย์ ปุณญกาโม เจ้าอาวาสวัดโคกศรีสว่าง เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม - กลางเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนเป็นข่าว เจ้อ๋อได้บริจาคเงินทำบุญบูรณะวัดกว่า 5 ล้านบาท โดยได้บูรณะกุฏิใหม่ 2 หลัง, โรงครัว 1 หลัง, ห้องน้ำ 18 ห้อง, ศาลาวัด กำแพง, ซุ้มประตูวัดและเทพื้นคอนกรีตบริเวณวัด 6 ไร่ 1 งาน และอีกหลายอย่าง ซึ่งเจ้อ๋อทำบุญเยอะมาก
และนอกจากวัดนี้แล้ว ยังทำบุญวัดอีกหลายที่ ทั้งช่วยสาธารณะ โดยเจ้อ๋อทำบุญอย่างไม่เสียดายเงิน เพราะเขาเป็นคนชอบทำบุญตั้งแต่ก่อนถูกลอตเตอรี่ เมื่อก่อนตอนที่เจ้อ๋อมาทำบุญ ก็มักจะมีเสี่ยเต้ยเดินทางมาด้วย แต่หลังจากเขาเลิกกัน เจ้อ๋อก็ยังเดินหน้าทำบุญเพียงคนเดียว และอาตมาก็ไม่เคยเจอกับเสี่ยเต้ยอีกเลย
อย่างไรก็ตาม อาตมาก็ไม่รู้ว่าเขาเลิกกันด้วยเพราะสาเหตุอะไร แต่การที่เสี่ยเต้ยมาเสียชีวิตไป อาตมาก็รู้สึกเสียใจด้วย และตกใจที่เขาเสียชีวิตเร็วแบบนี้ สุดท้าย อาตมาก็อยากขอบคุณเจ้อ๋อที่ช่วยสร้างและบูรณะวัดประจำหมู่บ้านด้วย
Advertisement