จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 64 เวลา 10.40 น. ร.ต.อ.โพธิ์ พิกุล รอง สว.สส.(สอบสวน) สภ.ท่าใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่าพบรถยนต์เก๋งประสบอุบัติเหตุ ตกลงไปจมอยู่ก้นสระน้ำบ่อดินร้างบริเวณริมถนน ภายในซอยสุสานท่าใต้ บ้านท่าใต้ หมู่ 5 ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถด้วย ทราบชื่อนายถนอม ฉัยยา อายุ 51 ปี และ ด.ช.ธนพล (นามสมมติ) ลูกชายวัย 10 ขวบ ที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้น น.ส.ธนู บำรุงพงษ์ ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองนั้นได้ไปทำงานที่ จ.ระยอง และเมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงกว่าของ วันที่ 18 ก.ค.64 ด.ช.ธนพล ลูกชายของตนเอง ได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่าอยากมาอยู่กับตนเอง พร้อมกับบอกว่าจะเอาเงินจำนวน 2,000 บาทมาให้แม่ ก่อนที่จะวางสายไป จนเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันเดียวกัน ตนเองได้โทรกลับไปหาลูกชายอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
จนกระทั่งวันที่ 19 ก.ค.64 ตนเองก็พยายามโทรติดต่อหาลูกชายและสามี แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงตัดสินใจรีบเดินทางกลับมาหาที่ แต่ก็ไม่พบ จึงพร้อมญาติเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ท่าใหม่ จากนั้นตนเองพร้อมญาติก็พยายามออกตามหาทั้งวันทั้งคืน จนมาถึงวันนี้ ได้มาพบบริเวณริมสระน้ำทางซอยในหมู่บ้าน มีร่องรอยผิดสังเกต จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ให้มาช่วยค้นหาจนมาพบรถของสามีดังกล่าว
วันที่ 23 ก.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดตะกาดเง้า ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของทั้ง 2 พ่อลูก โดยตั้งโลงศพข้างกัน มีว่าวลายทหารวางไว้ข้างโลงศพของด.ช.ธนพล ซึ่งเป็นของเล่นที่ ด.ช.ธนพล ชื่นชอบและเล่นเป็นประจำ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นางสว่าง เร่งทรง อายุ 71 ปี น้าของนายถนอม เล่าว่า นายถนอม และ ด.ช.ธนพล ทั้งคู่ออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 64 ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. บอกว่าจะไปบ้านเพื่อนที่ตำบลโขมง และได้นำกล่องโฟมใส่ปูทะเลที่เก็บได้จากปากน้ำแขมหนูไปด้วย เพื่อจะนำไปขาย โดยนายถนอมมีท่าทีปกติ ไม่ได้มีอาการเครียดหรือพูดอะไรเป็นลางบอกเหตุ ก่อนที่ภรรยาของนายถนอมมาบอกว่า ติดต่อนายถนอมไม่ได้ ทางบ้านก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก พยายามถามไถ่คนรู้จัก แต่ก็ไม่มีใครพบ
จนกระทั่ง เมื่อวานนี้ภรรยานายถนอมได้มีการไปค้นหาแถวบ่อน้ำดังกล่าว และเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาค้นหา จนกระทั่งพบรถ ตนเองไม่ได้ไปดูด้วยเพราะทำใจไม่ได้ ก่อนหน้านี้ มีบางอย่างที่คิดว่าเป็นบางบอกเหตุ ก่อนจะเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ คือนายถนอมพายเรือไปหาปูที่ปากน้ำแขมหนูเพียงคนเดียว และเกิดลมมรสุมทำให้เรือจะพลิกคว่ำเฉียดตาย แต่นายถนอมกลับประคองเรือกลับเข้าฝั่งมาได้ จนมาประสบเหตุล่าสุดและเสียชีวิต หลังจากเกิดเหตุไม่มีวิญญาณหรือความฝันใด ๆ เลย ทุกอย่างปกติ
ที่ผ่านมาทั้งนายถนอม และ ด.ช.ธนพล สนิทสนมกันมาก เป็นพ่อลูกที่น่ารัก และไปหามาไหนด้วยกันตลอด ทั้งคู่นิสัยดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่เคยมีเรื่องเครียด ส่วนปมเหตุครั้งนี้มองว่าน่าจะเกิดจากความมึนเมา และทำให้รถเสียหลัก ไม่ใช่การจงใจฆ่าตัวตาย เพราะจากการสอบถามเพื่อนของนายถนอมบอกว่านายถนอมเมามากก่อนจะออกไปจากบ้าน ซึ่งทางญาติไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต แต่อย่างใด ตนเองอยากขอให้ทั้ง 2 คนไปสู่สุคติ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีกแล้ว
นางลาวัลย์ ล้อมวง อายุ 48 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต ระบุว่า วันที่ 18 ก.ค.64 ผู้ตายและลูกชายมาหาตนเองตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. โดยนำปูทะเลมาให้ประมาณ 1 กิโลกรัม และมีการดื่มเหล้าตามปกติ ดื่มไปไม่มากก็มีอาการเมา เพราะนายถนอมดื่มเหล้าทั้งวันอยู่แล้ว แต่ยังคงมีสติ จากนั้นนายถนอมได้ขอตัวกลับบ้าน เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. มีอาการเมาเล็กน้อย แต่ยังมีสติอยู่ และยังสามารถขับรถได้ตามปกติ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อนายถนอมได้อีก
โดยก่อนจะกลับ นายถนอมบอกกับตนเองว่าอยากจะรับประทานแกงเป็ด ให้แกงให้กินในวันพรุ่งนี้ โดยให้เงินไว้จำนวน 400 บาท และจะมารับประทานในวันพรุ่งนี้เช้า พอรุ่งเช้าตัวเองก็ทำแกงเป็ดเตรียมไว้ให้นายถนอม แต่นายถนอมไม่ได้เดินทางมา รวมถึงญาติของนายถนอมได้ติดต่อมาบอกว่านายถนอมไม่กลับบ้าน และติดต่อไม่ได้ ตนเองก็ตกใจจนกระทั่งมาพบว่านายถนอมและลูกชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
นายศุภกร ล้วนรัตน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ คาดว่าน่าจะมีรถเก๋งตกลงไปในบ่อน้ำเมื่อมาถึงจากการตรวจสอบเบื้องต้น ก็เห็นลักษณะเป็นรอยรถตกบ่อน้ำพอดี เมื่อมองลงไปริมน้ำ ก็พบชิ้นส่วนของรถเก๋งอยู่ภายในน้ำ จึงขอกำลังนักประดาน้ำจากมูลนิธิ
เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ 5 คนลงไปในบ่อ และปูพรมค้นหาแบบหน้ากระดาน ค้นหาเพียง 15 นาที จนกระทั่งพบรถเก๋งอยู่บริเวณกลางบ่อน้ำ มีตะไคร่ขึ้น ห่างจากฝั่งประมาณ 5 เมตร ซึ่งบริเวณจุดที่พบ รถน้ำค่อนข้างลึกประมาณ 10 เมตร ลักษณะรถหน้ารถทิ่มกับพื้นดิน ตัวท้ายรถชี้ขึ้นฟ้า
ทั้งนี้ ตนเองมองว่าวันที่เกิดเหตุมีฝนตกและถนนลื่นประกอบกับช่วงกลางคืนพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างมืดไม่มีไฟสองสว่าง ทำให้รถเสียหลักตกบ่อน้ำ ไม่เกี่ยวข้องกับอาถรรพ์ใด ๆ โดยก่อนหน้านี้บริเวณบ่อน้ำไม่เคยมีอุบัติเหตุมาก่อน
สถานีโทรทัศน์ เอบีซี นิวส์ ของสหรัฐฯ เผยแพร่คลิปวิดีโอแนะนำการเอาชีวิตรอด จากการประสบเหตุติดอยู่ในรถยนต์หรือยานพาหนะที่กำลังจมน้ำ โดยระบุว่าผู้ประสบเหตุอาจมีเวลาเพียงแค่ 20 วินาทีในการเอาชีวิตรอด หากช้ากว่านี้โอกาสรอดชีวิตจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ
คำแนะนำจาก ดร. กอร์ดอน กีสเบรคท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางน้ำ มหาวิทยาลัยมานิโตบาในแคนาดา ระบุว่า ทันทีที่รถตกลงไปในน้ำ ให้ผู้ที่อยู่ในรถทำตามขั้นตอนเหล่านี้ให้ได้ภายในเวลา 20 วินาที คือ
ขั้นที่ 1 ให้รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออก
ขั้นที่ 2 ให้รีบเปิดกระจกหน้าต่างด้านที่ติดอยู่กับตัวเองลงให้สุด
ขั้นที่ 3 ให้รีบพาตัวเองออกจากรถผ่านทางหน้าต่างที่เปิดอยู่ หากมีเด็ก ให้ผู้ใหญ่นำเด็กติดออกไปด้วย
แต่หากรถตกลงไปในน้ำ นานเกินกว่า 20 วินาทีไปแล้ว แรงดันของน้ำจะเริ่มเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งแม้แต่ผู้ชายวัยผู้ใหญ่ที่แข็งแรงก็จะเปิดประตู-หน้าต่างรถออกไปไม่ได้ และน้ำจะเริ่มไหลเข้ามาในห้องโดยสาร ผ่านช่องว่างที่ตัวถังรถมากขึ้นเรื่อย ซึ่งหากตกอยู่ในสถานการณ์นี้สิ่งที่ต้องทำ คือ
ขั้นที่ 1 ปลดเข็มขัดนิรภัย
ขั้นที่ 2 ใช้ของแข็งทุบกระจกหน้าต่างรถด้วยความรวดเร็ว และมีสติ อย่าทุบกระจกด้านหน้ารถ เพราะจะต้องใช้เวลามากกว่า
ขั้นที่ 3 พาตัวเองออกจากรถ ผ่านทางช่องหน้าต่างที่ถูกทุบจนแตก
ขอบคุณภาพ ABC News https://www.youtube.com/watch?v=fymjbkGSta8
Advertisement