กลายเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันบนโลกออนไลน์จนได้ เมื่อสาวรายหนึ่งใช้เฟซบุ๊กโพสต์รูปภาพป้ายทะเบียนรถยนต์จำนวนมาก ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหน้าบ้านหลังหนึ่ง โดยมีลุงคนที่ปรากฎอยู่มุมรูปยอมรับว่าเป็นคนเก็บไว้ได้ พร้อมเขียนข้อความเชิงตั้งคำถามว่า "แบบนี้ก็ได้เหรอ ทำน้ำท่วมป้ายหลุดเขาก็ต้องไปหาอยู่ดี ถึงลุงไม่หาเขาก็ต้องหาอยู่ดี แล้วมาเรียกเก็บใบละ 100 บาท แล้วดูกี่ใบ กะรวยเหรอถามจริง” ทำให้ชาวเน็ตเสียงแตก บางคนบอกว่าแค่ 100 บาทให้ไปเถอะ ถือเป็นสินน้ำใจ ในขณะที่อีกกลุ่มบอกว่าลุงทำแบบนี้ไม่เหมาะสม แต่ควรส่งคืนเจ้าของหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุดวันที่ 15 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงเดินทางไปยังพื้นที่ซึ่งปรากฏในรูปดังกล่าว บริเวณด้านหลัง รพ.บางนา 5 ซอยกรุงสยามวิลล่า ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนถึงทางด่วนช่วงถนนเทพารักษ์ พบว่าถนนบริเวณเต็มไปด้วยน้ำที่เกิดจากสถานการณ์น้ำท่วมช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน และมีหลุม บ่อ แอ่งบนถนนเป็นระยะ ๆ
ข้างถนนมีบ้านทั้งหมด 4 หลังติดกัน แต่ละหลังจะมีลักษณะคล้ายกัน คือ เป็นการนำสังกะสีและไม้อัดมาประกอบเป็นผนังบ้าน โดยบ้านของลุงที่ปรากฏในภาพ ทราบชื่อว่า นายชาตรี พลีพัฒนากร อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านหลังที่เก็บป้ายทะเบียนรถไว้ แต่วันนี้กลับพบว่าป้ายทะเบียนทั้งหมดเกือบ 200 ชิ้น ถูกนำส่งที่สถานีตำรวจแล้ว เหลือไว้เพียงแค่กรอบทะเบียนรถ ประมาณ 40-50 ชิ้น
นายชาตรี กล่าวว่า ตนเช่าพื้นที่ปลูกบ้านหลังนี้อาศัย เดือนละ 1,500 บาท อยู่กับภรรยา 1 คนที่ประกอบอาชีพสาวโรงงาน ส่วนตนเดิมทีเป็นพ่อครัว เปิดร้านขายข้าวขาหมูตุ๋นยาจีน เห็ดหอม สูตรเยาวราช แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงขาดรายได้เหลือเดือนละไม่ถึง 1,000 บาท แล้วยิ่งน้ำท่วมอีกก็ไม่สามารถเปิดร้านได้ ทำให้ต้องหาอาชีพเสริมด้วยการเก็บของเก่าตามริมถนน ขายได้ครั้งละ 200-300 บาท
ส่วนป้ายทะเบียนที่เป็นประเด็นนั้น จริง ๆ แล้วมันเกิดจากเมื่อรถขับผ่านถนนเส้นนี้ ที่มีหลุมและแอ่ง ทำให้ป้ายทะเบียนหลุด แล้วพอมันหลุดตนก็หวังดีเลยเก็บมาไว้ที่บ้าน บางทีเวลาที่ตนออกไปหาปลา ไปหาของเก่าริมถนน ถ้าเจอป้ายหล่นอยู่ข้างถนนก็จะเก็บกลับตั้งเรียงไว้หน้าบ้าน เพราะหวังว่าเผื่อวันหนึ่งเจ้าของรถจะวนกลับมาหา จะได้ให้คืนไป และทำแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงเดือนส.ค.63 ที่มีน้ำท่วมหนัก ๆ บางคนที่มารับคืนก็ให้สินน้ำใจตั้งแต่ 20-300 บาท ตนก็ขอบใจและขอสาธุอนุโมทนา
"บางทีคนที่รู้ว่าทำหายบริเวณนี้ ก็เข้ามาจ้างให้งม บางทีงมไปงมมาตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงโรงพยาบาล เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ก็เหยียบเข้ากับเศษแก้ว เศษกระเบื้อง บางทีเท้าเปื่อย ซึ่งเจอบ้างไม่เจอบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละละเคส หากเจอเขาก็จะให้ 100 บาท ยอมรับเลยว่าตั้งแต่เก็บมาปีกว่า ก็ได้เงินประมาณ 900 บาท แต่ในขณะเดียวกันมันก็ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยและค่ายา 200-300 บาทที่จะต้องซื้อมารักษาเท้าตัวเองเลย ส่วนตัวยืนยันว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ต้องการจะยึดเป็นอาชีพหลัก และไม่มีความคิดจะเก็บป้ายทะเบียนแล้วหากินกับเจ้าของป้ายด้วย เพราะรู้ดีว่าของแบบนี้มีเจ้าของ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนที่โพสต์แบบนั้นไป เขามีเจตนาอะไร" นายชาตรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้โกรธ แต่เสียความรู้สึกและเสียใจมากกว่า ทั้ง ๆ ที่ตนทำไปเพราะหวังดี ไม่คิดเลยว่าเขาจะตอบสนองตนแบบนี้ อยากให้ใช้สมองคิดก่อนโพสต์ กับแค่เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่น่าจะถึงขั้นเป็นเรื่องถึงตำรวจ แล้วยิ่งตำรวจมาบอกว่าให้ตนเอาป้ายไปเก็บไว้ที่โรงพัก ตนก็อยากจะย้อนถามกลับไปว่า "จะให้เอาไปยังไง มีแค่รถจักรยานแค่ 2 คัน แล้วป้ายก็เยอะแยะขนากนั้น ขนไปไม่ไหวหรอก ตอนนี้รู้สึกเข็ดมาก ๆ หลังจากนี้หากเจอป้ายทะเบียนใครหลุดลอยบริเวณหน้าบ้าน ก็จะไม่เก็บอีก ปล่อยให้เจ้าของมาเก็บเอง ก็จะไม่ช่วยใครอีก"
Advertisement