จากกรณีที่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศงดพูดเรื่องการเมือง 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากเมื่อวานนี้ (29 พ.ค.) สื่อมวลชนซักถามเกี่ยวกับประเด็นเรื่องประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง ที่นักการเมืองออกมาเคลื่อนไหวโจมตี จนอาจทำให้นายกฯ ไม่พอใจ
ล่าสุดวันนี้ (30 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งปกติแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นผู้แถลงข่าวผลการประชุมครม. และประเด็นต่างๆ ที่สื่อมวลชนถามด้วยตนเอง แต่วันนี้กลับปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยเขียนตอบคำถามเป็นลายลักษณ์อักษรแทน และให้ทีมงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลงรายละเอียดทั้งหมด 11 ข้อ ดังนี้
1.กรณีรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่า เหตุระเบิดภาคใต้ของไทยเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวของไอเอส หลังผู้นำไอเอสมาเลเซียกลุ่มคาติบาห์ นุซันทรา ถูกสังหารที่ซีเรีย รวมถึงเหตุระเบิดบนเกาะมินดาเนาอินโดนีเซีย มีส่วนเชื่อมโยงกันกับไทยด้วยจริงหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า รัฐบาลยืนยันว่ายังตรวจสอบไม่พบว่าเป็นการปฏิบัติของกลุ่มดังกล่าว หากมีหลักฐานพิสูจน์ทราบที่ชัดเจน จะแจ้งให้ทราบ ขณะนี้ให้ทุกคนช่วยกันเฝ้าระวัง สังเกต ทำงานข่าวร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ การวิพากษ์วิจารณ์ขยายข่าวดังกล่าว ระวัง จะมีผลกระทบกับประเทศ
2.นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวหรือไม่และมีความเห็นอย่างไรต่อการให้สัมภาษณ์ของรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกฯ ตอบว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานความมั่นคงได้ติดตาม สืบสวน สอบสวน เราต้องยุติปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศให้ได้โดยเร็ว ไม่ให้ขบวนการรุนแรงนอกประเทศเข้ามาแทรกแซง
3.จากคำถาม 4 ข้อ ของนายกรัฐมนตรี นายกมนตรีมั่นใจหรือไม่ว่า จะได้คำตอบจริงๆ จากประชาชนหรือไม่ เพราะเกรงกันว่า จะมีการกลั่นกรองเอาแต่คำตอบที่ถูกใจนายกรัฐมนตรี นายกฯ ตอบว่า ผมไม่มีความตั้งใจจะได้คำตอบที่ถูกใจ หรือไม่ตรงใจ ผมต้องการสร้างการเรียนรู้ว่าประชาชนจะช่วยกันอย่างไรให้ได้รัฐบาลที่ดี มีธรรมาภิบาลในการบริหารบ้านเมืองต่อไป ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ตัวนายกรัฐมนตรีเลย เพราะการเลือกตั้ง ประชาชนเป็นผู้เลือก ต้องเลือกด้วยความรอบคอบ
4.ความคืบหน้าเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ล่าสุดรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วหรือไม่ เพราะข้อมูลยังไม่ตรงกันจากผู้รับผิดชอบ และเกี่ยวกับชื่อผู้ต้องสงสัยของ ผบ.ทบ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าอย่างไร และได้รับรายงานจาก ผบ.ตร และผบ.ทบ เกี่ยวกับเหตุระเบิดแล้วหรือยัง นายกฯ ตอบว่า ยังอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน เอาไว้รอให้ออกหมายจับ จับกุมได้ กำลังทำงานอยู่
5.ทางการมาเลเซียให้ข่าวหลายครั้งว่าพื้นที่ชายแดนใต้ของไทยเป็นพื้นที่หลบซ่อนของไอเอส และมีเหตุโจมตีบางครั้งเกี่ยวกับไอเอส นายกรัฐมนตรีจะให้การยืนยันได้ไหมว่าไม่เกี่ยว นายกฯ ตอบว่า ใช้คำว่ายืนยันไม่ได้ ใช้คำว่าตรวจสอบยังไม่พบ ทั้งงานด้านการข่าว การสืบสวนสอบสวนยังไม่พบความเชื่อมโยง พบเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบ อย่าชักศึกเข้าบ้าน เตรียมคนเราให้พร้อม
6.การพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้เพื่อกำหนดพื้นที่ปลอดภัยไปถึงไหนแล้ว ขณะที่กลุ่มบีอาร์เอ็นปรับโครงสร้างและยื่นเงื่อนไขพูดคุย รัฐบาลจะว่าอย่างไรบ้าง นายกฯ ตอบว่า ทราบว่าเริ่มพูดคุยเพื่อกำหนดพื้นที่บ้างแล้ว แต่ยังต้องพิจารณาในเงื่อนไขต่างๆ ที่ทั้ง สองฝ่ายต้องการ ให้สอดคล้องและเข้าใจตรงกัน ที่สำคัญคือ การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันให้สนใจ 1.การพัฒนา 2. การบังคับใช้กฎหมายปกติ การพูดคุยสันติสุขเป็นวิธีการของสากลที่ปฏิบัติไปด้วยกัน
7.เรื่องหญิงไทยถูกล่อลวงไปค้ากามสหรัฐอมเริกา ขณะที่ในไทยก็มีปัญหาค้ากามเด็ก มีข้าราชการเกี่ยวข้อง รัฐบาลจะมีมาตรการอย่างไร นายกฯ ตอบว่า มันเป็นวงจรอุบาทว์ที่มีทั้งผู้ไม่สุจริต ผู้สมัครใจ ผู้ถูกล่อลวง เจ้าหน้าที่ต้องปราบปรามทุกกระบวนการให้ครบวงจร
8.เรื่องรถหรูเลี่ยงภาษีและถูกโจรกรรมจากต่างประเทศ โยงข้าราชการจำนวนมาก รัฐบาลมีนโยบายอย่างไรเพื่อไม่ให้ลูบหน้าปะจมูกเหมือนที่ผ่าน ๆ มา นายกฯ ตอบว่า แต่ก่อนมีคดีแบบนี้เกิดขึ้นหรือไม่ รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง กรมศุลกากร ได้รื้อเรื่องนี้ออกมาให้ทบทวน เร่งรัดดำเนินคดี นี่คือความแตกต่างของรัฐบาลนี้ ซึ่งเกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ทุกวงการ อย่าบอกว่า รัฐบาลไม่มีผลงานในเรื่องปราบปรามการทุจริต
9.หลังลงพื้นที่ และให้นโยบาย คิดว่าฤดูฝนปีนี้จะสามารถรับมือกับปริมาณน้ำได้หรือไม่โดยเฉพาะใน กทม. นายกฯ ตอบว่า ถ้าฝนไม่มากเกินปกติ พอจะแก้ไขให้ทุเลาได้ แต่การจะแก้ไขได้อย่างยั่งยืน ต้องแก้ทั้งระบบ ตั้งแต่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ป้องกันพื้นที่กทม. พื้นที่ ตะวันตกและตะวันออก แม่น้ำเจ้าพระยา
10.กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล และมีมาตรการช่วยเหลือในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม – พื้นที่ลุ่มต่างๆ อย่างไร นายกฯ ตอบว่า มีแผนอยู่แล้ว มีงบประมาณของผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่แล้ว รัฐบาลพร้อมเติมมาตรการ/งบประมาณลงไปเพิ่มเติมขีดความสามารถ
11.กรณีสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (สปท.) ส่งผลการศึกษาและมีข้อเสนอแนะถึง นายกรัฐมนตรีให้ปลดบอร์ดบริษัทท่าอากาศยานไทย และยกเลิกสัญญากับคิงพาวเวอร์ มีความคืบหน้าอย่างไร รวมทั้งได้สั่งการอะไรเพิ่มเติม และจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ นายกฯ ตอบว่า การสอบสวนและกฎหมายว่าอย่างไร แจ้งความกันหรือยัง ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่รัฐบาลจะเอาเรื่องที่มีกระแสมาทำโดยไม่มีที่มา หลักฐานการทุจริต ผู้เสียหาย กระบวนการยุติธรรมว่าอย่างไร ฯลฯ
ข้อมูลจาก Thaigov
