สุดเวทนา! ผู้ป่วยเอดส์ ถูกทิ้งกำแพงวัดพระบาทน้ำพุ หลวงพ่อเผยเป็นแบบนี้มา 20 ปี (คลิป)

6 พ.ย. 61
กรณีเฟสบุ๊ก วัดพระบาทน้ำพุ เผยแพร่คลิปวีดีโอโดยมีผู้ป่วยติดเชื้อ HIV นอนอยู่บนเตียงข้างกำแพงวัด พร้อมระบุข้อความในคอมเมนต์ว่า การนำผู้ป่วยมาฝากให้วัดพระบาทน้ำพุดูแล จะต้องมีเอกสารหลายอย่างในการนำส่งตัวผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นประวัติการรักษา เอกสารส่วนตัว ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ใบเซ็นยินยอมของญาติ และการพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติในการรับผู้ป่วย
โพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก วัดพระบาทน้ำพุ
ซึ่งทางวัดพระบาทน้ำพุไม่เคยปฏิเสธผู้ป่วย และวัดไม่อยากให้มีเหตุการณ์นำผู้ป่วยมาทิ้งไว้แบบกรณีดังกล่าว (อ่าน : สลด! ผู้ป่วยเอดส์ถูกทิ้งหน้าวัดพระบาทน้ำพุ ชาวเน็ตติงญาติต้องดูแล อย่าผลักภาระ)
พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี
วันนี้ 5 พ.ย. 61 พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ชี้แจงว่า กรณีการทิ้งผู้ป่วยไว้บริเวณหน้าวัด เป็นปัญหาของวัดมากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งก็มักจะมีผู้ป่วยถูกทอดทิ้งอย่างนี้อยู่เสมอ โดยประเด็นของการทอดทิ้ง ก็จะแตกต่างกันไป อย่างในกรณีนี้ เป็นเพื่อนบ้านที่นำส่งมารักษาตัวที่วัด ส่วนครอบครัวของผู้ป่วย ทราบมาว่าผู้ป่วยมีลูกชาย 1 คน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพื่อนบ้านจึงเอามาส่งไว้ที่วัด ซึ่งทางวัดก็เข้าใจและรู้สึกเห็นใจ เพราะคนที่นำมาทิ้งไว้ คงไม่อยากยุ่งยากที่ต้องมารับผิดชอบชีวิตผู้ป่วย ซึ่งหากมาทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่ก็มารับเข้าไปดูแลเอง แต่ปัญหาที่ตามมา คือ ผู้ป่วยที่ไม่มีญาติรับรอง เช่น บัตรประชาชน วัดก็จะไม่มีประวัติการรักษา เพราะวัดต้องดำเนินการรักษาตัวให้กับผู้ป่วยด้วย ซึ่งวัดต้องเสียเวลาตรวจสอบประวัติ เช็กข้อมูลของญาติและประวัติการรับการรักษา รวมถึงโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในการคัดกรอง เช่น บางรายป่วยเป็นวัณโรค มาอยู่รวมกับผู้ป่วยคนอื่น อาจทำให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ผู้ป่วยคนอื่นได้ แต่หากมีประวัติการรักษา ทางวัดก็จะได้รู้ว่าควรดูแลผู้ป่วยอย่างไรต่อไป ถึงแม้ว่าวัดจะยินดีรับผู้ป่วยทุกคน แต่ก็ต้องการขอความร่วมมือครอบครัวผู้ป่วย ให้เป็นผู้นำคนป่วยมาเอง ซึ่งแม้บางครั้งญาติจะไม่อยากรับภาระหรือจ้างวานคนอื่นมาส่ง ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะซึมเศร้า รับไม่ได้ที่ถูกรังเกียจทอดทิ้ง
ผู้ป่วยที่ถูกทอดทิ้ง
เจ้าอาวาส วัดพระบาทน้ำพุ ระบุว่า จากกระแสสังคมที่มองว่า การทิ้งผู้ป่วยไว้ที่วัดนั้น ไม่ต่างจากทอดทิ้งแมวหรือสุนัขไว้ตามวัด จึงอยากให้มองในมุมของคนมีน้ำใจ พาผู้ป่วยไปส่งถึงหน้าวัด แม้เขาไม่ใช่ญาติ แต่เขาก็ทำความดี ด้วยการนำผู้ป่วยไปส่ง ตนไม่อยากให้มองว่าเป็นการทอดทิ้ง เพราะบุคคลเหล่านั้น รับรู้เพียงแค่ว่าเป็นผู้ป่วยเป็นโรคเอดส์ และกำลังจะตาย อย่างไรก็ตาม พามาที่วัดย่อมดีกว่าทิ้งไว้ตามข้างทาง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ