สาวเจอหนุ่มหน้าลายก่อนหายลับเขาใหญ่ ยันถึงดูเถื่อนแต่มีน้ำใจ - แม่ร่ำไห้ จนท.ยุติค้น (คลิป)

6 พ.ย. 61
จากกรณีนายธนทัต ติยพงษ์พัฒนา อายุ 22 ปี ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ หายตัวออกจากบ้านและไปเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อทดสอบพลังของเหรียญครุฑ ที่เจ้าตัวเชื่อว่าจะทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย กระทั่งมีคนเจอเหรียญครุฑที่มีรูปร่างคล้ายกับเหรียญที่นายธนทัตพกพาตอนออกจากบ้าน ตกอยู่ ณ ที่ทำการด่านเนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ขณะที่เจ้าหน้าที่จัดกำลังเข้าป่าเพื่อช่วยตามหาผู้สูญหาย
นายธนทัต ติยพงษ์พัฒนา ผู้สูญหาย
วันที่ 5 พ.ย. 61 เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหานายธนทัตต่อ โดยจัดเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนชุดเฉพาะกิจเป็น 4 ทีม เดินเป็นลักษณะขึ้นลงเป็นฟันปลา ประมาณ 10 รอบ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเดินลาดตระเวนไม่น้อยกว่า 2-3 วัน ต่อ 1 ตารางกิโลเมตร
จุดที่ค้นหาตัวนายธนทัต

นอกจากนี้ได้นำโดรน จำนวน 2 ลำ บินขึ้นตรวจสอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ยังไม่พบร่องรอย ประกอบกับในพื้นที่เป็นเขต no fly drone ทำให้เป็นอุปสรรคในการควบคุมโดรน ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะยังคงค้นหาต่อไป

บรรยากาศการค้นหาตัวนายธนทัต
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี นำรูปภาพเหรียญพญาครุฑที่ถูกเก็บได้ที่ด่านเนินหอม จ.ปราจีนบุรี ให้กับ นางปรารถนา วิสุทธิกุล อายุ 55 ปี แม่ของนายธนทัต ตรวจสอบดูว่าเป็นเหรียญเดียวกันกับเหรียญที่นายธนทัตพกพาติดตัวไปหรือไม่ โดยนางปรารถนา เปิดเผยว่า ตนไม่มั่นใจว่าเป็นเหรียญเดียวกันหรือไม่ แต่เป็นเหรียญแบบเดียวกันกับปี พ.ศ.2517 ทั้งนี้ ถ้าหากลูกข้ามเขาใหญ่ไป จ.ปราจีนบุรี จริง ตนก็จะไปแจ้งความที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อให้ตำรวจช่วยตรวจสอบและค้นหาตัวลูกชายด้วย
นางปรารถนา วิสุทธิกุล แม่ของนายธนทัต
ซึ่งตามความเชื่อ เหรียญดังกล่าวเป็นรูปพญาครุฑ ทำให้ลูกตนเชื่อว่าการเข้าป่าจะปลอดภัย และมีพญาครุฑคุ้มครอง โดยลูกของตนได้เหรียญดังกล่าวจากน้าสาว เนื่องจากน้าสาวรู้ว่าลูกของตนมีความชอบในเรื่องดังกล่าว จึงเกิดความเอ็นดูและมอบเหรียญดังกล่าวให้ หลังไปช่วยน้าสาวขายของ ซึ่งน้าสาวก็ไม่ได้รู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญ โดยลูกตนได้รับเหรียญ ตนก็บอกให้ลูกเก็บใส่ซองยาไว้ แล้วลูกก็เริ่มพูดถึงการเดินป่า และอยากไปเที่ยวเขาใหญ่อยู่เรื่อย ๆ หลังจากนั้นเพียง 1-2 สัปดาห์ ก็ได้หายตัวไป
เหรียญพญาครุฑ พบที่เขาใหญ่ คาดว่านายธนทัตอาจทำตกไว้
นางปรารถนา กล่าวต่อว่า ตนรู้ว่าลูกเป็นคนที่มีความคิดสุดโต่ง และอยากลองสิ่งใหม่อยู่เสมอ จึงทำให้ตนมั่นใจว่าลูกไปอุทยานเขาใหญ่ เพื่อทดลองอำนาจของเหรียญพญาครุฑอย่างแน่นอน เพราะจากพฤติกรรมก่อนหน้านี้ ลูกมีความชื่นชอบนักธุรกิจรายหนึ่ง จนต้องขับรถไปถึงโรงงานของนักธุรกิจ จึงทำให้ตนมั่นใจว่าลูกจะไปตามสถานที่ที่เขาพูดถึง แต่โดยปกติแล้วลูกของตนจะไปแค่ 3 วัน แล้วจะกลับมาบ้าน ซึ่งต่างกับครั้งนี้ที่หายตัวไปนาน นอกจากนี้ ตนมีสัญชาตญาณว่าลูกของตนกำลังโหยหาแม่ และกำลังคิดถึงตน รอให้ตามหา ตนอยากกอดลูกมาก เพราะโดยปกติจะกอดกันเป็นประจำ และมีความผูกพันธ์กันมาก ถ้าหากได้เจอตัวลูก จะทำน้ำพริกกะปิ ของโปรดลูกให้ทาน เพราะเชื่อว่าตอนนี้ลูกคงหิวมาก และลูกกำลังสำนึก เพราะทุกครั้งที่ลูกออกไปเจออุปสรรคในชีวิต ลูกมักจะกลับมาบอกตนว่า "รู้อย่างนี้ เชื่อใจสิ่งที่แม่เตือนดีกว่า" นางปรารถนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ในสายใยของแม่และลูก ทำให้ตนเชื่อว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ เพราะเขายังไม่หายไปจากใจเรา เขายังอยู่ เพียงแต่เขากำลังอ่อนแรง เขาก็คงหวังให้เราตามหา และเขาก็คงอยากกอดตนมาก
น.ส.เฟิร์น (นามสมมติ) คนที่เจอนายธนทัตก่อนสูญหาย
น.ส.เฟิร์น (นามสมมติ) ผู้พบเห็นนายธนทัตก่อนหายตัวไปสูญหาย เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 ส.ค. 61 ตนและเพื่อนอีกคนพบกับนายธนทัต ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยตนได้นั่งรถสองแถวประจำทางมาพร้อมกับนายธนทัต ซึ่งตนจำได้อย่างชัดเจนว่าเขามาคนเดียว มีรอยสักที่ใบหน้า แต่ระหว่างทางนั้นนายธนทัตได้ช่วยยกของให้ลุงและป้าที่นั่งมาบนรถประจำทาง ดูเป็นคนดีและมีน้ำใจ จึงทำให้ตนจำนายธนทัตได้อย่างแม่นยำ น.ส.เฟิร์น กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนได้ลงรถประจำทางตนได้ให้พี่สาวขับรถเก๋งมารับ ในระหว่างทางขึ้นเขาใหญ่ตนสังเกตเห็นนายธนทัตกำลังเดินอยู่ริมทาง มุ่งหน้าขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งห่างจากด่านเก็บเงินมาประมาณ 2 กม. ซึ่งตนเห็นนายธนทัตเดินปาดเหงื่อ เหมือนคนกำลังเหนื่อย ตนจึงขอให้พี่สาวจอดรับ ซึ่งเมื่อถามว่าจะไปไหน เขาก็ทำท่าทีเหมือนกำลังคิด และตอบว่าจะไปเที่ยวบนเขา ซึ่งตนได้ชวนขึ้นรถไปด้วย หลังจากนั้นนายธนทัตได้ยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะขึ้นมาบนรถ ในระหว่างทางตนได้พูดคุยกับนายธนทัต ซึ่งเขาบอกว่าจะไปกางเต็นท์นอนบนเขา ซึ่งตนและพี่สาวได้ส่งให้นายธนทัตลงที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อให้เขาไปขอแผนที่ในการเที่ยว หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้พบนายธนทัตอีกเลย นอกจากนี้ น.ส.เฟิร์น ยังบอกอีกว่า ตนสังเกตว่าเขาถือถุงสีขาวมา 1 ใบ แต่ตนไม่ได้สังเกตเลยว่านายธนทัตได้ถืออะไรมาในถุง แต่เท่าที่จำได้คือระหว่างที่นั่งบนรถ 2 แถวนั้นนายธนทัตมาตัวเปล่า ไม่ได้ถืออะไรมาด้วย สาเหตุที่ตนกล้ารับนายธนทัตขึ้นมาบนรถ เพราะตนรู้สึกสงสาร และเนื่องจากได้เห็นพฤติกรรมของเขาบนรถสองแถวก่อนหน้านี้ก็มั่นใจว่าเขาเป็นคนดี ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเขาหายตัวไปก็รู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะไปเขาป่า เพราะตนคิดว่านายธนทัตเป็นคนอินดี้ และมาเที่ยวคนเดียว ตนอยากให้เจอมาก เพราะเขาหายตัวไปหลายวันแล้วกลัวว่าจะเป็นอันตราย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ