เหตุน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 14 ปีของศรีลังกาเริ่มคลี่คลาย แต่ประชาชนจำนวนหลายแสนคน จากจำนวนผู้ประสบทั้งหมดกว่า 650,000 คน ยังคงต้องใช้ชีวิตในฐานะของ “คนไร้บ้าน” ที่ต้อง “เริ่มต้นชีวิตใหม่” ด้วยการอาศัยในเพิงพักชั่วคราวที่สร้างขึ้นจากวัสดุที่หาได้แบบตามมีตามเกิด ด้านกาชาดเตือน รัฐบาลศรีลังกาต้องเร่งเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัย ก่อนที่ผู้คนจำนวนมากจะล้มป่วยด้วย “โรคซึมเศร้า”
รายงานข่าวระบุว่า น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆของศรีลังกาได้เริ่มลดระดับลง จนประชาชนในหลายพื้นที่สามารถเดินทางกลับเข้าไปฟื้นฟู-ทำความสะอาดบ้านเรือนของตนได้แล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 ของศรีลังกาได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 206 ศพ และยอดผู้สูญหายยังอยู่ที่เกือบ 100 ราย
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวระบุว่า ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวนหลายแสนคน จากทั้งหมดกว่า 650,000 คน กลับต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในสภาพที่เป็นคนไร้บ้าน และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ “สูญเสียทั้งบ้านและสมาชิกในครอบครัว” จากผลพวงของน้ำท่วมครั้งใหญ่จากอิทธิพลของพายุไซโคลน “โมรา”
ด้าน ญากัตธา อาเบย์สิงเห ประธานสภากาชาดแห่งศรีลังกา ออกมาเตือนรัฐบาลให้เร่งดำเนินมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ โดยเฉพาะการเยียวยาทางด้านจิตใจ เนื่องจากมีแนวโน้มที่ผู้ประสบภัยจำนวนมากอาจล้มป่วยด้วยโรคซึมเศร้า
ขณะเดียวกัน ประธานสภากาชาดศรีลังกาได้เตือนเพิ่มเติมว่า นับจากนี้รัฐบาลศรีลังกาจะต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญในการรับมือกับ “โรคระบาดนานาชนิด” หลังน้ำลด โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย เช่น โรคท้องร่วง อหิวาตกโรค ตลอดจนไข้เลือดออก