จากกรณี วันที่ 29 พ.ย. 61 นร.ต.อ.กุลธวัช รวมจิตร ร้อยเวร สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุ ผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันภายในซอยบ้านสวน - เศรษฐกิจ 34 ซึ่งเป็นห้องแถวชั้นเดียวเลขที่ 29/124 หมู่ 6 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุ พบกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 5 นัด และแมกกาซีนตกอยู่ 1 อัน และโทรศัพท์มือถือของคนร้าย 1 เครื่อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
วันที่ 30 พ.ย. 61 จากการสอบถาม
นายพงษ์เดช สังกะ อายุ 27 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตนนอนหลับอยู่ภายในห้อง นายปาม นาป่า ซึ่งเป็นชื่อของอวตารของคู่กรณี เดินเข้ามาในห้อง ขณะนั้นตนสะดุ้งตื่นพอดี ปรากฏว่า ตนเห็นนายปามยืนถือปืนกำลังยิง ตนจึงรีบจับสไลด์ปืนเพื่อไม่ให้สามารถเหนี่ยวไกได้
หลังจากนั้นจึงเกิดการต่อสู้กัน ตนจึงเรียกนายคำรณ สังกะ ผู้เป็นพ่อ มาช่วยเหลือ เมื่อพ่อของตนมาถึงที่เกิดเหตุ จึงใช้ไม้ตีนายปามเข้าบริเวณแขนและกลางหลัง ทำให้แมกกาซีนปืนหลุดตกลงมา แต่นายปามยังไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ ยังสไลด์ปืนหวังว่าจะยิงซ้ำอีก แต่ปรากฏว่า ปืนขัดลำกล้อง จึงใช้ปืนตบเข้าบริเวณกกหูของตนจนเลือดออก จากนั้นจึงวิ่งหนีไป
นายพงศ์เดช กล่าวว่า สาเหตุที่นายปามเข้ามาในบ้านจะมายิงตนนั้น อาจมาจากแรงหึงของนายปาม เนื่องจากนายปาล์มมาจีบแฟนเก่าของตน และตนก็ไปจีบแฟนเก่าของนายปาม ต่อมานายปามทราบเรื่องเนื่องจากเห็นข้อความที่ตนพูดคุยกับแฟนเก่าของตัวเอง จึงอาจเกิดความหึงหวงและก่อเหตุดังกล่าวขึ้น นอกจากนี้ ตนและนายปามเคยเคลียร์ปัญหาไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่คิดว่านายปามจะมาเอาชีวิตถึงในห้องนอน
โดยหลังจากตำรวจเก็บหลักฐานเสร็จแล้ว จะได้ตามนายปามมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง หากไม่มาพบ พนักงานสอบสวนจะออกหมายจับ ข้อหาพยายามฆ่าและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
นายคำรณ สังกะ พ่อของนายพงศ์เดช กล่าวว่า ตนขอให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะหากขณะเกิดเหตุ ตนไม่ได้เข้าไปช่วย ลูกก็คงโดนยิงตายไปแล้ว โดยช่วงเกิดเหตุมีผู้หญิงที่เห็นเหตุการณ์มาเรียกว่า บอกตนว่าลูกชายตนโดนรุมอยู่ ผมจึงรีบคว้าท่อแป๊บวิ่งเข้าไปช่วยตีให้คนร้ายหยุด จากนั้น ตนเห็นคนร้ายถือปืน จึงพยายามตีแขนให้ปืนร่วง ช่วงนั้นทั้งคู่แยกกัน ตนคิดว่าคู่กรณีจอดรถไว้ด้านนอก จากนั้นคนร้ายกว่าคว้ามือลูกชายตนวิ่งเข้าห้อง แล้วล็อกประตู แล้วทำร้ายร่างกาย