20 ธ.ค. 64 นายแพทย์ ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ว่าองค์การอนามัยโลกจัดให้โอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่าห่วงกังวล เมื่อสองสามสัปดาห์มีคนพูดถึงพันธุ์ย่อย ขณะนี้พบแล้ว 3 สายพันธุ์ ในภาพรวมยังเป็นตัวเดิม และสถานการณ์เริ่มมีโอไมครอนเพิ่มขึ้น ซึ่งมีคนถามว่าเมื่อมีสายพันธุ์ย่อยจะสามารถตรวจหาสายพันธุ์เจอหรือไม่ ยืนยันว่าการตรวจหาสายพันธุ์จาก 5 ตำแหน่ง สามารถตรวจหาเจอได้ ขออย่ากังวล ส่วนความเร็วในการแพร่ระบาด หากเกิดในชุมชน ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโอไมครอน อาจจะเบียดเดลตาได้
ทั้งนี้ ในส่วนของความรุนแรง พบว่าในการระบาดที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็ว แต่เมื่อไปดูว่าอัตราการนอนโรงพยาบาล การป่วยหนักหรือเสียชีวิต ยังมีข้อมูลจำกัด โดยทางองค์การอนามัยโลกพูดชัดว่า ประสิทธิผลของวัคซีนลดลง แต่ไม่ได้กระทบต่อกลไกของร่างกาย T- Cell และ Memory B cell วัคซีนเข็มบูสเตอร์ช่วยป้องกันได้ ทำให้ระดับแอนติบอดี้ กลับมามีค่าสูงขึ้น สามารถป้องกันเชื้อหรือสามารถป้องกันการเสียชีวิต
ส่วนสถานการณ์ในไทย ผู้ป่วยโอไมครอนที่พบ 60 กว่าราย และรอผลยืนยันอีกส่วนหนึ่งรวมแล้วกว่า 80 ราย พบว่าผู้ป่วยทุกรายยังมีความเชื่อมโยงกับการเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ สัดส่วนของผู้เดินทางเข้าประเทศ คนที่ติดเชื้อโควิดพบว่า 1 ใน 4 เป็นสายพันธุ์โอไมครอน
อย่างไรก็ตาม มีอยู่รายหนึ่งการตรวจ RT- PCR 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมา และตรวจซ้ำอีกครั้งเมื่อมาถึงไทยผลเป็นลบ เนื่องจากอยู่ในระยะฟักตัว จากนี้อาจพิจารณาปรับมาตรการเทสแอนด์โก นี่เป็นสิ่งที่เราต้องชั่งน้ำหนักว่าถ้ามีเทสแอนด์โก ทำให้ผู้ป่วยหลุดไปได้ ทำให้ฝ่ายนโยบายต้องช่วยกันพิจารณา
ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่าขณะนี้ไทยผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศ ซึ่งติดจากสามีที่เป็นนักบิน ซึ่งเดินทางเข้าประเทศมาในระบบแซนด์บ็อกซ์ ยังไม่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนภายในประเทศ
นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า เคสนี้สามีเป็นนักบินชาวโคลอมเบียเดินทางเข้าไทยวันที่ 26 พ.ย. เดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย เข้ามายังประเทศไทยผ่านระบบ sandbox ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ผลตรวจ RT - PCR เป็นลบ หลังจากนั้นยังอยู่ในระบบแซนด์บ็อกซ์ที่กรุงเทพฯ สามารถเดินทางออกจากโรงแรมได้ โดยส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ไม่ได้มีการพบปะผู้คนมากนัก
และใน วันที่ 1 ธ.ค. เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ไปขอฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมา วันที่ 2 ธ.ค. มีไข้จึงซื้อ ATK มาตรวจผลเป็นลบ แต่ยังไม่หายจึงเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ผลเป็นรถเอกซเรย์ปอดยังพบว่าปกติ อาการไข้ยังทรงๆ
วันที่ 3 ธ.ค. ครบกำหนด 7 วันตามโปรแกรมจึงออกจากโรงแรม โดยรถของโรงแรมไปยังบ้านพักที่ปทุมธานีอยู่กับภรรยา 2 คน กระทั่งวันที่ 4 ธ.ค. เริ่มมีไข้เจ็บคอ เหนื่อยมากขึ้น วันที่ 6 ธ.ค. ตรวจ ATK ผลเป็นลบ
วันที่ 7 ธ.ค. อาการไม่ดีขึ้น ภรรยาจึงพานั่งแท็กซี่ ไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งตรวจ covid ผลเป็นบวก แพทย์สงสัยจึงส่งตรวจหาสายพันธุ์โอไมครอน และให้อยู่โรงพยาบาล ส่วนภรรยานั่งรถกลับไปกักตัวที่บ้าน จากนั้นภรรยาไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งพบผลเป็นบวก และเมื่อทราบว่าผลการตรวจสายพันธุ์ของสามีเป็นสายพันธุ์โอไมครอน จึงได้บอกหมอไปและมีการตรวจหาสายพันธุ์ กระทั่งยืนยันว่าภรรรยาติดโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
กรณีนี้ สรุปว่าภรรยาเป็นรายแรกที่ติดเชื้อจากสามีที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และนับเป็นรายแรกที่มีการติดเชื้อในประเทศไทย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งอยู่ระหว่างการควบคุมโรค ตรวจหาเชื้อครั้งแรกเป็นลบ จะครบการกักตัว 14 วัน ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 89 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ
อนึ่ง ขณะที่พบผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางเข้ามาในรูปแบบเทสแอนด์โก เพิ่มขึ้น 2 เท่า ทางสธ.จึงได้จัดทำข้อเสนอต่อศปก.ศบค. พิจารณาชะลอการเดินทางเข้ามาในระบบเทสแอนด์โก ให้พิจารณากักตัวในระบบ AQ หรือ Sandbox นาน 7-10 วันแทน
สรุปไทม์ไลน์เบื้องต้น ผู้ติดเชื้อโอมิครอนในประเทศรายแรก เป็นหญิงอายุ 49 ปี
- 26 พ.ย. 64 ชายชาวโคลัมเบีย(สามี) เป็นนักบิน เดินทางจากไนจีเรียมาไทย ผลตรวจเป็นลบ เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง(Sand Box)
- 4-6 ธ.ค. 64 อยู่บ้าน มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ภรรยาเป็นคนดูแล
- 7 ธ.ค. 64 ผลตรวจพบติดเชื้อโควิด แพทย์ส่งตรวจหาสายพันธุ์
- 10 ธ.ค. 64 ภรรยาผลติดเชื้อโควิด ผลตรวจสายพันธุ์ของสามี เป็นโอมิครอน ผลพบเป็นสายพันธุ์โอมิครอน
- 12-19 ธ.ค. 64 ภรรยา แอดมิทที่โรงพยาบาล ผลตรวจสายพันธุ์พบเป็นโอมิครอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สธ.ยืนยัน ไทยพบติดเชื้อ โอมิครอน รวมแล้ว 63 ราย
- เปิดลงทะเบียนฉีด ไฟเซอร์ โมเดอร์นา ฟรี ที่โรงพยาบาลศรีธัญญา 20-24 ธ.ค. 64
- โควิดวันนี้ 20 ธ.ค.64 ป่วยใหม่ 2,525 ราย เสียชีวิต 31 คน
Advertisement