เหยื่อสาวอภัยให้ชายหื่นถอดกางเกงจะปล้ำ หลังถูกจับไหว้ขอโทษ เตือนสติอย่าทำอีก (คลิป)

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว May Tunyason โพสต์คลิปวิดีโอและภาพนิ่งเรื่องราวเตือนภัย เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีชายคนหนึ่งพยายามเปิดประตูรถและแก้ผ้าโชว์ ในระหว่างที่ถอยรถเข้าบ้านในซอยลาดพร้าว 1 จนกระทั่งเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วนั้น

วันที่ 8 ม.ค. 62 ความคืบหน้าคดี ที่ สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมนวล ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.พหลโยธิน สามารถจับกุมตัวนายแกมเรียง เลน อายุ 28 ปี ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณลาดพร้าวซอย 1 ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหามาทำงานอยู่บริเวณดังกล่าว และเข้ามาพักอาศัยอยู่ในไทยหลายปี ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหายอมรับว่ามีอาการมึนเมา จากการดื่มสุรากับเพื่อน ก่อนที่จะมาก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้น จากการตรวจสอบประวัติไม่พบว่าเคยต้องโทษ และจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้ว 1 ครั้ง ภายหลังจากการตรวจร่างกายยังไม่พบสารเสพติด วันนี้ที่มีการจับกุมไม่มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด ในวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ผู้เสียหายเข้ามาชี้ตัวผู้ต้องหา ซึ่งมีการยืนยันว่าเป็นชายคนนี้ เนื่องจากสามารถจำรอยสักได้

เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหา กระทำอนาจารและหลบหนีเข้าเมือง ส่วนตัวนายจ้างเองนั้นไม่มีความผิดเนื่องจากไม่มีเอกสารยืนยันว่าจ้าง จึงเป็นบุคคลที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะส่งฟ้องศาลและกำหนดให้เป็นบุคคลแบลคลิสห้ามเข้าประเทศ ทั้งนี้ พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ ระบุอีกว่าอยากให้เป็นเรื่องเตือนภัยกับผู้หญิงทุกคน เพราะสิ่งสำคัญคือการมีสติ รู้จักจดจำตำหนิรูปพรรณคนร้าย พาหนะที่ใช้และจดจำใบหน้า หากเกิดเหตุลักษณะนี้ต้องไม่ลงจากรถ ขณะเดียวกันยังฝากถึงหากผู้เสียหายรายอื่น ๆ หากมีใครถูกกระทำก็ขอให้เข้ามาแจ้งความ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายรายอื่น ๆ มาแจ้งความ

โดย นางสาวเมย์ ธัญสรณ์ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ตนก็รู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่มีความกังวลว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก โดยที่ผ่านมาตนไม่เคยคุ้นหน้าคุ้นตา หรือพบเห็นชายรายนี้มาก่อน ซึ่งวันนี้ตนได้เข้าไปชี้ตัวผู้ต้องหาแล้ว แต่ยังไม่มีการพูดคุยกันมากนัก ภายหลังจากชี้ตัวเสร็จแล้วผู้ต้องหามีการยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยคำขอโทษ ตนจึงตอบกลับไปว่า อย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีก ถึงอย่างไรก็ยอมรับว่า ยังรู้สึกกลัวผู้ต้องหาว่าจะย้อนกลับมาที่ก่อเหตุอีก โดยส่วนตัวนั้นตนสามารถจำใบหน้าได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนสามารถจดจำรอยสักได้ จำใบหน้า สายตา สีผิวได้แม่นยำ ทั้งนี้ ตนโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องราวดังกล่าวเพื่อเตือนคนใกล้ตัว เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์กับตนเอง บางคนอาจจะคิดว่าถึงบ้านปลอดภัยแล้ว แต่ความจริงแม้แต่อยู่หน้าบ้านตนเอง ก็สามารถเกิดเหตุได้ โดยหลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น คนในครอบครัวและชาวบ้านใกล้เคียงก็ช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลมากขึ้น