ปิดคดีแตงโม 18 เม.ย. ฟันธงเคลียร์หมดทุกข้อ “เดชา” ฟันผิดคนใส่ร้ายแตงโมรับงาน (คลิป)
วันที่ 12 เม.ย.65 นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของคุณแตงโม พร้อมด้วยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษและให้ปากเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม และกรณีที่มีการกล่าวหาทำให้แม่เกิดความเสียหาย
คอนเทนต์แนะนำ
เมื่อเวลา 18.45 น. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของคุณแตงโม พร้อมด้วยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังให้ปากคำกับตำรวจรวม 4 ชั่วโมง 30 นาที
ด้านนางภนิดา แม่ของเเตงโม กล่าวว่า สิ่งที่อดีตตำรวจคนนี้พูดเป็นการใส่ร้ายแตงโม ทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ตักเตือน เพราะเคยเจอกันเเค่ครั้งเดียวที่ สภ.เมืองนนทบุรี หากจะอ้างว่าข้อมูลที่นำมาเปิดเผยหวังดีกับรูปคดีน้องแตงโม แม่มองว่าทำไม่ถูกต้อง และไม่ควรใช้วิธีนี้หรือโทรคุยส่วนตัวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเอามาพูดผ่านสื่อสร้างความเสียหาย
ทนายเดชา กล่าวว่า วันนี้ได้เเจ้งความเอาผิดกับอดีตนายตำรวจคนหนึ่ง ที่เป็นคนออกมาให้สัมภาษณ์สื่อหลายสำนัก ทำให้เข้าใจผิดว่าเเตงโมเป็นเด็กเอนเตอร์เทน โดยมีกระติกเป็นคนจัดหา แต่ตนไม่ขอระบุชื่อ เชื่อว่าทุกคนคงรู้ดี เพราะวันนี้ก็ได้เดินสวนกันใน สภ.เมืองนนทบุรี อีกทั้งตอนแถลงข่าวร่วมกับตำรวจ บุคคลนี้ก็นั่งอยู่ด้านหลัง และแสดงพฤติกรรมบางอย่าง ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ให้เห็นพฤติกรรมของชายรายนี้ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้บันทึกพฤติกรรมของชายรายนี้ไว้ด้วย
ด้านนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวว่าการเดินทางมาวันนี้ไม่ได้มาหาเรื่อง เนื่องจากทราบมาว่าแม่แตงโมจะมาแจ้งความดำเนินคดีกับตน ฐานหมิ่นประมาทโดยโฆษณา จึงต้องเดินทางมาที่ สภ.นนทบุรี
สำหรับการเดินทางมาในวันนี้มี 2 เหตุผลด้วยกัน เหตุผลที่ 1 คือมาติดตามเรื่องที่ตนเคยขอให้ตำรวจทำหนังสือ ให้ตนไปรับวัตถุพยานหลักฐานบางอย่าง เพื่อที่ตนจะได้นำหนังสือนี้ไปรับหลักฐาน เเล้วนำมามอบให้พนักงานสอบสวน เหตุผลที่ 2 คือเรื่องที่ตนทราบว่าแม่ของคุณแตงโมจะแจ้งข้อหาตน ประเด็นที่ทนายเดชา ระบุว่าหิวแสง ซึ่งตอนที่เเถลงข่าว ตนก็บอกให้ทนายเดชาพูดชื่อได้เลย
นายสันธนะ กล่าวด้วยว่าการที่แม่แตงโมแจ้งความตน ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นความคิดของแม่เองหรือไม่ หรือว่าไปฟังใคร แต่ตนก็พร้อมที่จะสู้คดีหากแม่มีการฟ้องตน ทั้งนี้ ตนได้ขออนุญาตแม่แตงโมไปว่าสะดวกคุยกับตนสัก 5 นาทีหรือไม่ โดยเป็นการคุย 2 คนไม่มีบุคคลอื่น ซึ่งตนต้องการจะถามแม่แตงโมในบางประเด็นว่าเคยทราบมาก่อนหรือไม่ และแม่แตงโมได้ตัดสินใจอย่างไร แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแม่แตงโม โดยตนไม่มีความประสงค์จะแจ้งกล่าวหาคดีใด ๆ กับทางแม่แตงโม แต่สำหรับทนายเดชา ตนต้องดำเนินคดี เพราะทนายเดชาได้พูดพาดพึงตนหลายครั้ง ก็แลกกันไป ซึ่งตนได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว
นายสันธนะ กล่าวต่อว่า ตนทราบดีว่าตนกำลังต่อสู้กับอำนาจลี้ลับที่มองไม่เห็น แต่ตนก็ยินดีที่จะทำ และตนก็ทำในส่วนของตนมาตลอด ส่วนใครจะเอาตนไปโยงกับใครตนไม่สนใจ สิ่งที่ตนทำเพียงเพราะตนต้องการความยุติธรรมให้กลับมาคืนสู่สังคม โดยเฉพาะคดีแตงโม
ขณะเดียวกันวันนี้ ตนยังได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ทั้งกรณีที่แม่แตงโมกับกระติกจะแจ้งความดำเนินคดีกับตน โดยตนระบุไว้ในบันทึกประจำวันว่าถ้าหากทั้ง 2 ท่าน คือแม่แตงโมกับกระติกจะมีการแจ้งความตน ตนจะไม่หลบหนี และตนพร้อมต่อสู้คดี และขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา สิ่งที่ตนกังวลคือวิธีการที่บางคนจะเอาคนมาแจ้งความตน แล้วจะทำให้ตนหยุดในคดีนี้นั้น ตนขอบอกเลยว่าจะไม่เป็นผลอย่างแน่นอน เพราะเรื่องพยานหลักฐานที่ตนดำเนินการอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนเองก็ยังไม่ได้ดำเนินการให้ตน เพราะถ้าหากเป็นหลักฐานที่สำคัญในคดี แล้วไม่มีการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ต้องรับผิดชอบด้วย
พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่าการแจ้งข้อหากระติกในข้อหาทำลายพยานหลักฐาน พบว่ามีหลักฐานเพิ่มเติมที่สามารถแจ้งข้อหาได้ แต่ก่อนหน้านี้พยานหลักฐานยังไม่ชัดเจน เมื่อได้หลักฐานจากพิสูจน์ซึ่งเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนจะเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์หรือไม่นั้น ไม่ขอเปิดเผย เพราะโทรศัพท์เป็นพยานหลักฐานที่ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ให้ฝ่ายกฎหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลของบุคคลที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือน ลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดี บิดเบือนสร้างความเสียหายต่อรูปคดี และทำให้สังคมเกิดความสับสน จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งบุคคลดังกล่าว เป็นบุคคลที่เห็นชัดเจนปรากฎตามสื่อโซเชียลและสื่อโทรศัพท์ และที่ผ่านมาตำรวจไม่อยากดำเนินการ แต่ก็ยังมีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความสับสน และเกินเลยจนสังคมเข้าใจผิด สับสน และครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้รับความเสียหาย ฝากถึงคนไม่รู้จริงขอให้หยุดพฤติกรรม ส่วนบุคคลที่จะถูกดำเนินคดีมีกี่รายนั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่เชื่อว่าบุคคลเหล่านี้จะรู้ตัว เพราะการที่นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบก็ต้องรับในสิ่งที่เกิดขึ้น การดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ ตำรวจใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ซึ่งบางเรื่องอาจมีการขอโทษแล้วจบ แต่บางเรื่องจะต้องดำเนินคดีให้เด็ดขาด และเชื่อว่าคดีนี้จะต้องมีการถอดบทเรียนในทุกมิติ รวมถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน และการสืบสวนสอบสวน
ส่วนกรณีการร้องเรียนจากกลุ่มของนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา ที่ให้ตรวจการทำหน้าที่ของผู้บังคับการจำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี ในการทำหน้าที่คดีแตงโม หลังจากที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาพูดถึงว่าทั้งสองคนให้ให้การว่า ปอ-โรเบิร์ต ไม่มีพิรุธนั้น ได้ส่งเรื่องให้รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รับผิดชอบงานจเร ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่ร้องเรียนเข้ามาทุกประเด็น
ทั้งนี้ พล.ต.ต.อุดร ยังระบุอีกว่า วันที่ 18 เม.ย. จะแถลงสรุปสำนวนคดี โดยในวันดังกล่าวตำรวจจะทำกราฟิก และชี้แจงรายละเอียดในประเด็นที่เป็นข้อสังคมสงสัยจะมีคำตอบให้ทุกประเด็น ที่ไม่กระทบกับข้อเท็จจริงในสำนวนคดี แต่ต้องไม่ใช่ประเด็นที่เป็นข้อสันนิษฐาน และความเชื่อ และจินตนาการ รวมถึงประเด็นดราม่า
Advertisement
