ในขณะที่ค่าไฟ ค่ารถเมล์ ค่าครองชีพต่างๆ ในเมืองไทยกำลังถีบตัวพุ่งสูงขึ้น แต่ดูเหมือนว่าอันดับการแย่งชิงโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเราจะไม่พูดถึง 2 ทีมลุ้นแชมป์ ที่อันดับสลับกันขึ้นลงทุกสัปดาห์แน่นอนหลังจากนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือโควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีก อันดับที่ 3 - 6 ต่างหาก ที่กำลังแย่งชิงกันอย่างดุเดือด คะแนนขี่กันแบบที่ถ้ามีทีมไหนพลาด ทีมอื่นก็พร้อมแซงขึ้นไปแย่งตำแหน่งทันที
หลังจบเกมที่ 34 เมื่อคืนนี้ บรรดาทีมลุ้นอันดับไปถ้วยใหญ่ยุโรปพาเหรดกันแพ้ครบทั้ง 4 ทีม เริ่มตั้งแต่เชลซีที่บุกพ่ายหงส์แดงเมื่อสัปดาห์ก่อน เตะนำหน้าทีมอื่นอยู่ 1 นัด จากนั้นถัดมาเป็นสเปอร์สที่บุกไปโดนจ่าฝูงแมนฯ ซิตี้ ถอนแค้น ทำให้อันดับคงที่ไม่ขยับเขยื้อนทีมที่มีโอกาสที่ดีที่สุดในการทำแต้มขึ้นไปทาบอันดับลุ้นไปถ้วยใหญ่ยุโรปก่อนเตะเมื่อคืนนี้คือ แมนฯ ยู และ อาร์เซนอล ที่ถือว่าไม่ได้มีงานหนักในการเจอท๊อปทีมด้วยกัน จนแฟนบอลคิดไว้แล้วว่าแซงทีเดียวพุ่งพรวดแล้วยึดตำแหน่งยาวๆ
แต่เหมือนฝันพังทลาย ที่กูดิสัน พาร์ค เกิดมรสุมลูกใหญ่ที่กุนซือหน้าทารกแห่งรั้วปีสาจแดงต้องออกมาตำหนิลูกทีมผ่านสื่อ หลังจากผีแดงบุกพ่ายยับเยิน 4 - 0 เป็นสถิติที่ไม่มีใครน่าจดจำ เป็นการแพ้ขาดที่สุดในลีกซีซั่นนี้ รวมถึงเป็นการแพ้นัดที่ 5 จาก 7 นัดหลังสุด จนเกิดคำถามว่าแน่ใจแล้วเหรอกับการมอบสัญญาถาวรให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์?? ในขณะที่ทีมอื่นพ่ายไปก่อนหน้า ทีมที่ได้เล่นในบ้านถือความได้เปรียบทีมอื่นๆ สุดกู่อย่าง ไอ้ปืนใหญ่ กลับทำงามหน้าพ่ายคาบ้านโดนพาเลซบุกมายิงแบบไม่ไว้หน้า กลายเป็นหนังคนละม้วนกับนัดที่บุกชนะนาโปลีกลางสัปดาห์เสียอย่างนั้น จากความผิดพลาดส่วนบุคคลของนักเตะแบบระบุชื่อได้
ดังนั้นจากการต่อสู้เพื่ออันดับ 4 ตำแหน่งบนตารางสุดท้ายที่จะได้ไปฟาดฟันแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าจึงยังไม่จบ และยิ่งทวีความน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าใครพลาดก็อาจจะถูกแซงได้ทันที ที่สำคัญก็คือคงไม่มีใครหยุดรอกันแบบสัปดาห์นี้อีกแล้ว!!
