กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์เรื่องราวพร้อมภาพ ระบุว่า คือตั้งเเต่รถถูกยึดเป็นของกลาง ความเข้าใจของเราคือ รถต้องอยู่โรงพักรึว่าถ้าเกิดมีการเคลื่อนย้ายที่จอดก็ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรเเจ้งตามความถูกต้อง แต่นี่คืออะไรเราไปดูรถกี่รอบก็ไม่มีรถจอดอยุ่ ค้นหาทั่วโรงพักก็ไม่มี ทั้งท่าหิน และ สภอ เมืองลพบุรี ถามใครก็บอกรถจอดอยู่นู้นอยู่นี่. เราก็ตามไปดูทุกที่ ไปหาคุณตำรวจที่รับเรื่องโทหาก็ติดต่อไม่ได้ทุกรอบคืออะไร พอวันนี้ตั้งใจจะพบคุณตำรวจที่รับเรื่องดันมาเจอรถจอดอยู่ที่เดิม พอเราขึ้นไปถามว่าระหว่างที่เราตามรถอยู่แล้วรถไปจอดอยู่ที่ไหนหรอคะ คุณตำรวจตอบมาว่า..."ก็จอดอยุ่นี่แล้วไง ต่อไปมาดูได้ทุกวันเลยนะ คือ งงแล้วระหว่างกุตามหารถ รถกุหายไปไหนวะ พุดว่ารถเอาไปตรวจหลักฐานมั่ง2เดือนกว่าเลยหรอตรวจหลักฐาน เพราะนั่งส่งรถมา3เดือนแล้ว พอเดินไปดูที่รถพบว่า”รถใหม่กริ๊บล้างให้ด้วย ส่องเข้าไปในรถ มีเสื้อผ้า ผช ผับอยุ่!!ถุงเท้าถอดทิ้งไว้ มีร่มอยุ่หลังรถ กระป๋องโยเกิร์ตดัชมิลอยุ่ในรถด้วย ยังไม่ทิ้งเลยค่ะ แบบนี้นู๋ควรส่งค่างวดรถต่อมั้ยค่ะหรือว่าให้”คุณตำรวจส่งต่อดี”จะได้เอาไปใช้อย่างสบายใจไม่ผิดกฏหมายด้วย!!นี่หรือคะตำรวจใช่หรอคะ #นี่คือรถที่ตากแดดไม่ได้ขับมา3เดือนสภาพใหม่กริ๊บเลยค่ะที่เจอมาแถมมีร่องรอยกานใช้งานอย่างเห็นได้ชัดตามรูปที่ปรากฏ #เนี่ยแหละเสียจรรยาบรรณตำรวจเพราะมีคนแบบนี้อยุ่ในสถาบัณ ของกลางก็คือของกลางเอาไปใช้ได้ไง" นั้น
ภาพโพสต์เฟซบุ๊ก
ล่าสุด วันที่ 28 เม.ย. 62 น.ส.สุนิตา อินสา หรือ โบว์ อายุ 22 ปี ผู้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ช่วง 3 เดือนก่อน รถที่บ้านโดนจับในข้อหายาเสพติด โดยมีพี่ชายเป็นคนขับออกไปใช้งาน และถูกตำรวจพื้นที่โรงพักท่าหิน จ.ลพบุรี จับกุมดำเนินคดี ส่วนรถที่ขับไปนั้นถูกยึดเป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ โดยตอนนี้พี่ชายอยู่ในเรือนจำ โดยตนได้ชี้แจงกับพนักงานสอบสวนว่ารถคันดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด เพราะเป็นรถใช้ส่วนตัวของตน แต่พี่ชายยืมไปใช้งานโดยพลการ ซึ่งตำรวจบอกว่าขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลว่าจะมีการอนุญาตให้นำกลับไปใช้งานได้ตามปกติหรือไม่
น.ส.สุนิตา อินสา ผู้โพสต์เฟซบุ๊ก
ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่รถถูกอายัดไว้ที่โรงพัก ตนมีโอกาสเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน ตลอดช่วงเวลา 3 เดือน ประมาณ 4 ครั้ง ก็ไม่พบรถจอดอยู่บริเวณจุดจอดเดิม จนกระทั่งขับวนไปดูรอบสถานีตำรวจ และจุดเก็บของกลาง ก็ไม่พบรถเก๋งของตนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊ก ได้เข้าไปพบกับพนักงานสอบสวน แต่ก็ไม่เจอ จึงได้มีการขอเบอร์ติดต่อกลับ และพยายามโทรไปถาม แต่ก็โทรไม่ติด และในวันรุ่งขึ้น ตนเองย้อนกลับไปที่โรงพักอีกรอบ กลับพบว่ารถกลับมาจอดที่จุดเดิม เป็นรถที่มีสภาพใหม่ ถูกล้างมาเป็นอย่างดี เมื่อส่องเข้าไปดูภายในรถ พบกับเสื้อผ้า ถ้วยโยเกิร์ตที่ใช้งานแล้ว ร่ม และถุงเท้าตกอยู่ ซึ่งไม่ใช่ของตน จึงสงสัยว่ารถคันดังกล่าวอาจจะถูกนำไปใช้งานหรือไม่
ภายในรถของผู้เสียหาย
หลังจากที่ตนเองโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ก็มีรุ่นพี่ในหมู่บ้านพบเห็นรถคันดังกล่าวถูกนำไปใช้จริง และในวันดังกล่าวเห็นคนนั่งอยู่ในรถเป็นชาย 4-5 คน ขับใช้งานไปในหลายพื้นที่ ดังนั้น เมื่อสอบถามกับตำรวจในโรงพัก กลับได้รับคำตอบว่าอาจมีการเคลื่อนย้ายไป เพื่อมีการตรวจสอบหลักฐาน ส่วนตัวจึงตั้งคำถามว่า หากมีการเคลื่อนย้ายเพื่อตรวจสอบหรือย้ายออกไปจากจุดเดิม ควรที่จะมีการโทรแจ้งให้เจ้าของรถรับทราบหรือไม่ นอกจากนี้ ตลอด 3 เดือนที่รถอยู่ในการอายัดของเจ้าหน้าที่ ตนเองและแม่ต้องเป็นคนผ่อนชำระค่างวดรถ เดือนละ 5,500 บาท
สถานีตำรวจท่าหิน จ.ลพบุรี
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวเดินทางไปที่สถานีตำรวจท่าหิน จ.ลพบุรี พบว่าจุดจอดรถของกลางจะอยู่บริเวณด้านข้างสถานีตำรวจ และด้านหลังของสถานีตำรวจ โดยไม่ได้มีเชือกกั้น หรือประตูปิดกั้นจุดของกลางแต่อย่างใด
พ.ต.อ.ณัชภูมิ วรรณวิไล ผกก.สภ.ท่าหิน จ.ลพบุรี ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งกรรมการสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ทราบชัดเจนว่ามีการนำไปใช้งานหรือไม่ เบื้องต้น ทราบรายงานจากพนักงานสอบสวนแจ้งว่ารถยังคงจอดอยู่จุดเดิม และไม่ได้มีการเคลื่อนย้าย ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมย้ำว่าหากมีการนำรถไปใช้และกระทำผิดจริง จะต้องมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัดต่อไป
