นารา เครปกะเทย ถูก ปคบ. บุกจับ เอี่ยวขายอาหารเสริมผสมสารอันตราย เจ้าตัวอ้างแค่รับจ้างโฆษณาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เท่านั้น ปัดเอี่ยวผลิต
วันที่ 27 ก.ย.65 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปอท. รรท.รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการฯ ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผสมวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลโพโรลิดีน) หลังเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุดในพื้นที่ จ.ราชบุรี จ.มหาสารคาม และ จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถจับกุม นายอนิวัต ประทุมถิ่น อายุ 23 ปี หรือ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดัง
นายเมธากร อายุ 39 ปี น.ส.นิชกานต์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลโพโรลิดีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำทางการค้า”
พ.ต.อ.เนติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้าได้มีการสุ่มนำตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่จำหน่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก และไลน์ มาตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า ผลิตภัณฑ์ “ชาร์มาร์ กลูต้า” มีส่วนผสมของสารวัตถุออกฤทธิ์ไดเฟนิลเมทิลไพโรลิดีน (desoxy-D2PM) ซึ่งจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ พ.ศ. 2565
จึงสืบสวนขยายผลจนทราบว่า บริษัท ชาร์มาร์เพอร์เฟค จำกัด ของ น.ส.นิชกานต์ ได้ว่าจ้างให้ โรงงานสิรินดา คอสเมติกส์ ผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวขึ้นมา ก่อนว่าจ้างให้นายอนิวัต หรือ นารา เครปกะเทย เป็นอินฟลูเอนเซอร์หลักในการโฆษณาและขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ส่วนเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของ นายเมธากร ซึ่งเป็นญาติของ น.ส.นิชกานต์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว
พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้หนักใจเนื่องจากมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ ขณะที่ในส่วนของ นายอนิวัต แม้จะปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับขั้นตอนหรือกระบวนการผลิต แต่การที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสังคมได้
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า 2-ไดเฟนนิลเมทิลไพโรลิดีน (2-diphenylmethylpyrrolidine หรือ desoxy-D2PM) จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ซึ่งช่วงหลัง มักถูกตรวจพบว่ามีโรงงานผู้ผลิตลักลอบนามาใส่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มมากขึ้นเหมือนไซบูทรามีน ซึ่งทั้ง 2 ตัวจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1
โดยกำหนดห้ามให้ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ เว้นแต่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 94 ตามประมวลกฎหมาย ยาเสพติด มีโทษตามมาตรา 149 (1) จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยผู้อนุญาตจะพิจารณาออกใบอนุญาตผลิต ขาย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง หรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 ได้ เมื่อปรากฏว่าผู้ขออนุญาตเป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นนิติบุคคลหรือสภากาชาดไทย และมีความประสงค์ที่จะ ผลิต ขาย นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 เพื่อประโยชน์ ของทางราชการอย่างหนึ่งอย่างใด
แต่หากเพื่อการค้าฝ่าฝืน 149 วรรคสอง ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 - 1,500,000 บาท
ซึ่งอันตรายจากการใช้ D2PM นี้จะมีอาการประสาทหลอน หวาดระแวง หรือมีพฤติกรรมรุนแรง ม่านตาขยาย และเกิดภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้ ส่วนไซบูทรามีน จะมีอาการตั้งแต่ท้องผูก ปากแห้ง นอนไม่หลับ คลื่นไส้ หลอดเลือดขยาย ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น สับสน อ่อนแรง ปวดหัว โดยอุบัติการณ์ การเกิดแตกต่างกันไป แต่ปัญหาที่ทั่วโลกให้ความสนใจคือ ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
จึงขอเตือนผู้บริโภคกลุ่มสาวๆ ที่หวังจะพึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในการลดอ้วน หรือลดน้าหนักว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดที่จะใช้ลดความอ้วนได้ การลดความอ้วนที่ถูกวิธี คือ การออกกาลังกาย งดแป้ง ทานผักผลไม้ หมั่นขยับตัวและกายบริหารระหว่างงานได้ ซึ่งสามารถลดอาการ เหนื่อยล้าจากกการทำงานได้เช่นกัน
Advertisement