พ่อก๊วนรุ่นพี่ถีบอก “น้องกร” ขอแลกเลส วอนอย่าเอาผิดเหมารวม ลั่นระดมเงินเยียวยาไม่ทิ้ง (คลิป)

20 ก.ค. 62
กรณีนายกร อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย จ.นครปฐม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายหลังจากถูกนายโดม (นามสมมติ) รุ่นพี่ชั้น ม.6 กระทืบที่หน้าอก 3 ครั้ง เพื่อแลกกับเลสข้อมือรุ่น ม.6 โดยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม หลังเกิดเหตุนายโดมเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.ค.  62 นายกรได้เสียชีวิตแล้ว ตำรวจจึงได้เรียกกลุ่มผู้ก่อเหตุเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม วันที่ 19 ก.ค. 62 ที่วัดสำโรง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายกร เป็นวันที่ 2 นางพะเยาว์ ขำงิ้ว แม่นายกร เล่าว่า ตนเสียใจตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าลูกถูกกระทืบ ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นแผลแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ลูกตนกลับอาการหนัก ซ้ำรุ่นพี่ยังมาโกหกว่าลูกถูกชายฉกรรจ์ทำร้าย ตนยิ่งเสียความรู้สึกเมื่อทราบความจริง โดยตนมองว่าหากกลุ่มรุ่นพี่รีบแจ้งตนตั้งแต่เกิดเหตุ ก็น่าจะสามารถนำลูกส่งโรงพยาบาลและรักษาได้ทัน แต่รุ่นพี่กลับปล่อยและรอจนลูกตนตัวซีด จึงนำส่งโรงพยาบาล ทำให้ลูกตนอาการหนักและเสียชีวิตในที่สุด
นางพะเยาว์ ขำงิ้ว แม่นายกร
โดยกลุ่มรุ่นพี่ได้เข้ามาขอขมาตนตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาล แต่ตนก็ไม่ได้รับ เพราะยังทำใจไม่ได้ ซึ่งอาการของลูกชายที่หมอบอกว่าสมองตาย ลึก ๆ ตนรู้ดีว่าสุดท้ายลูกชายจะเสียชีวิต แต่ยังหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ และขอโอกาสหมอจนนาทีสุดท้าย ลูกชายความดันตก ปั๊มหัวใจไม่ขึ้น จึงต้องปล่อยลูกไป ครั้งสุดท้ายที่ตนได้คุยกับลูกชาย คือวันที่ลูกไปกินหมูกระทะที่บ้านรุ่นพี่ ตนก็ไว้ใจเพราะบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านตำรวจ ประกอบกับครอบครัวตนสนิทกัน หากรุ่นพี่ที่ก่อเหตุจะเข้ามาขออโหสิกรรม ตนก็คงไม่พร้อม ตอนนี้ทราบข่าวว่านายโดม (นามสมมติ) ผู้ต้องหาขึ้นศาลเยาวชนและได้รับประกันตัวออกไป ตนก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมที่ลูกตนเสียชีวิต แต่ผู้ต้องหากลับออกมาใช้ชีวิตปกติ นางพะเยาว์กล่าวทั้งน้ำตาว่า สภาพจิตใจของตนตอนนี้แย่มาก ทุกครั้งที่กลับไปบ้านแล้วเห็นข้าวของเครื่องใช้ของลูก ก็จะคิดถึงลูกตลอด และไม่เคยคิดว่าลูกจะอายุสั้นขนาดนี้
นายวิทย์ (นามสมมติ) พ่อของนักเรียน ม.6 ที่อยู่ในเหตุการณ์
ด้านนายวิทย์ (นามสมมติ) พ่อของนักเรียนชั้น ม. 6 ที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ลูกชายตนไปร่วมสังสรรค์ที่บ้านหลังเกิดเหตุจริง แต่ไม่ได้รู้เห็นกับการเตะหน้าอกนายกร เนื่องจากช่วงเกิดเหตุลูกชายตนนั่งเล่นเกมอยู่หลังบ้านกับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งลูกชายตนได้ยินเสียง แต่คิดว่าเป็นการเล่นกันของกลุ่มเพื่อน จึงไม่ได้ลุกไปดู มาทราบเรื่องก็ตอนที่นายกรหายใจไม่ออกต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งลูกชายตนก็ให้การกับตำรวจไปในลักษณะดังกล่าว หลังเกิดเหตุตนก็ตกใจมาก แต่มั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความประมาทของเด็กไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ เนื่องจากที่ผ่านมาลูกตนกับเพื่อน ๆ และนายกร เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ทั้งยังไปมาหาสู่กันตลอด ไม่เคยมีเรื่องมีราวเกิดขึ้น ลูกชายตนก็เสียใจ และพูดกับตนว่าไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ ตนก็ได้ตักเตือนไปเรื่องการเล่นต่าง ๆ รวมถึงตักเตือนเพื่อน ๆ ลูกชายทั้งกลุ่ม ทั้งหมดก็มีท่าทีสลดด้วยความกลัว โดยตนเองก็มองว่าเด็กกลุ่มที่ก่อเหตุไม่ใช่เด็กเกเร เพียงแค่อาจจะผิดพลาดไปบ้าง หลังจากนี้ตนคิดว่าต้องพูดคุยกับผู้ปกครองรายอื่นในการรวบรวมเงินเพื่อมอบให้ครอบครัวนายกรตามกำลังทรัพย์ของแต่ละครอบครัว เพื่อแสดงความรับผิดชอบและแสดงน้ำใจ ซึ่งถึงแม้ว่าลูกชายตนจะไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ และไม่ได้รู้เห็นกับการกระทำดังกล่าว แต่ก็เป็นเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกัน จึงปฏิเสธความรับผิดชอบไปไม่ได้ ทั้งนี้ ตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้อาจจะให้ภรรยาเป็นตัวแทนไปร่วมงานศพ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ