"ดีเจภูมิ" ยอมรับผิดทุกอย่าง ยันไม่ทราบว่าตกปลาในเขตอุทยาน แจงเจตนาอยากจะนำเสนอการท่องเที่ยวไทย ยอมรับเข็ด ตกปลาต่างประเทศเซฟกว่า
จากกรณีที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือ “ชุดพญาเสือ” ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและแจ้งจับกลุ่มบุคคลตามคลิปยูทูปที่เข้าไปตกปลาด้วยเรือสปีดโบ๊ต และชำแหละรับประทานในพื้นที่เกาะแรด เกาะกะโหลก เกาะหลักง่าม และเกาะละวะ ภายในเขตอุทยาน โดยคลิปดังกล่าวได้อัพลงยูทูบช่อง DJPOOM เมื่อวันที่ 8 ส.ค.61 พบว่าหนึ่งบุคคลในคลิปคือ "ดีเจภูมิ ภูมิใจ ตั้งสง่า"
เมื่อมีข่าวเกิดขึ้น “ดีเจภูมิ” ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โพสต์โซเชียลอธิบาย แจ้งความคืบหน้าให้ได้ทราบกันอยู่หลายครั้ง ว่าได้รับหมายเรียกแล้ว และได้เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่แล้ว
วันนี้ (10 ก.ย.62) ถือเป็นการออกพบสื่อมวลชนครั้งแรกของ "ดีเจภูมิ" โดยเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ว่า ล่าสุดตนได้ไปฟังข้อกล่าวหามาแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ทราบว่ามี 5 ข้อกล่าวหา เป็นข้อหาเกี่ยวกับคดีอาญาและการทำการกระมงในเขตอุทยาน ซึ่งตนจะมีหมายไปพบเจ้าหน้าที่อีกครั้งในปลายเดือนนี้
จิตใจขณะนี้โอเค ตอนนี้ตนได้บทเรียนเยอะมาก ยอมรับว่าเข็ดนิดหน่อย การตกปลาทำคลิปครั้งต่อ ๆ ไปต้องระวังและรัดกุมมากขึ้น แต่ตนคงไม่เลิกตกปลา ตนตกปลามา 30 ปี ไม่มีทางเปลี่ยนแนว ตนเน้นทำรายการอนุรักษ์และท่องเที่ยวประเทศไทย และต้องบอกว่าทะเลไทยดีที่สุดแล้ว
ขอยืนยันว่า ตนไม่ทราบว่าตรงนั้นเป็นเขตอุทยาน ถ้ารู้ว่าผิดกฏหมาย ตนคงไม่ทำ และคงไม่ทำคลิปโพสต์ลงโซเชียล ตนไม่มีเจตนาทำผิดกฏหมาย ตอนนี้ตกปลาต่างประเทศอย่างเดียว เซฟตัวเองไว้ก่อน
ขณะนี้ตนพยายามหาหลักฐานทั้งหมดมายืนยัน ทั้งสัญญากับไกด์ ซึ่งในวันไปตกปลาจริง ไกด์ไม่ได้ไปด้วย ตนไม่ทราบว่าไกด์มีความผิดอะไรบ้าง เพราะยังไม่ได้คุยกัน
คดีนี้ขอให้เป็นไปตามกฏหมาย ตนยอมรับผิดทุกอย่าง หวังว่าศาลจะมองที่เจตนา เพราะจำนวนปลาที่ตกได้ไม่มากพอที่จะเป็นการประมง ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ ถ้าได้ดูรายการจะได้รู้เจตนาว่าอยากจะนำเสนอการท่องเที่ยวไทย
นอกจากนี้ "ดีเจภูมิ" ยังบอกอีกว่า เทปที่เป็นประเด็น ตนได้ไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว ขณะนี้รอเช็คอีกเทป 2 เป็นเทปที่ถ่ายที่เชียงใหม่