อดีตเมียปัดเอี่ยว 3 โจร แทงคอปล้นหนุ่มฟินแลนด์ - น้องพ้นมลทิน คาดคนสะเดาะกุญแจต้องสงสัย (คลิป)

จากกรณีตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งมีคนร้ายหลายคนบุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ในตำบลมะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และทำร้ายเจ้าของบ้าน ชื่อนายติโม ไอนาริ พาร์ติเนน ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวฟินแลนด์ อายุ 52 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะชิงเงินสดไปจำนวน 250,000 บาท

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีสอบถามนางเขียว (นามสมมติ) อายุ 41 ปี อดีตภรรยาของนายติโม เล่าว่า คบหากับนายติโม ตั้งแต่ปี 2551 คบกันมา 8 ปี โดยจดทะเบียนสมรสกันที่ประเทศฟินแลนด์ และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ขวบ  กระทั่งเมื่อ ปี 2559 ตนและนายติโมได้ตัดสินใจหย่าร้างกัน จากนั้นตนและนายติโม ก็กลับมาอยู่ประเทศไทยประมาณ 6 เดือน เพื่อตกลงเรื่องทรัพย์สิน โดยตนเป็นคนดูแลทรัพย์สินและจะขายบ้านในราคา 3 ล้านบาท ซึ่งนายติโมก็รับรู้ แต่เจ้าตัวก็ได้พาลูกชายกลับประเทศฟินแลนด์ กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ได้กลับมาที่ประเทศไทยเพื่อจัดการเรื่องทรัพย์สินที่จะขายและแบ่งเงินกัน แต่ดันพบว่าบ้านอยู่ในสภาพว่างเปล่า เพราะตนขนของออกจากบ้านไปหมด เพื่อเตรียมขายบ้านและเอารถกระบะไปด้วย แต่เจ้าตัวเข้าใจผิดคิดว่ากระบะหายจึงไปแจ้งความ วันที่ 12 ต.ค. ตนได้นำเงินจำนวน 250,000 บาท มอบให้กับนายติโม เพื่อเป็นค่ารถกระบะ ซึ่งได้ส่งมอบเงินกันที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยคนที่เห็นเงินมีทั้งหมด 4 คน คือตน น้องชายตน นายติโม และหญิงคนสนิทของนายติโม กระทั่งล่าสุดนายติโม มาถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ

ยืนยันว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้อง เพราะตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้แล้ว ทำให้ตนหลุดจากข้อครหา ยอมรับว่ารู้สึกหนักใจที่ทุกคนมองว่าตนและน้องชายเป็นคนทำร้ายนายติโม ส่วนคืนเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น. นายติโมนอนอยู่ในห้องครัว และได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวในบ้าน จึงเดินไปดูพบคนร้าย สวมหมวกกันน็อค อยู่หน้าห้องน้ำ จึงมีการชกต่อยกัน ก่อนคนร้ายอีก 2 คน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า จะเข้ามารุมทำร้ายและใช้มีดปาดคอนายติโม ก่อนจะหลบหนีออกจากบ้านไป โดยได้เงินไปจำนวน 250,000 บาท จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะรู้อยู่แล้วว่านายติโม มีเงินอยู่กับตัวจึงเข้ามาปล้น

ด้านนายบอย (นามสมมติ) น้องชายของนางเขียว ยืนยันว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายนายติโม แต่หลังจากเป็นข่าวค่อนข้างได้รับผลกระทบ เพราะข่าวที่ออกไปนั้นทำให้ชาวบ้านและคนมองว่าตนและพี่สาวเป็นคนร้ายที่หมายเอาชีวิตนายติโม พี่สาวตนกับนายติโม ไม่มีเรื่องบาดหมางกัน เพียงแต่เขาหย่าร้างกันและแบ่งทรัพย์สินกัน คาดว่าอาจมีบุคคลอื่นเห็นเงินจำนวนมากจึงวางแผนปล้นนายติโม

วันเดียวกัน พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นำกระเช้าของขวัญและช่อดอกไม้เข้าเยี่ยมนายติโม ส่วนทางด้านคดีนั้นมีรายงานเชิงลึกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้วจำนวน 4 ราย โดย 2 รายให้การรับสารภาพ อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง คาดว่าใน 2 วันเจ้าหน้าที่จะสามารถปิดคดีนี้ได้สำเร็จ

ส่วนนายน้อย (นามสมมติ) ช่างที่ไปสะเดาะกุญแจให้นายติโม และตกเป็นผู้ต้องสงสัย เล่าว่า ตนกับเพื่อนชื่อนายเสือ ได้รับการว่าจ้างจากหญิงสาวคนสนิทของนายติโม ให้ไปทำลายแม่กุญแจ ทำให้ตนและเพื่อนตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นโจรที่ปล้นเงิน

ซึ่งตอนนี้นายเสือยังถูกตำรวจสอบสวนและยังไม่ถูกปล่อยตัว เพราะหลักฐานระบุว่าคนร้ายมีรูปร่างคล้ายนายเสือ ส่วนตนยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นทรัพย์