วันนี้(22 ต.ค.)
คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีการประชุมพิจารณายกเลิก 3 สารพิษอันตรายที่ใช้ในการกำจัดศัตรูพืช ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และ คลอร์ไพริฟอส ที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีพี่น้องประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจคณะกรรมการเเป็นจำนวนมาก โดยตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านว่า นายภาณุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รักษาราชการแทน รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ ได้รับมอบหนังสือ
นางสาวอัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง ก่อนเดินทางเข้าประชุมตั้งแต่แต่เมื่อเวลา 09.00น.
นางสาวอัญชุลี เปิดเผยว่าวันนี้มาเพื่อให้กำลังใจคณะกรรมการวัตถุอันตราย ให้มีการลงมติอย่างอิสระอยู่เหนือการเมือง ด้วยวิชาการ และกระบวนการวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง เนื่องจาก 3 สารที่นำเข้าวาระการประชุมครั้งนี้ประกอบไปด้วย พาราควอต และไกลโฟเซต มี ฤทธิ์ในการกำจัดหญ้า และสารคลอร์ไพริฟอส เป็นสารกำจัดแมลง ทั้ง 3 สารเป็นปัจจัยการผลิตของเกษตรกร ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังไม่มีสารตัวใดที่จะสามารถเข้ามาทดแทนที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียม และราคาตามท้องตลาดที่ใกล้เคียงกับทั้ง 3 สาร การยกเลิกทั้ง 3 สารนั้น ต้องมีอื่นที่เข้ามาทดแทน และสารทดแทนนั้นจะต้องมีประสิทธิภาพ และราคาเทียบเท่ากับสารเดิมที่มีอยู่
ส่วนในที่มีข่าวว่าผู้ที่ใช้สารพวกนี้ได้รับผลกระทบ เป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนังเนื่องจากใช้สารเคมีเหล่านี้นั้น ต้องบอกว่าเกษตรกรผู้ที่ใช้จริงจะรู้ว่าถ้ามีแผลที่เกิดตามผิวหนังจะไม่ไปฉีดสารพวกนี้อย่างเด็ดขาด แต่บางคลเป็นแผลก็ยังฝืนไปฉีดสารเคมี ถือการใช้ผิดวัตถุประสงค์
นอกจากนี้จากการตรวจผลผลิตพบว่าผลผลิตในแปลงที่ฉีดสารเหล่านี้พบว่าไม่มีสารพิษใดตกค้างแต่อย่างใด ท้ายที่สุดหากมีการยกเลิกสารเหล่านี้ วงการเกษตรสั่นสะเทือนแน่นอน 30% ของเกษตรกรจะเลิกทำการเกษตร และจะส่งผลไปยังพืชเศรษฐกิจทั้ง 5 ของไทย ทั้งข้าว อ้อย ปาล์ม ยาง ข้าวโพดหวาน และเมื่อเกษตรกรไม่มีผลผลิตออกมา จะส่งผลไปยังการนำเข้าผลผลิตจำนวนมากจากต่างประเทศ ซึ่งจะมีใครรับรองว่าผลผลิตที่นำเข้ามามาสารพิษตกค้างหรือไม่
ส่วนที่ว่าพวกเราชาวเกษตรกรจะสามารถทำเกษตรอินทรีได้หรือไม่นั้น การทำเกษตรอินทรีเหมาะแบบเกษตรแบบครัวเรือน ซึ่งทางเกษตรกรได้มีการรวมกลุ่มเพื่อพิสูจน์ว่าการใช้สารเคมีก็สามารถมีผลผลิตที่ได้มาตราฐาน ปลอดภัย ทั้งนี้อยากบอกว่าครัวโลกต้องการเกษตรปลอดภัยไม่ใช้เกษตรอินทรีย์
อย่างไรก็ตามการชุมนุมของชาวเกษตรยังคงดำเนินไปจนกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้น และมีผลออกมาอย่างเป็นทางการเสียก่อนจึงจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
ด้าน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข มีมติชัดเจนตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่า ต้องแบนสารพิษทั้ง 3 ชนิด และไม่กังวลกับผลที่จะตามมา แม้บางกลุ่มจะบอกว่า จะเลิกสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยก็ตาม เพราะเรื่องนี้ ตนเองทำตามหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้ความสำคัญกับนโยบายเพื่อรักษาสุขภาพของพี่น้องประชาชน มากกว่าเรื่องพรรค