หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ เรื่อง จำนวนครั้งในการติดต่อทวงถามหนี้ ซึ่งเป็นการอาศัย
อำนาจตามความในมาตรา 9 (3) และมาตรา 16 (1) แห่งพระราชบัญญัติ การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558
.
***ระบุห้ามทวงหนี้เกินวันละ 1 ครั้ง ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (21 พ.ย. 2562) เป็นต้นไป***
.
ทั้งนี้ ต้องเป็นการทวงหนี้ตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 เท่านั้น ไม่รวมถึงการทวงหนี้ทั่วไป โดยหนี้ที่อยู่ในเกณฑ์ คือ หนี้สินเชื่อ, หนี้การ
พนันที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย, หนี้จากการค้า
.
เจ้าหนี้ตามกฎหมายนี้ เช่น ธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต บริษัทเช่าซื้อ เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ เป็นต้น
.
***แต่กรณีให้เพื่อนยืมเงินจะไม่เข้าข่ายนี้ ทวงเกินวันละ 1 ครั้งได้ ไม่ผิดกฎหมาย***
.
วันจันทร์-ศุกร์ ทวงหนี้ได้ตั้งแต่ 08.00-20.00 น. ส่วนวันหยุดราชการ 08.00-18.00 น.
.
ทวงทางไลน์
ลูกหนี้เปิดอ่าน = นับเป็นการทวงหนี้
ลูกหนี้ไม่เปิดอ่าน = ไม่นับเป็นการทวงหนี้
.
ทวงทางโทรศัพท์
ลูกหนี้รับสาย มีการทวงหนี้ชัดเจน = นับเป็นการทวงหนี้
ลูกหนี้ไม่รับสาย วางสายไปก่อน = ไม่นับเป็นการทวงหนี้
.
หากเจ้าหนี้ ทวงหนี้เกินวันละ 1 ครั้ง มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท / หรือฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
นอกจากนี้ ยังมีข้อห้ามในการทวงหนี้ เช่น
ห้ามทวงกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกหนี้
ห้ามใช้วาจาหรือภาษาดูหมิ่นลูกหนี้
ห้ามข่มขู่ ใช้ความรุนแรง
ห้ามระบุเรื่องทวงถามหนี้บนซองจดหมายและเอกสารที่ส่งถึงลูกหนี้
ห้ามทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นการกระทำของศาล เจ้าหน้าที่รัฐ ทนายความ หรือสำนักงานกฎหมาย
ห้ามทำให้เข้าใจผิดว่าจะถูกดำเนินคดี หรืออายัดเงินเดือน
.
กฎหมายนี้ไม่ได้หมายความว่า ลูกหนี้มีสิทธิไม่จ่าย เพราะเป็นหนี้ก็ต้องชดใช้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย