ทลายสปาเกย์กลางกรุง แฝงค้าบริการ รวบนายแบบเวียดนามแอบมารับจ๊อบ

27 ธ.ค. 62
สตม.บุกทลายร้านสปาเกย์ แฝงค้ากาม กลางกรุง พบพนักงานชายเปลือยกายกำลังให้บริการแก่ลูกค้า และยังพบถุงยางอนามัยทั้งที่ใช้แล้วจำนวนมาก อึ้งมีนายแบบเวียดนามมารับงาน เผยรายได้หลักแสนต่อสัปดาห์ ใช้วีซ่าท่องเที่ยวเข้าออกหลายครั้งต่อเดือน เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 62 ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมคณะทำงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้กระทำความผิด หลังบุกทลายสปาเกย์หรูแฝงค้ากาม ย่านซอยอารีย์ 4 กทม. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขยายผลมาจากการจับร้านนวดสปา ย่านสาทร ก่อนหน้านี้ ซึ่งเปิดให้บริการนวดสปาแต่แฝงค้าบริการทางเพศ สามารถจับกุมพนักงานนวดชายชาวต่างชาติได้จำนวน 9 คน และได้หลบมาทำงานในลักษณะเดียวกันอยู่ที่ร้านดังกล่าว ย่านซอยอารีย์ 4 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงวางแผนเข้าจับกุม พบร้านนวดสปาดังกล่าว เป็นอาคารสามหลังเชื่อมต่อกันได้ มีทางเข้า-ออก สลับซับซ้อนหลายช่องทาง ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบวงจร เช่น ห้องพักแบบโฮสเทล เคาน์เตอร์บาร์ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบซาวน่า ห้องนวดสปา พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน บริเวณชั้นล่างมีเวทีเป็นชั้นๆสำหรับพนักงานนวดชาย นั่งรอให้ลูกค้าเลือกเพื่อไปบริการนวด ส่วนใหญ่ใส่เพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว จากการตรวจสอบบริเวณห้องนวดชั้นบนของอาคาร พบพนักงานชายเปลือยกายกำลังให้บริการแก่ลูกค้า และยังพบถุงยางอนามัยทั้งที่ใช้แล้วจำนวนมาก อยู่บนที่นอนและถังขยะภายในห้องนวด พนักงานนวดชายทั้งหมด มีทั้งคนไทยและต่างชาติมากกว่า 30 คน และจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของพนักงานนวดชายชาวต่างชาติ พบว่าเป็นต่างชาติกระทำความผิดจำนวน 11 ราย แยกเป็นสัญชาติกัมพูชา 1 ราย เมียนมา 4 ราย ลาว 4 ราย และเวียดนาม 2 ราย จึงตั้งข้อหา "เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต" และ "เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์ที่จะทำได้" พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผู้กำกับการสืบสวนกองบังคับการตำรวจเข้าเมือง 1 เปิดเผยว่า สปาเกย์ดังกล่าวเปิดบริการมาเป็นเวลา 5 ปี แล้ว มีพนักงานทั้งชาวไทย และต่างชาติจำนวน 5 สัญชาติ คือ ฮ่องกง พม่า ลาว อินเดีย และเวียดนาม ซึ่งชาวเวียดนามจะเป็นที่นิยมและราคาสูงสุดถึงชั่วโมงละ 3,500 บาท เพราะหล่อล่ำและขาวสะอาด โดยจากการจับกุมในครั้งนี้ยังพบนายแบบชาวเวียดนาม ชื่อว่า "บ๊อบบี้" ซึ่งเข้ามาทำงานโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยวเข้าออกเดือนละหลายครั้ง โดยระบุว่าเหตุที่เลือกมาทำงานดังกล่าวเพราะรายได้ดี วันละ 40,000 -50,000 บาท หรือสัปดาห์หนึ่งรายได้เป็นหลักแสน ส่วนลูกค้าของร้านส่วนใหญ่จะต้องเป็นเมมเมอร์ สมัครเป็นสมาชิกทางออนไลน์ และจองก่อนเข้าร้าน ไม่มีลูกค้าวอล์คอิน เพราะร้านอยู่ในซอยเปลี่ยวไม่มีการติดป้ายบอกด้านหน้าร้านว่าเปิดให้บริการหรือเป็นร้านสปาแต่อย่างใด ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และไฮโซชาวไทยเนื่องจากราคาค่าบริการค่อนข้างสูง สำหรับเจ้าของร้านเป็นคนไทย ที่เปิดในรูปแบบบริษัท ขออนุญาตเปิดร้านสปาเพื่อสุขภาพจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทำผิดเงื่อนไข จากนี้จะทำรายงานไปยังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ