“น้ำ รพีภัทร" ไม่ทิ้งงานบันเทิง ขอทำควบคู่ฟาร์มนครนายก

2 ก.พ. 63
นอกจากงานแสดงแล้วหลายคนคงรู้ว่า "น้ำ รพีภัทร เอกพันธ์กุล" ได้ย้ายไปลงหลักปักฐานอยู่ที่จังหวัดนครนายก ทำฟาร์มไก่ อยู่กับภรรยาและลูก ๆ ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้ลงทุนซื้อควายเผือกมาเลี้ยง และควายตัวอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นดาราเกษตรกรโดยแท้จริง โดยในวันนี้ "น้ำ รพีภัทร" บอกว่าสิ่งที่ทำเป็นความรัก รักที่จะอยู่ต่างจังหวัด คิดว่าจะทำอะไรได้ทั้งวัน ก็คิดได้ว่ามีไก่ชน เลยทำให้กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ลูก ๆ ก็ได้ซึมซับวิถีชีวิตนี้ไปด้วย เด็กเมื่ออยู่ใกล้สัตว์ก็จะมีจิตใจอ่อนโยน ตอนนี้ตนก็เลี้ยงควายเพิ่ม เลี้ยงตามกำลัง ยังไม่ทำเป็นฟาร์มควาย แต่ยังไม่ทิ้งงานในวงการ หากยังมีคนจ้าง ก็ขอทำควบคู่กันไป ผันตัวไปเป็นเกษตรกรเต็มตัวแล้วหรือ? “ก็ยังคงมีงานแสดง ยังรับงานละครอยู่ตลอดเวลา แต่อาจจะไม่ได้แน่นขนาดนั้น ก็ยังมีต่อเนื่อง ใน 1 ปีก็ยังจะมีให้เห็นประมาณ 1-2 เรื่อง เวลาว่างหลังจากงานบันเทิง ตอนนี้ย้ายครอบครัวไปอยู่นครนายกหมดแล้ว หลัก ๆ ก็ทำสองอย่างคืองานแสดงกับงานที่ฟาร์มที่นครนายก” หลงเสน่ห์อะไรกับงานนั้น? “มันเป็นความรัก ความชอบของเราด้วย เราชอบการใช้ชีวิตอยู่ตามต่างจังหวัด มันเป็นกิจกรรมที่เราทำก่อนที่เราจะมาเป็นนักแสดง เมื่อก่อนผมก็เป็นเด็กต่างจังหวัด เอนเตอร์เทนเมนต์ในสมัยนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจาก ไก่ชน โดดน้ำคลอง ขี่จักรยานเล่นกับพรรคพวก มันคือความสุขของเราในช่วงวัยเด็ก เรามานั่งนึกย้อนอีกทีว่าเราสามารถใช้ชีวิตกับอะไรได้หมดไปใน 1 วัน ก็นึกขึ้นได้ว่ามีไก่ชน เป็นสิ่งที่เราสามารถอยู่กับมันได้ทั้งวัน เราเพลิดเพลิน เป็นสิ่งที่เรารัก ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้กลับไปอยู่ต่างจังหวัด หลังจากนั้นก็ทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ทำเป็นระบบฟาร์มที่ได้มาตรฐาน คัดสรรสายพันธุ์ที่ดีที่พร้อมจะแบ่งปันให้พี่น้องเกษตรกรที่เขาต้องการสายพันธุ์ไปพัฒนาเช่นกัน”

คนชื่นชนเราว่าเหมือนได้ปลูกฝังเรื่องพวกนี้กับลูก ๆ ด้วย? “มันเป็นกิจกรรมที่เราทำตอนเด็ก ๆ แล้วเรารู้สึกสนุกดี ไม่ต้องเสียเงินมากมาย แค่อยู่ทำกิจกรรมภายในบ้าน หากิจกรรมทำร่วมกัน ก็สนุกและมีความสุขแล้ว อีกอย่างก็ได้ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ภายในตัวที่จะหัดทำงาน ให้ซึมซับการได้ใกล้ชิดกับสัตว์ กับธรรมชาติ เขาได้เลี้ยงสัตว์เขาก็จะได้รู้สึกถึงความรัก ความเมตตา การแบ่งปัน สัตว์ที่เราเลี้ยงเราต้องเลี้ยงด้วยความรัก ต้องดูแลเขาเป็นอย่างดี นอกจากเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วเขาก็เป็นเพื่อนของเราด้วย เด็กพออยู่ใกล้สัตว์ก็จะทำให้เขาจิตใจอ่อนโยน ตอนนี้เลี้ยงสัตว์ใหญ่ด้วย เลี้ยงควาย ผมโชคดีที่ได้ควายที่มีนิสัยเชื่อง ไม่ดุร้าย สามารถเข้ากับเด็กได้ ตอนนี้มีทั้งหมด 4 ตัว เริ่มมีลูก ๆ เขาคลอดออกมา ตอนนี้เหมือนเป็นขวัญใจของเด็ก ๆ ภายในบ้าน” ตอนนี้ที่ฟาร์มเลี้ยงอะไรไว้บ้าง? “ตอนนี้หลัก ๆ เป็นฟาร์มไก่ชนแล้วก็มีควายที่เริ่มเลี้ยง เราก็พยายามปลูกต้นไม้ที่ให้พืชผลต่าง ๆ ที่เรากิน แต่ถ้าเป็นพืชเกษตรที่ไว้ปลูกขายยังไม่ได้ทำ แค่ปลูกพืช ผลไม้ไว้กินเอง” ควายราคาค่อนข้างสูงเรามองต่อยอดไว้ยังไงบ้าง? “พันธุกรรมเขาเป็นความงาม เป็นควายยักษ์ ปกติเราจะรู้ว่าควายเขาขายกันในอัตราน้ำหนักเนื้อ ควายงามมันเป็นความพึงพอใจระหว่างคนซื้อและคนขาย มันไม่ได้ชั่งตามน้ำหนักเนื้อ เช่น อย่างเป็นแชมป์เปี้ยน ค่าตัวมันก็จะเป็นเรตเทียบกับสุนัขประกวด ค่าตัวก็จะแล้วแต่ความพอใจของคนซื้อคนขาย มันก็สร้างมูลค่าให้ควายไทยแล้วก็เป็นแนวทางให้พัฒนากันต่อไป ถ้าเกิดถ้าเราจะพัฒนาไปถึงการขายเนื้อจริง ๆ ควายพวกนี้ก็จะเป็นควายที่โครงสร้างใหญ่ แล้วก็ให้เนื้อให้น้ำหนักที่เยอะกว่าปกติที่เราพัฒนาหรือเลี้ยงกันตามบ้านอยู่”

เป็นฟาร์มควายเลยไหม? “เลี้ยงตามกำลังครับ เลี้ยงเพราะความชอบ วางเอาไว้ว่าจะมีแม่ควายซัก 5 แม่ หลังจากนั้นก็เริ่มพัฒนาตามจินตนาการของหลักความเป็นจริงของเรา เสริมเติบแต่งจุดด้อยของความที่เรามีให้ควายเราสามารถเดินในสนามประกวดได้” มองว่าการทำตรงนั้นมันยั้งยืนกว่างานในวงการบันเทิง? “เราไม่ได้ทุ่มอะไรไปมากกว่ากัน เราทำงานในวงการบันเทิงเราก็ทุ่มเต็มที่ในช่วงระยะเวลานั้น แต่เวลาเราไปทำงานในด้านการเกษตรและปศุสัตว์เราก็เต็มที่กับมัน เราก็เต็มที่กับทุก ๆ อย่างไปพร้อมกัน ในสิ่งที่เรารักที่เราชอบทั้งสองอย่าง ให้มันควบคู่กันไป มันก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก จะให้ผมปลูกพืชปลูกผักขายก็ไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นเรื่องการเลี้ยงสัตว์เราชอบทางนี้ไง เราก็ทำตามความรักความชอบมากกว่า” ทำแบบนี้มีต้องไปเรียนด้านปศุสัตว์เพิ่มไหม? “ศึกษาเองครับ ศึกษาจากผู้รู้ ศึกษาจากตัวเราเองจากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสเขา เดี๋ยวนี้ข้อมูลความรู้มีเยอะในโซเชียลให้เราศึกษาได้ แต่จริง ๆ แล้วมันต้องเริ่มจากประสบการณ์เราเอง ได้แก้ไขถูกผิด แล้วก็ศึกษาจากผู้รู้อีกที ดีที่ผู้ใหญ่ที่ให้ความรู้เราท่านก็ไม่ได้หวงวิชา เขาก็ให้คำแนะนำตลอด” จะทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป? “ถ้าเขายังจ้างอยู่นะ ก็ยังคงเล่นอยู่ ถ้าไม่จ้างก็ใช้เวลาอยู่กับบ้าน อยู่กับลูกไปแล้วก็ทำเกี่ยวกับการเกษตร ปศุสัตว์ไป ผมไม่ได้กำหนดว่าปีหนึ่งจะรับกี่เรื่องมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส