“โอบ” หวั่นอาถรรพ์รัก 3 ปี “มะปราง”
บินไปสวีทกันไกลถึงลอนดอนเลยทีเดียว สำหรับคู่รักนักแสดงวัยรุ่นอย่างหนุ่ม"โอบ โอบนิธิ "และ "สาวมะปราง อลิสา "ที่เมื่อวันครบรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ได้ควงกันไปฉลองที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เรียกว่าควบวาเลนไทน์ไปด้วยเลย เพราะวันนั้นเจ้าตัวติดงาน มีเวลาไปได้แค่ดินเนอร์เบาๆเท่านั้น
เจอหนุ่มโอบ ก็เลยเข้าไปแซว เจ้าตัวก็บอกว่า ไม่ได้หวานอะไรกันขนาดนั้น แล้วที่ไปไกลก็ไม่ใช่วาระพิเศษอะไรมากมาย เป็นความบังเอิญที่พี่สาวรับปริญญาพอดี ก็เลยถือโอกาสไปแสดงความยินดีแล้วก็ยกครอบครัวเที่ยวด้วย สำหรับเรื่องอาถรรพ์ 3 ปี 5 ปี 7 ปี ตนก็แอบกลัวเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าทุกวันนี้มีความสุขดี ก็คงไม่น่ามีอะไร
ถามถึงเรื่องที่ต้องมาพูดภาษาอีสานในเรื่อง “ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด”?
“ผมเป็นคนที่พูดไม่ได้เลย เป็นคนภาคกลาง ผมไม่ค่อยมีบทบาทอะไรพวกนี้เข้ามาผมเลยรู้สึกว่าการที่เราเป็นนักแสดง มันเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับเรา มันน่าจะลองอะไรแบบนี้ เพราะมันอะไรที่ท้าทายสำหรับเรา”
ปิดไว้นานแค่ไหน ที่ไม่บอกใครว่าเล่นเรื่องนี้?
“เรื่องนี้ถ่ายตั้งแต่ ก.ค. ปีที่แล้ว ผมค้องเงียบจนกว่าที่ทีเซอร์จะปล่อย ผมอยากให้มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงว่าผมจะทำอะไรแบบนี้”
มีการเรียนเรื่องภาษาไหม?
“มีการเวิร์กช้อป ผมบินไปขอนแก่น 2-3 ครั้ง เพื่อไปดูว่าคนที่นั้นเขาใช้ชีวิตอย่างไร และไปพูดคุยกับเขา มันยากมาก ภาษาอีสานสำเนียงมันต่างกัน ในแต่ล่ะจังหวัด มันเลยมีความแตกต่างกันนิดๆหน่อยๆ แต่เรื่องเล่นเป็นคนอิสานขอนแก่น”
นอกจากภาษาอีสานแล้ว เรื่องชีวืตความเป็นอย่างล่ะ ?
“เป็นรูปแบบใหม่ที่ผมไม่เคยเจอ ไปต่างจังหวัด ที่บ้านไม่มีแม้กระทั้งรั่ว เป็นแค่ไม้กั้นธรรมดา เป็นดินแดง ตอนเช้าผมได้คนเห็นพาฝูงควายไปเดินตามท้องนา ตอนเย็นเขาก็พาควายกลับมา และสิ่งที่เรียนรู้ได้คือ เดินผ่านฝูงควายห้ามมองตามัน ไม่งั่นมันจะวิ่งชนเรา แล้วเราต้องหลบให้เขาด้วย ไม่ว่าเราจะเป็นรถยนตร์คันใหญ่ หรือยืนอยู่ เพราะเขามีอยู่ประมาณ 20-30 ตัว”
ไปอยู่ที่ขอนแก่นนานแค่ไหน?
“ช่วงนั้นบินไปกลับขอนแก่นเกือบ 2 เดือน ถ้าเรามีงานที่กรุงเทพเราต้องบินกลับมา แล้วมันค่อนข้างเหนื่อยกับการเดินทาง”
คาดหวังมากน้อยขนาดไหน?
“ผมไม่ถึงกับคาดหวังว่ารายได้จะเยอะขนาดนั้น ผมรู้สึกว่าอยากให้หลายๆคสเห็นพัฒนาการของผมว่าสิ่งเหล่านี้ผมก็สามารถทำได้เหมือนกัน”
มีติดมาใช้ในชีวิตประจำวันไหม?
“มีติดอุทาน”
มะปราง(อลิสา ขุนแขวง)ว่าไงบ้าง?
“พอออกมาเขา บอกว่าทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ หลายๆคนไม่เชื่อ เพื่อนผมหลายๆคนที่เดินผ่านไปผ่านมา เห็นเทเลอร์ ก็บอกว่านั้นใช้โอบเหรอ ผมบอกว่สใช่ดิ่ นั้นคือความสำเร็จของผมอย่างนึง เพราะคนไม่คิดว่าจะทำอะไรแบบนี้”
อย่างแบงค์ก็เป็นคนขอนแก่นได้ปรึกษาไหม ?
“ แบงค์พูดไม่ได้ แต่ฟังออก มันเลยสอนอะไรผมไม่ได้ “
ถามถึงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ?
“ จริงๆผมเพิ่งถ่ายละครเสร็จ ก็มีแค่กินข้าวตอนเย็น “
เหมือนหวานก่อนหน้าแล้วฉลองครบ 3 ปี ?
“ ก็ไปฉลองครบรอบ 3 ปีที่นั่นครับผม “
หลายคนกลัว 3,5,7 ปี จะเป็นอาถรรพ์ ?
“ ผมก็กลัวเหมือนกันครับ แต่ว่าทุกวันนี้ก็มีความสุขดี น่าจะโอเค ไม่เป็นอะไร “
พิเศษยังไงถึงไปฉลองกันที่ลอนดอน ?
“ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ พอดีพี่สาวผมรับปริญญาที่อังกฤษ แล้วมีเวลาว่างอยู่ช่วงหนึ่งก็เลยไปงานรับปริญญา พร้อมไปเที่ยวกับครอบครัว ก็คือไปทั้งบ้านเลย พ่อแม่ พี่สาว แฟนพี่สาว เหมือนรวมญาติ เพราะไม่น่าจะมีบ่อยๆ ที่คนในครอบครัวไปรับปริญญาต่างประเทศ “
เขาเอ็นจอยไหม ?
“ ก็ดีนะครับ เขาบอกว่าปกติถ้าไปเที่ยวกับเรา ส่วนใหญ่จะผมจะมีหน้าที่แบกกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบ สุดท้ายผมก็แบกเหมือนเดิม แต่เป็นของแม่ ส่วนเขาต้องแบกเอง “
พิเศษไหม 3 ปี ?
“ มันก็เป็นวันๆหนึ่งที่เรารู้สึกว่ากลับมาครบรอบอีก 1 วันแล้ว เราก็ไม่ได้มีของอะไรให้กัน ปีนี้เป็นปีที่แปลกอีก 1 ปี เพราะเราได้มาอยู่ที่นี่ ทุกปีจะอยู่แค่กรุงเทพ “
ปีต่อไปต้องมีเป้าหมายใหญ่กว่าเดิม ?
“ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาว่าเวลานั้น เราทำอะไรอยู่มากกว่า ถ้ามีโอกาสก็คงได้ไป หรือไม่ได้ไป แล้วแต่ช่วงเวลา “
ช่วงนี้ดูเหนื่อยเหมือนกันเขาทำงานหนัก ?
“ เขาทำงานเหมือนร้อนเงิน มีทั้งละคร ทั้งรายการร้องเพลง มีรายการใหม่อีก มีโน้นนี่นั่นอีก ผมก็เลยรู้สึกเขาร้อนเงิน รับเยอะ แต่ก็ครับ เวลาเราเห็นใครได้งานเยอะๆก็รู้สึกดีใจกับเขา เพราะเหมือนเป็นช่องทาง เป็นโอกาสของเขา “
เป็นห่วงสุขภาพไหม ?
“ ก็เป็นห่วงกลัวเขานอนไม่พอ “
ต้องไปรับไปส่งไหม ?
“ มีบ้าง เวลากินข้าว แต่ช่วงนี้ผมถ่ายละคร ก็ไม่ค่อยมีเวลา “
เวลาเป็นอุปสรรคกับคู่เราไหม ?
“ ไม่หรอกครับ จริงๆแล้วผมว่าอยู่ที่การคุยกันมากกว่า ถึงแม้เราไม่ได้เจอกัน เราก็ยังติดต่อสื่อสารกันได้ บอกว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ “
ช่วงนี้กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ?
“ จริงๆแล้วก็ประมาณนั้น มีงานดี ก็ดีใจ “
