กวนประสาท! หนุ่มฟอร์จูนเนอร์เมาปัดเบ่งอวดรวย รับเป็นนายแบบถ่ายเซ็กซี่ รูปสยิวแค่อดีต (คลิป)

19 ส.ค. 60
จากกรณีที่โลกออนไลน์แชร์คลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ Social Hunter พร้อมวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของคนขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ที่ขับไปชนท้ายรถคันหน้าแต่กลับลงมาตะโกนหาเรื่อง ด่าทอ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคนถ่ายคลิป ก่อนลั่นวลีเด็ด “กูเป็นใครมึงรู้เปล่า?” ล่าสุด วันนี้ (18 ส.ค.) นายโจ้ (นามสมมติ) ผู้เสียหายและคนถ่ายคลิปดังกล่าว เล่าว่า ช่วง 6 โมงเช้าที่ผ่านมา ตนออกจากบ้านแถวแฮปปี้แลนด์เพื่อจะมาตั้งร้านขายของในตลาดสำเพ็ง ระหว่างขับรถไปตาม ถ.ลาดพร้าว สภาพการจราจรค่อนข้างติดขัด รถจึงขยับไหลตามรถคันหน้าได้ทีละนิด แต่จังหวะที่รถตนเบรก ได้มีรถคันหลังไหลมากระแทกรถตน ทำให้คิดว่ารถน่าจะถูกชนท้าย จึงตัดสินใจตบไฟรถ เพื่อจะหักรถเข้าจอดข้างทาง ทันทีที่ลงจากรถ ก็ได้เดินเข้าไปดูรถคู่กรณีว่าเสียหายอะไรบ้าง เมื่อเดินไปถึง ไม่ทันจะพูดอะไร คู่กรณีกลับลงมาตะโกนบอกว่า "มึงหาว่ากูชนรถมึงหรือ" ตนก็บอกกลับไปว่า "เปล่าพี่ ผมยังไม่พูดอะไรเลย" หลังจากนั้นคู่กรณีก็พูดจากร่างว่า "รถเขาแพงกว่า เสียหายเยอะกว่า" ตนก็โต้กลับแค่ว่า "รถฟอร์จูนเนอร์แบบพี่ ผมก็มี" จากนั้นคู่กรณีก็ไล่ตน แต่ตนเห็นว่าเกิดเหตุขึ้นแล้วก็อยากให้ไปคุยกันที่สน. คู่กรณีกลับสวนขึ้นมาอีกว่า "รู้ไหม กูเป็นใคร"
นายโจ้ (นามสมมติ) ผู้เสียหายและคนถ่ายคลิป
นายโจ้บอกว่า คู่กรณีพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายอยู่ตลอด โดยหลายครั้งได้เข้ามาปล่อยหมัดใส่ตนในระยะประชิด แต่ก็สามารถหลบได้ เพราะมีแม่ตนที่มาด้วยกัน และผู้หญิงที่มากับคู่กรณีคอยเข้ามาห้ามและกันไว้ ตามที่ปรากฎในคลิป อย่างไรก็ดี ช่วงที่คู่กรณีได้ขับรถออกไปแล้ว ก็ได้มีตำรวจนายหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ตนจึงขอให้ขี่รถตามคู่กรณีไป ซึ่งก็เห็นว่าตำรวจขับตามไป แต่ก็ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นเป็นอย่างไร สาเหตุที่ตัดสินใจถ่ายคลิปในขณะนั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนพยายามพูดจาดี ๆ ด้วย เชื่อว่าคู่กรณีกำลังเมา เพราะตนได้กลิ่นเหล้าหึ่ง ทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง อีกทั้งเผื่อถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วเขาไปทำกับคนอื่นอีก เขาจะได้รู้ว่าเขาเคยผิดมาแล้ว หลังจากเกิดเหตุตนได้นำคลิปส่งให้เพื่อนดูในกลุ่มไลน์ แต่ทราบต่อมาว่ามีเพื่อนนำคลิปไปให้เพจดัง จนกลายเป็นกระแส ถึงขั้นไปขุดคุ้ยประวัติ และเรื่องส่วนตัวของคู่กรณีออกมาโจมตี จนรู้สึกสงสาร เพราะถ้าตนโดนแบบนั้นบ้างก็คงอายมากเหมือนกัน ซึ่งตนมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่คาใจเพียงแค่ว่าทำไมถึงไม่ยอมคุยกันดี ๆ นายโจ้ยอมรับว่าตนไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาเรื่องกับทางคู่กรณี แต่ญาติได้แนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ส่วนถ้าคู่กรณีไม่ยอม หรือจะเอาเรื่องตน หรือตำรวจจะเอาผิด ก็อยากให้ไปตรวจหาภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุมาเป็นหลักฐานเพิ่มเติมได้
นายอภิชาติ ปัญญาแดง คนขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์
ด้านนายอภิชาติ ปัญญาแดง หรือ เคน คนขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ยอมรับว่าดื่มแอลกอฮอล์มาแต่สร่างเมาแล้ว และมีสติดี ซึ่งตนไม่ได้ขับรถชนรถกระบะของคู่กรณี อยู่ดีๆเห็นรถกระบะเบรกกระทันหัน เพราะรถค่อนข้างติดในช่วงเช้า ตนก็ลงมาจากรถ เพื่อมาดูว่ารถเป็นอะไรหรือไม่ ปรากฏว่ายังไม่ได้ชน ยืนยันว่าไม่ได้ไปเบ่งหรือโอ้อวดว่ารถหรูกว่า และรถตนก็มีประกันชั้น 1 ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวอะไร นายอภิชาติ บอกว่า คู่กรณีลงมาจากรถก็ถือไอแพดลงมาถ่ายวิดีโอแล้ว ซึ่งแม่ของคู่กรณีก็เหมือนจะเข้ามาห้าม แต่ก็ไม่ได้ห้าม แต่ยืนยันว่าคู่กรณียั่วประสาท พูดจาไม่เข้าหู ตนก็เป็นคนไม่ยอมใคร จึงอารมณ์ขึ้น ตามที่เห็นในคลิป ทั้งนี้ วอนอย่าขุดเรื่องราวในอดีต โดยเฉพาะเรื่องที่ตนเคยเป็นนายแบบขวัญใจชาวสีม่วง ยอมรับว่าเคยถ่ายจริง แต่เป็นแค่อดีต ตอนนี้ตนแค่ถ่ายแบบผู้ชายตามปกติ พร้อมกับฝากบอกถึงคู่กรณีด้วยว่า "อย่ามาอุปโลกไปเอง มารับผิดชอบสิ่งที่ทำลงไปด้วย คุณนั่นแหละที่อยากดัง"
นางสาวจุฑามาศ ขาวเจริญ หญิงสาวที่นั่งรถมากับเคน
ขณะที่ นางสาวจุฑามาศ ขาวเจริญ หรือ แหม่ม หญิงสาวที่ปรากฎในคลิปว่ามากับเคน เล่าว่า ติดรถมากับเคนเพราะกำลังจะไปบ้านเพื่อนต่อ เห็นคู่กรณีลงมาถ่ายคลิป ยังเข้าใจด้วยซ้ำว่า เขาคงคิดว่าเคนเป็นดารา แต่สักพักกลับพูดจากร่างใส่ ประกอบกับเคนไปพูดว่า "นี่รถฟอร์จูนเนอร์ผม ผมห่วงรถ" อาจจะทำให้คู่กรณีเข้าใจว่าเคนไปดูถูก ซึ่งคู่กรณีก็ตอบโต้มาว่า "ผมก็มีรถฟอร์จูนเนอร์ที่บ้านเหมือนกัน" จากนั้นก็ปั่นประสาทเคน อยู่เรื่อย ๆ ทำให้เคนซึ่งเป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว เกิดโมโหขึ้นมา ตนก็พยายามห้ามไม่ให้มีเรื่อง ก่อนที่ตำรวจจราจรขี่มอเตอร์ไซค์มายึดใบขับขี่ไป แล้วนัดให้ไปเจอที่โรงพัก ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะไปเอาที่โรงพักที่ไหน เพราะวันนี้ไปมา 3 โรงพักแล้วก็ยังไม่ได้ใบขับขี่เลย นางสาวจุฑามาศยืนยันว่า ไม่ได้เป็นแฟน หรือมีไปมีชู้กับเคนตามที่โซเชียลแสดงความคิดเห็น โดยตนจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีอย่างแน่นอน เพราะฝ่ายตนไม่ได้ผิด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ