จากเมื่อช่วงปี2559 ที่ผ่านมา
เรวดี หาแก้ว หรือป้าติ้น เคยร้องเรียนสื่อว่าถูก
นางสุดารัตน์ น้อยนิด หรือ
ป้าดา ยักยอกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาทไป แต่ครั้งนั้นสน.ประเวศ สรุปสำนวนไม่สั่งฟ้อง เนื่องจากผลการตรวจหลังสลากจากกองพิสูจน์หลักฐานนั้นไม่พบร่องรอยการแก้ไขชื่อตามที่ป้าติ้นกล่าวอ้าง หลังจากนั้น ป้าติ้นยังคงเดินหน้าฟ้องศาลด้วยตนเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการไต่สวนมูลฟ้อง
ล่าสุด 22 สิงหาคม 2560
เรวดี หาแก้ว หรือป้าติ้น ผู้อ้างว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง 30 ล้าน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปไหว้พระที่วัดป่าคำชะโนด จ.อุดรธานี พร้อมกับ
นางวิไลพร รัตนติสร้อย หรือ ป้าเล็กและ
ป้าติ๋ว ครั้งนั้นได้ซื้อลอตเตอรี่ เลข 392785 มาจำนวน 1 ชุด (5คู่) ราคา 500 บาท และตนได้ของเบอร์โทรศัพท์คนขายไว้ด้วยพร้อมให้ป้าติ๋วถ่ายรูปสลากเก็บไว้ โดยสลากชุดดังกล่าว ป้าติ้นกับป้าติ๋วได้ตกลงว่าจะหุ้นซื้อกันคนละ 250 บาท โดยป้าติ๋วจะต้องเป็นคนออกเงินให้ เนื่องจากป้าติ๋วติดเงินค่าสลาก และตนได้ขอสลากมาเซ็นชื่อไว้ด้านหลัง 2 คู่ครึ่ง พร้อมกับทำตำนหนิ ก่อนจะส่งคืนให้ป้าติ๋วเก็บไว้ โดยบอกว่าจะเอาไปรวมกับที่เคยซื้อไว้ แล้วมาแบ่งกันทีเดียว
แต่พอมาถึงที่กรุงเทพก็ไม่ได้แบ่งกัน จนวันรุ่งขึ้น (30มี.ค.) ป้าติ้นจึงโทรไปหาป้าติ๋วเพื่อจะนัดแบ่งสลาก แต่ถูกอ้างว่าไม่ว่าง จะพาสามีไปซื้อกับข้าว พอตนเลื่อนไปนัดวันที่ 31 มี.ค. ก็บอกว่าไม่ว่างอีก และจะนัดแบ่งลอตเตอรี่กันในวันที่ 1 เม.ย. แต่สุดท้ายป้าติ้นไลน์บอกว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ว่า รีบกลับไปดูอาการแม่ ตนจึงได้โทรศัพท์ไปบอกป้าติ๋วให้เก็บสลากไว้ก่อน และพอตนทราบว่าเลขงวดนี้ออกอะไร จึงจำได้ทันทีว่าเลขที่ตนซื้อมานั้นถูกรางวัล จากนั้นได้พยายามทวงถาม แต่ป้าติ๋วยืนยันว่าไม่ได้ซื้อเลขดังกล่าวมา พร้อมทั้งบ่ายเบี่ยงไม่ยอมที่จะให้ตนไปหา หรือเจอตัว พร้อมทั้งยังบอกตนว่า
“กูจะแจ้งความมึงกรรโชกทรัพย์” ป้าติ้นจึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี และอยากให้ตำรวจนำโทรศัพท์ของป้าติ๋วไปตรวจสอบ เพื่อนำภาพถ่ายไปเป็นหลักฐานด้วย
หากถามว่าทำไมตนถึงซื้อหวยที่ถูกรางวัลทั้ง 2 รอบ ตนก็คิดว่าเป็นเพราะดวง ส่วนหากถามว่าตนเป็นพวกตบทรัพย์หรือไม่ ก็ขอตอบว่าไม่ใช่และไม่เคยไปขู่ทางป้าติ๋วว่าถ้ายอมจ่ายเงินตน 2-3 ล้านฉันไม่แจ้งความอย่างแน่นอน เพราะพูดแค่ว่าทำไมถูกแล้ว ถึงไม่เอามาแบ่งกัน ส่วนถ้าถามว่าตนเคยตรวจสภาพจิตหรือไม่นั้น ป้าติ้นก็บอกว่า เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ พี่เป็นคนมีดวง พี่ชี้ให้เขาเลือกใบที่ถูกเอง และชีวิตหนี้ตนก็ไม่มีหนี้สิน และนิสัยตนไม่เคยใส่ร้ายผู้อื่น สักวันต้องพิสูจน์ได้ และพร้อมจะเอาผิดป้าติ๋ว ป้าติ้นกล่าว
ขณะที่
คุณสุดารัตน์ น้อยนิตย์ ผู้ถูกกล่าวหาเมื่อปี 2559 เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับป้าติ๋วดี จากการคบหากับป้าติ๋วมาเป็น10-20ปี รู้ว่าป้าติ๋วไม่มีนิสัยลักเล็กขโมย ซึ่งตนก็ไม่เชื่อว่าป้าติ๋วจะขโมยสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 แน่นอน
ส่วนทาง
พ.ต.ท.จำลอง ทับสีแก้ว รองผกก.(สอบสวน) สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อจะแจ้งข้อหากับผู้ถูกกล่าวหาได้ ซึ่งขณะนี้ก็ต้องรอหนังสือจากทางสลากกินแบ่งรัฐบาลว่ามีการขึ้นเงินถูกต้องหรือไม่ แต่เบื้องต้นถ้าเป็นไปตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์
ส่วนทาง
ทนายเกิดผล แก้วเกิด บอกว่า เรื่องดังกล่าวมีหลายเรื่องที่ตนยังคงสงสัยตั้งแต่ทางป้าติ้นได้ขอเบอร์โทรศัพท์คนขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะปกติแล้วคนทั่วไปหากไปเที่ยวคงไม่ขอเบอร์โทรศัพท์คนที่ตนไม่รู้จักอย่างแน่นอน ส่วนการถ่ายภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลไว้ก็ไม่ได้มีผล เพราะหากถ่ายไว้แล้วไม่ได้ซื้อก็เป็นหลักฐานที่อ่อน ยอมรับว่าถ้าป้าติ๋วถูกดำเนินคดีก็ต้องลำบากในการหาเงินมาประกันตัวอย่างแน่นอน แต่ถ้าป้าติ๋วถูกป้าติ๋วข่มขู่นั้นก็สามารถแจ้งข้อหากลับได้ในข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์ แต่ก็ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะหาพยานหลักฐานสิ่งใดมา ซึ่งถ้าตำรวจสืบทราบภายหลังว่าป้าติ้นให้การเท็จก็จะถูกดำเนินคดีฐานแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน
ภายหลังจากจบรายการทีมข่าวได้สัมภาษณ์
นางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือ ป้าดา ซึ่งถูกกล่าวหาว่าขโมยสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 เมษายน 2559 มูลค่า 30 ล้านบาท ไปจากนางเรวดี หาแก้ว หรือ ป้าติ้น จนเป็นคดีความฟ้องร้องกัน โดยป้าดา เผยว่าขณะนี้ก็รอเพียงวันฟังคำตัดสินของศาล ในวันที่ 28 ก.ย.60 ซึ่งก็จะทราบถึงข้อเท็จจริง ส่วนตัวไม่ได้สบายใจ ที่ผ่านมาก็เครียดมาตลอด ตนมองว่าสลากมันไม่เคยมีแล้วจะมีได้อย่างไร ส่วนตัวสงสัยว่าป้าติ้นทำไปเพื่ออะไร นอกจากนี้ยังระบุว่าตนก็ทราบข่าวว่าป้าติ๋วถูกป้าติ้นเอาเรื่องหวยรางวัลที่ 1 มาอ้างถึงอีก โดยมีเนื้อหาของเรื่องคล้ายๆแบบเดิม ส่วนตัวก็สงสารป้าติ๋วเพราะป้าติ๋วก็มีมาปรึกษาตนอยู่บ้าง ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน วันนี้จึงเป็นเหตุที่ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ เพราะตนอยากให้เรื่องเกิดความชัดเจนเสียก่อน
นางใบบัว(นามสมมติ) ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ภายในพื้นที่ใกล้เคียงกับป้าติ้น
นอกจากนี้
นางใบบัว(นามสมมติ) ซึ่งเป็นชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ภายในพื้นที่ใกล้เคียงกับป้าติ้น เผยว่าตนพักอาศัยที่นี่มากว่า 10 ปี โดยปกติจะเห็นป้าติ้นลงมานั่งสังสรรค์อยู่บริเวณศาลาหน้าตึก พร้อมเล่าว่าป้าติ้นเป็นคนนิสัยดี ชอบแบ่งปัน มีเพื่อนเยอะ ปกติไปจุดไหนก็จะมีเพื่อนไปทั่ว แต่เท่าที่เห็นป้าติ้นไม่เคยมีปัญหากับใคร
ส่วนการเล่นหวย เสี่ยงโชค ระบุว่าป้าติ้นเป็นคนเล่นหวยเยอะ มักซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลทีละหลายๆใบ ระบุงวดหนึ่งมีมากกว่า 10 ใบ ซึ่งจะนำมาให้ชาวบ้านแถวนี้ดูว่าซื้อเลขมา บางคนชอบก็มีขอแบ่งซื้อจากป้าติ้นไป ระบุว่าแกก็ยอมให้ซื้อต่อไปถูกสลากหรือไม่ตนไม่รู้ เพราะก็ไม่เคยถาม ทราบเพียงเมื่อปี2559ที่มีข่าวว่าป้าติ้นถูกรางวัลที่ 1 ครั้งนี้ตนเพิ่งทราบจากทีมข่าวเดินทางมาพบ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าสำหรับตนป้าติ้นไม่เคยชวนซื้อเลขด้วย เรื่องจริงจะเป็นอย่างไรตนก็ไม่ทราบ
ทั้งนี้ หลังจบรายการต่างคนต่างคิด ป้าติ้นได้ให้ข้อมูลว่า ขอย้อนกลับไปยังคดีของป้าดาที่เกิดเมื่อปี2559 เพราะป้าติ้นเปิดเผยว่า ตนมีหลักฐานที่จะใช้สู้ในชั้นศาล โดยเป็นลายมือของผู้ที่นำสลากไปขึ้นเงิน ซึ่งหากสังเกตคำว่า "นิ" จะมีลักษณะที่คล้ายกับลายชื่อของป้าดาจึงนำตัวหนังสือนี้ไปต่อสู้ในชั้นศาล
