จากกรณีแม่ค้าสาวร้านยำ ย่านรัชดา เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ไลฟ์เฟซบุ๊กต่อว่าตำรวจ หลังจากถูกตำรวจเข้ามาตรวจสอบ พร้อมขอปูม้าและมะม่วงกลับไปที่โรงพัก อ้างว่าใช้เป็นของกลาง โดยแม่ค้ายืนยันว่าไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมาย และแรงงานต่างด้าวของร้านก็มีใบอนุญาตถูกต้องนั้น
วันที่ 23 มี.ค. 63 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ ลักษณะมีตำรวจเข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวในร้านขายยำ พื้นที่ สน.ห้วยขวาง และมีพฤติกรรมเรียกรับยำปูม้า อ้างว่าเป็นของกลางในคดีนั้น ยอมรับว่าเป็นตำรวจสังกัด 191 แต่เป็นเพียงการเข้าตรวจจับแรงงานต่างด้าวเท่านั้น ไม่ได้เบียดบังนำอาหารไป ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัดสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขณะเดียวกันตำรวจที่ปรากฎในคลิปได้เข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เพราะให้การขัดแย้งกัน
พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ (191) ให้ข้อมูลว่า ตำรวจ 2 นายในคลิป มีตำแหน่งดาบตำรวจ และสิบตำรวจเอก อยู๋ในสังกัด 191 จริง ในฐานะผู้บังคับบัญชาได้สั่งตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าไม่นิ่งนอนใจ พร้อมสั่งให้ 2 นายตำรวจปฏิบัติงานจิตอาสาประจำสำนักงาน 191 จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ
ล่าสุด เจ๊หวาน เจ้าของร้านยำ ป่วยเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล พร้อมให้ข้อมูลว่า ตนเองเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะมีความกังวลว่าจะถูกตำรวจดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท เพราะมีการไลฟ์เฟซบุ๊ก ตอนนี้เครียดจนความดันขึ้น ส่วนร้านยำตอนนี้ปิดหน้าร้าน แต่ลูกค้ายังสั่งซื้อออนไลน์ได้ตามปกติ
"ตนเองยังไม่ขอตอบโต้ตำรวจ พร้อมขอบคุณ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ (191) ที่ออกมายอมรับ และรับปากว่าจะดำเนินการตรวจสอบให้ ขอบคุณตำรวจที่จะไม่เอาเรื่องด้วย" เจ๊หวาน กล่าว
อย่างไรก็ตาม การให้ข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่ายไม่ตรงกัน คือ ฝ่ายตำรวจอ้างว่าในร้านยำมีต่างด้าวผิดกฎหมาย แต่เจ้าของร้านยำบอกว่ามีการขึ้นทะเบียนถูกต้อง และอยู่ระหว่างการยื่นต่ออายุความ ตำรวจจึงขอดูหลักฐาน แจ้งว่าถ้าไม่มีจะเชิญไปโรงพัก เจ้าของร้านยำก็ขอเวลา 10 นาที ในการหาบัตรมายืนยัน ส่วนที่ตำรวจขอยำปูม้า 2 ถุง อ้างว่าใช้เป็นหลักฐานของกลาง แต่เจ้าของร้านยำไม่ให้ เพราะมองว่าเป็นของซื้อของขาย
นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เปิดเผยว่า การไปตรวจจับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย แล้วไปขอยำปูม้าไปเป็นหลักฐาน ไม่เกี่ยวกับคดี เพราะยำปูม้าใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ความผิดไม่ได้ ต้องดูเอกสารการจ้างแรงงานต่างด้าว และบัตรประจำตัว ส่วนแม่ค้าสามารถแจ้งความตำรวจ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน ตำรวจไม่สามารถสั่งปิดร้านได้ เนื่องจากหากแรงงานไม่มีใบอนุญาต เจ้าของร้านกับแรงงานจะมีความผิด ไม่เกี่ยวกับร้าน