หมอไขความเชื่อ “วัณโรค” ไอ 100 วัน เป็นแล้วไม่เท่ากับตาย ระวังภูมิตกลามสมองป่วยซ้ำสูง

31 มี.ค. 63

ปัจจุบันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 กำลังเป็นที่พูดถึงและแพร่ระบาดไปทุกทวีปทั่วโลกนั้น ในอดีตโรค “วัณโรค” ก็ถือเป็นโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจที่สร้างความหวาดกลัวและคร่าชีวิตของใครหลายคนเช่นเดียวกัน แต่เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง ว่าปัจจุบันวัณโรคไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดและสามารถรักษาได้ แต่จะจริงเท็จอย่างไร วัณโรคเป็นแล้วตายจริงหรือไม่

ล่าสุดวันที่ 31 มี.ค.63 ผศ.นพ.ธีระศักดิ์ แก้วอมตวงศ์ สาขาวิชาโรคระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล ให้ข้อมูลว่า ถ้าย้อนกลับไป 10-20 ปีก่อน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์นั้นยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ผู้ป่วยวัณโรคไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อีกทั้งยาในสมัยก่อนมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ป่วยกิน ๆ หยุด ๆ หรือไม่ครบจนเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต

ปัจจุบันวัณโรคไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอีกต่อไป เพราะหากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ทันท่วงที กินยาจนครบก็สามารถรักษาได้ แต่ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นเดียวกัน โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโรค คาดการณ์ตัวเลขของผู้ที่มีเชื้อวัณโรคอยู่ในร่างกายพบว่า มีมากถึง 54 ล้านคนทั่วโลก แต่จะมีผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้อยู่เพียง 6-7 ล้านคนเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับคนที่มีร่างกายอ่อนแอ ดังนั้นถึงแม้จะรักษาจนหายดีแล้ว แต่หากวันใดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตกต่ำลง โอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำก็มีความเป็นไปได้สูง

แล้ววัณโรคเป็นแค่การติดเชื้อที่ปอดหรือไม่ การติดเชื้อของวัณโรคนอกจากจะติดเชื้อที่ปอดแล้ว สามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่นได้ เช่น ติดเชื้อขึ้นสมอง ต่อมน้ำเหลือง เยื่อหุ้มปอด ไขกระดูก ตับ ต่อมหมวกไต ฯลฯ ซึ่งถ้าหากการติดเชื้อลุกลามไปในอวัยวะส่วนอื่น การรักษาจะยิ่งยากขึ้น และอาจมีภาวะแทรกซ้อนมากขึ้นตามมา ซึ่งตัวเลขของการติดเชื้อที่ปอดอยู่ที่ 70-80% ส่วนอวัยวะอื่น ๆ พบได้ 20-30% ขึ้นอยู่กับระบบภูมิคุ้มของแต่ละคนและความรุนแรงของโรคด้วย

วัณโรคที่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ จะมีอาการอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อกระจายไปยังอวัยวะส่วนไหน เช่น กระจายมาที่ต่อมน้ำเหลือง จะมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต มีก้อนอยู่บริเวณคอ ซึ่งหากดูภายนอกจะแยกไม่ออกว่าเป็นโรคมะเร็งหรือโรคอะไร ต้องใช้วิธีการตรวจชิ้นเนื้อถึงจะรู้ผล หรือถ้าเชื้อกระจายไปที่สมอง ส่วนมากจะพบในเด็กโดยจะมีอาการซึม ปวดศีรษะ ชัก แต่ถ้าพบในผู้ใหญ่จะมีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง คอแข็ง ชักหรือกระตุก เช่นเดียวกับเด็ก

ความเชื่อที่ว่าไอ 100 วัน เท่ากับป่วยเป็นวัณโรคจริงหรือไม่ ความเชื่อนี้อาจเป็นความเชื่อของคนสมัยก่อน โดยทั่วไปแล้วคนที่มีร่างกายปกติจะไอและหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่คนที่เป็นวัณโรคส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีอาการไอเรื้อรัง ซึ่งอาการไอเรื้อรังนั้นต้องมีการไอติดต่อกันนานถึง 8 สัปดาห์ขึ้นไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีอาการไอเรื้อรังจะต้องเป็นวัณโรคเสมอไป เพราะต้องดูสัญญาณและอาการอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีไข้ ไอมีเลือดปน เจ็บหน้าอก หายใจขัด ฯลฯ หากใครมีอาการเหล่านี้ให้รีบมาตรวจทันทีโดยที่ไม่ต้องรอให้ครบ 100 วัน

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส