กรณีชายไทย 3 คน แอบลักลอบเข้าไปในป่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และเกิดพลัดหลงกัน โดยเพื่อน 2 คนได้ออกมาแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และหน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดไทยสามัคคี ให้ช่วยตามหานายจำรัส อายุ 46 ปี
หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตระเวนขึ้นไปบนเขา ห่างจากหมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ประมาณ 15 กิโลเมตร จึงได้พบศพของนายจำรัส
ในเวลา 18.00 น. พบศพของนายจำรัส นอนคว่ำหน้าอยู่ในป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน สภาพศพขาขวาขาดหายไป และศีรษะเป็นแผลเปิดขนาดใหญ่ คาดว่าน่าจะถูกสัตว์ป่ากัดกินเนื้อนั้น
นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน เปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้เสียชีวิตและเพื่อนอีก 2 คน มีพฤติกรรมคล้ายมอดไม้ที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ หรือเป็นกลุ่มที่ชี้เป้าต้นไม้ในป่า หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดไม้พยุง อีกทั้งยังเตรียมที่จะแจ้งข้อกล่าวหาสำหรับชาย 2 คนที่รอดชีวิต ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า
ล่าสุดวันที่ 31 มี.ค.63 ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านสุขสมบูรณ์ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายจำรัส โดยญาติได้เดินทางไปรับศพที่ รพ.วังน้ำเขียว เพื่อนำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 2 เม.ย.63
นางปวีณา อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีออกจากบ้านเข้าป่าไปในวันที่ 29 มี.ค.63 ช่วงเวลา 05.00 น. โดยตอนแรกบอกว่าจะไปดักกุ้งและไปเก็บผักหวาน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งมีชาวบ้านแจ้งให้ทราบว่าสามีเสียชีวิต เพราะถูกเสือบนเขากัดตาย ซึ่งก่อนหน้านี้เหมือนมีลางบอกเหตุ สามีได้ฝันว่ามีผีเต็มบ้านและสู้กับผีจนตกเตียง มีหน้าหมองเหมือนคนดวงตก ทั้งนี้ก่อนหน้าที่สามีจะออกไปก็ได้ให้เงินไว้ซื้อของ ทั้ง ๆ ที่สามีไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน
ด้านนายสุรศักดิ์ มุ่งคูกลาง อายุ 62 ปี พ่อตาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนทราบข่าวว่าลูกเขยเสียชีวิตจากเสือทำร้าย ก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ชาวบ้านในพื้นที่อยู่อาศัยมานาน ไปเดินป่าก็บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เสือกินคน ดังนั้นจึงเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ต้องเกิดปรากฏการณ์อะไรบางอย่าง ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ หรือมีความเป็นไปได้สูง ว่า กลุ่มของลูกชายอาจไปทำอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควร หรือเป็นรบกวนเจ้าป่าเจ้าเขา จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาด
ส่วนเหตุการณ์ช่วงวันที่ 29 มี.ค.63 ขณะที่ลูกเขยเข้าไปในป่า ตนไม่ทราบว่าขึ้นไปตอนไหน หรือถูกใครชักชวน เพราะโดยปกติลูกเขยไม่เคยเข้าป่า ทำแต่ไร่นา แต่มาทราบภายหลังว่า ลูกเขยบอกกับภรรยา ว่าต้องการไปหาผักหวาน เพื่อนำกลับมาทำกิน โดยปกติก็จะเป็นพฤติกรรมทั่วไปของชาวบ้านอยู่แล้ว ที่มีบ้านอยู่ติดป่าภูเขา ซึ่งมักจะออกไปหาผักและของป่ามารับประทาน แต่ไม่ได้นำไปขาย ดังนั้นการเข้าป่าครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของลูกเขย เพราะเขาไม่ใช่คนพื้นที่ เนื่องจากเป็นคน จ.บุรีรัมย์ จึงเชื่อว่าอาจจะไม่ชำนาญทาง หรือไม่คุ้นชินพื้นที่
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับกลุ่มอาสากู้ภัยฮุก 31 จุดไทยสามัคคี วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยอาสากู้ภัย เล่าเหตุการณ์ขณะปฏิบัติหน้าที่บนอุทยานฯ และกำลังเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิต ออกมาจากจุดเกิดเหตุ
หนุ่มอาสากู้ภัย เปิดเผยว่า ทีมของตนได้รับประสานงานจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ให้เข้าไปช่วยเหลือในการลำเลียงร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากป่า ซึ่งยังไม่มีความชำนาญเรื่องป่ามากนัก จึงต้องอาศัยชาวบ้านและนายพรานนำทาง โดยใช้รูปแบบประกบหัวท้ายและตรงกลางต่อ 1 ทีม เนื่องจากระหว่างทางค่อนข้างมืด ประกอบกับอาจจะมีสัตว์ร้ายอยู่รอบข้างจำนวนมาก จึงต้องมีการคุ้มกันเป็นทีมใหญ่
หลังจากที่เข้าไปถึงจุดพบศพผู้เสียชีวิต สังเกตว่าจุดดังกล่าวเป็นลักษณะคล้ายโพรงหรือถ้ำขนาดเล็ก เชื่อว่าเป็นที่อยู่และแหล่งเก็บอาหารของเสือ เพราะบริเวณใกล้กับโพรง มีทั้งร่างของผู้เสียชีวิต และยังพบตัวเงินตัวทองขนาดใหญ่ อยู่กองรวมกับศพมนุษย์ จึงเชื่อได้ว่าจุดดังกล่าวเป็นที่เก็บอาหารของเสือดังกล่าว
นอกจากนี้ตลอดเส้นทาง นายพรานและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พยายามส่งเสียงให้ดังเพื่อให้สัตว์ป่าลีกหนีและกลัวเสียง อีกทั้งยังเป็นการเตือนบอกชุดที่ประจำอยู่จุดต่าง ๆ ให้รับรู้ว่าขณะนี้ลำเลียงผู้เสียชีวิตมาถึงจุดใดแล้ว เพราะไม่มีแสงสว่างและค่อนข้างมืดมาก อย่างไรก็ตามสภาพศพของผู้เสียชีวิตพบว่าศีรษะเกือบขาด ยังมีเนื้อบริเวณท้ายทอยเชื่อมติดกันอยู่ ส่วนขาขวาตั้งแต่บริเวณเข่าลงไปจนถึงเท้า พบว่าขาดหายไป
ทีมอาสากู้ภัย ยังบอกกับทีมข่าวอีกว่า กรณีที่หัวหน้ากรมอุทยานแห่งชาติทับลาน ตั้งข้อสังเกตว่าคล้ายกับลักษณะของการบุกรุกและหวังจะตัดไม้ ส่วนตัวยืนยันว่า ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวไม่ได้มีอาวุธ หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ แต่ทำตัวปกติเหมือนชาวบ้านทั่วไป ที่เข้าไปหาของป่า ดังนั้นจึงเชื่อว่าไม่ใช่กลุ่มตัดไม้ทำลายป่า แม้แต่เลื่อยไฟฟ้า หรือปืน ก็ไม่มี มีเพียงมีดพกขนาดเล็กติดตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ขณะนี้มีจำนวนเสือโคร่งในอุทยานแห่งชาติทับลาน ทั้งหมด 22 ตัว ตัวผู้ 5 ตัว ตัวเมียและลูก 17 ตัว บนพื้นที่ทั้งหมด 2236 ตร.กม.