ฆ่ายิงพรุนหนุ่มเคยค้ายา ชาวบ้านแฉคนตายถือมีดปรี่หาเรื่องก่อนเจอเป็นศพคาวงเหล้า (คลิป)

5 เม.ย. 63

จากกรณีตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่ทุ่งนาบ้านเหล่านาดี ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่เกิดเหตุพบศพนายวงศกร สีแตง อายุ 37 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพนอนหงายไม่สวมเสื้อ หน้าอกมีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง แต่ไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ใกล้กันที่โต๊ะอาหารมีขวดเหล้า น้ำดื่ม พร้อมกับอาหารวางอยู่บนโต๊ะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ

199910

ล่าสุดตำรวจควบคุมตัวตัวเจ้าของที่นา นายโจ้ นายยาว และนายตูมตาม มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะทั้งหมดได้นั่งกินข้าวกับผู้เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันเกิดเหตุ แต่ทั้งหมดให้การปฎิเสธตำรวจ จึงทำการตรวจปัสสาวะ พบว่าทั้ง 3 คน ปัสสาวะเป็นสีม่วง เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด และควบคุมคัวไว้สอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนเจ้าของที่นาได้ปล่อยตัวกลับตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่าน นอกจากนี้ตำรวจยังติดตามตัวผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน ที่เคยมีเรื่องทะเลาะกับผู้เสียชีวิต ซึ่งได้ตั้งประเด็นสังหารไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องส่วนตัวและยาเสพติด

312602

ล่าสุดวันที่ 5 เม.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ กระท่อมไม่มีเลขที่ กลางทุ่งนาบ้านเหล่านาดี ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่า ขวดเหล้าและอาหารของผู้เสียชีวิตยังตั้งอยู่บนแคร่

773663

พื้นดินข้างแคร่มีรอยเลือดกองอยู่ จากการสังเกตบริเวณโดยรอบ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ซึ่งกระท่อมที่เกิดเหตุตั้งอยู่กลางทุ่งนา ไม่มีบ้านคน ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านโดยรอบ ให้ข้อมูลเพียงว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เวลา 19.00 น. เท่านั้น และไม่มีใครเห็นผู้ก่อเหตุ

ทีมข่าวเดินทางไปยัง วัดป่าอรัญญาวาสี ต.บ้านหว้า อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายวงศกร สีแตง ผู้เสียชีวิต ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีญาติ 5-10 คน มาร่วมงานและแสดงความเสียใจกับผู้ตาย

241602

โดยทีมข่าวพบกับ นางมณิฐกานต์ อนุอันท์ อายุ 33 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ในอาการโศกเศร้า เปิดเผยว่า โดยปกติตนอาศัยอยู่ต่างหมู่บ้าน ไม่ได้อยู่กับพี่ชาย จึงไม่รู้ว่ามีเรื่องบาดหมางกับใคร แต่รู้ว่าพี่ชายมีเพื่อนอยู่ในหมู่บ้านประมาณ 2-3 คน ทราบว่าช่วงเช้าพี่ชายได้ตั้งวงดื่มเหล้าขาวที่กระท่อม แต่ตนก็ไม่รู้ว่านั่งกินกับใครบ้าง กระทั่งช่วงบ่ายพี่ชายออกไปทำงานรับจ้างอีกแห่ง และทราบว่าไปตั้งวงกินเหล้า

866791

แต่ตนก็ไม่รู้อีกเช่นกันว่าพี่ชายไปดื่มเหล้าหรือคลุกคลีกับใครบ้าง ทราบว่าช่วง 17.00 น. พี่ชายทะเลาะกับนายโจ้ จนถึงขั้นจะเอามีดไปแทง แต่มีเพื่อน ๆ ห้ามปรามเอาไว้ หลังจากนั้นพี่ชายได้ย้อนกลับไปที่บ้านน้าด้วยอาการมึนเมาพร้อมกับร้องไห้ และพูดตัดพ้อว่ามีคนมาหาเรื่อง และพูดทำนองว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น พี่ชายไม่ใช่คนผิด แต่ทางญาติก็ไม่รู้ว่าพี่ชายทะเลาะกับเพื่อนคนไหน เพราะพูดด้วยอาการเมาและไม่รู้เรื่อง หลังจากนั้นก็กลับไปกระท่อมที่เกิดเหตุ จนสุดท้ายเวลา 20.00 น. ก็มีคนมาแจ้งกับญาติว่าพี่ชายถูกยิงตายที่กระท่อม

นางมณิฐกานต์ พูดทั้งน้ำตาว่า ตนคิดว่าสาเหตุที่พี่ชายถูกฆ่า น่าจะมีความเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา เพราะว่าพี่ชายเคยเสพยาเสพติด แต่ไม่ได้ขาย ซึ่งยอมรับว่าพี่ชายตนไม่ใช่คนดี แต่การที่พี่ชายเสียชีวิตแบบนี้ก็ไม่ยุติธรรม เพราะเชื่อว่าคนที่ฆ่าพี่ชายก็ไม่ได้เป็นคนดีไปกว่าพี่ชายนัก จึงอยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับกรรมที่ก่อไว้ เพราะไม่มีสิทธิ์มาตัดสินชีวิตใครด้วยอาวุธแบบนี้ 

cg_4

อย่างไรก็ตาม สำหรับนายโจ้ ตนรู้ว่าพี่ชายเคยทำงานรับจ้างร่วมกัน เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำงานด้วยกันและพี่ชายก็แยกออกไปรับจ้างเฝ้าทุ่งนา ซึ่งช่วงที่พี่ชายไปทำงานร่วมกับนายโจ้ จะเกี่ยวพันกันในเรื่องยาเสพติดหรือไม่

นอกจากนี้ ตนคาดว่าพี่ชายน่าจะมีปัญหากับผู้ก่อเหตุมาระยะหนึ่ง และตั้งข้อสงสัยว่าคนก่อเหตุจะเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มที่พี่ชายไปเสพยาด้วยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพี่ชายน่าจะพยายามออกจากกลุ่มที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซี่งตนก็อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

ทีมข่าวโทรศัพท์ไปหา พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา ผกก.สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ซึ่งทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ แต่เชื่อว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้ ตอนนี้ขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงาน ซึ่งชุดสืบสวนมีการลงพื้นที่หาหลักฐานอยู่ตลอด

539593

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังถนนทางหลวงชนบท ปากทางเข้าหมู่บ้านเหล่านาดี ต.บ้านหว้า อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เสียชีวิต มีเรื่องทะเลาะกับนายโจ้ ได้พบกับนายสุรินทร์ คุนะ อายุ 51 ปี ชาวบ้านในพื้นที่

โดยนายสุรินทร์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 17.00 น. นายวงศกร ถือมีดยาวและได้ขี่จักรยานมาหานายโจ้ โดยนายวงศกรมีการท้าทาย ด่าทอหาเรื่องนายโจ้ ที่อยู่ในไซต์งานก่อสร้างข้าง ๆ ไซต์งานของตน แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร จนมีนายยาว เพื่อนของทั้งสองคนเข้าไปห้าม สุดท้ายนายวงศกร ก็ขี่จักรยานกลับเข้าหมู่บ้านโดยที่ไม่ได้ทำร้ายกัน

นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า เมื่อก่อนนี้นายวงศกรและนายโจ้ เคยเป็นเพื่อนร่วมงานโดยทำงานในไซต์ก่อสร้างเดียวกัน แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเคยเรื่องบาดหมางอะไรกันบ้าง ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้นตนก็ไม่รู้เรื่อง เพราะมักจะไปด้วยกันสองคน อย่างไรก็ตามตนดูจากการทะเลาะกันของทั้งคู่ ตนมองว่าเหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นต้องฆ่ากัน เป็นแค่การทะเลาะธรรมดาเท่านั้น

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส