หัวอกเจ้าของร้านเกม แอบเปิดฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวหาเลี้ยงลูกเมีย ยอมโดนจับดีกว่าอดตาย (คลิป)

กรณี สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เข้าจับกุมร้านเกมและอินเmอร์เน็ตใน ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าปล่อยให้วัยรุ่นเข้าไปมั่วสุมเล่นเกม เสี่ยงเป็นสถานที่แพร่เชื้อโควิด-19 พบกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คน กำลังนั่งเล่นเกมอยู่ในร้าน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้ พร้อมกับยึดของกลางในร้าน ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง

วันที่ 7 เม.ย. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่ร้านเกม ซึ่งเป็นหอพักอยู่ภายในชุมชน ด้านหน้าเป็นห้องกระจก ติดตั้งผ้าม่านสีดำ โดยด้านในมีตั้งโต๊ะเรียงกันเป็นร้านเกมออนไลน์

นายน๊อต (นามสมมติ) อายุ 43 ปี เจ้าของร้านเกมออนไลน์ ซึ่งประกันตัวออกมาด้วยหลักทรัพย์ 20,000 บาท เปิดเผยว่า การเปิดร้านเกมออนไลน์ ไม่ได้เปิดอย่างโจ่งแจ้ง เปิดให้กลุ่มเครือญาติและลูกหลานเล่นเท่านั้น โดยไม่ได้มีกลุ่มวัยรุ่นหรือกลุ่มชาวบ้านคนอื่นไกลมาเล่น และเปิดได้เพียง 2 วันก่อนถูกจับ

นายน๊อต เล่าว่า ความจำเป็นที่เปิดร้านเกม เพราะเป็นการหารายได้เพิ่มเติม ช่วงที่ครอบครัวตกอยู่ในสภาวะวิกฤต มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่ารายรับ ต้องเลี้ยงลูกและภรรยา ก่อนหน้านี้ตนเป็นพ่อค้าที่ถนนคนเดินเชียงใหม่ แต่หลังจากที่มีโรคโควิด-19 ระบาด ตนเองจึงขาดรายได้หลัก จึงเปิดให้กลุ่มเครือญาตเข้ามาเล่นเกมได้ แล้วจ่ายค่าชั่วโมง ซึ่งตนมีรายได้วันละเพียง 100 บาท ซึ่งประทังชีวิตได้ไปถึง 2 วัน โดยคนที่มาเล่นเกม อย่างน้อยก็มีหน้ากากอนามัย ตนเองเตรียมเจลล้างมือเอาไว้ให้ด้วย

"ตนยอมฝืนคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเรื่องปากท้องก็เป็นส่วนสำคัญ ยอมโดนจับดีกว่าอดตาย" ส่วนตัวก็อยากวอนให้สังคมเห็นใจ สิ่งที่ทำไปเพราะต้องเลี้ยงอีกหลายชีวิต 

ขณะเดียว นางวิรักษ์ โม่งคำ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ชุดที่เข้าจับกุมร้านเกม ระบุว่า ที่ต้องสั่งปิดให้บริการร้านเกม เนื่องจากจะเป็นแหล่งรวมการแพร่เชื้อโควิด-19 ในฐานะผู้นำชุมชน อยากจะฝากกรณีตัวอย่างนี้ให้เป็นบทเรียนของร้านค้าที่ฝืนคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอให้มีการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด