หนุ่มง้อสาวยิงแสกหน้าดับคาวงหมูกระทะ ก่อนเป่าขมับตายตาม สลดพ่อกู้ภัยช็อกต้องเก็บศพลูกสาว

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 5 พ.ค.63 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไทรย้อย พร้อมด้วยแพทย์เวร และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยบูรพาเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืน ที่บ้านหลังหนึ่ง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เบื้องต้นในที่เกิดเหตุพบข้าวของกระจัดกระจาย และผู้หญิงเสียชีวิต 1 ศพ สภาพนอนหงาย มีรอยแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ บริเวณกลางใบหน้า ทราบชื่อคือ น.ส.สุธิมนต์ (สงวนนามสกุล) หรือ น้องหนึ่ง อายุ 18 ปี

ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตเป็นลูกสาวของ นายมงคล เมืองแพน อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยบูรพา จุดเนินมะปราง จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไทรย้อย ยังได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ริมถนนไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ มีบาดแผลจากอาวุธปืนที่บริเวณศีรษะ จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายบรรณสร (สงวนนามสกุล) หรือ น้องบอล อายุ 19 ปี ผู้ก่อเหตุยิงน.ส.สุธิมนต์ ซึ่งเป็นอดีตแฟนหนุ่มที่เลิกรากันไปประมาณ 1 เดือน

โดยข้างตัวพบอาวุธปืนลูกซองยาวกึ่งออโตเมติกสีดำ ตกหล่นอยู่ 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 3 กฉ 4230 ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยแพทย์เวร จึงได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี

ล่าสุดวันที่ 6 พ.ค.63 เวลาประมาณ 12.00 น. ที่อาคารเก็บศพ รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก นายมงคล (สงวนนามสกุล) และนางสมจิตร (สงวนนามสกุล) พ่อและแม่ของน.ส.สุธิมนต์ พร้อมด้วย อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยบูรพา จุดเนินมะปราง ได้เข้ามารับศพกลับไปส่งเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้าน และนำส่งศพของนายบรรณสร ผู้ก่อเหตุส่งให้ญาติด้วย

จากการสอบถามนายทองสุข ศุภวาร อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านในที่เกิดเหตุ ให้การว่าลูกสาวของตนเป็นเพื่อนกับผู้เสียชีวิต ได้มีการชักชวนกันมานั่งกินหมูกระทะในช่วงเย็นที่บ้านเวลาสองทุ่มโดยประมาณได้มีชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ลักษณะผอม ผิวคล้ำ สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้น ถืออาวุธปืนลูกซองยาวเข้ามาจ่อยิง น.ส.สุธิมนต์ ที่กำลังนั่งกินหมูกระทะอยู่กับเพื่อนเสียชีวิตคาที่ หลังจากก่อเหตุได้ขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว มาทราบในภายหลังผู้ก่อเหตุคือนายบรรณสร ซึ่งเป็นอดีตแฟนเก่าของน.ส.สุธิมนต์ 

ขณะที่นายมงคล ยังคงสวมใส่ชุด อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยบูรพา ปฏิบัติงานรับศพลูกสาว ขึ้นรถกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยมีภรรยาที่ยังคงทำใจไม่ได้ โดยนายมงคล บอกว่า ลูกสาวกับผู้ก่อเหตุ คบหาเป็นแฟนและอยู่ด้วยกันมาประมาณ 3 ปี แต่มักจะมีปัญหากันเรื่องผู้หญิงอื่น ลูกสาวเคยเลิกกันไปแล้ว แต่ก็กลับมาคืนดีกัน เพราะอยากให้โอกาส แต่ก็ยังคงเกิดหาเดิม ๆ ซ้ำขึ้นมาอีก จนในครั้งนี้ลูกสาว ซึ่งสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจ.พิษณุโลก เตรียมที่จะไปเรียนต่อ แต่นายบรรณสร ก็ยังคงจะมาหาคืนดีอีก แต่ก็ไม่เป็นผล

นายมงคล บอกว่า ตอนเกิดเหตุ พี่สาวโทรศัทพ์มาบอกว่าลูกสาวถูกยิง ตนยังไม่เชื่อเพราะคิดว่าลูกสาวอยู่ในห้อง แต่เมื่อไปดูก็ไม่พบว่าอยู่ที่ห้อง จึงรีบไปดูที่เกิดเหตุพบลูกเป็นศพ หลังจากได้ตรวจสอบชีพจรก็พบว่าลูกเสียชีวิตไปแล้วจริง ๆ

ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุถูกลูกสาวจับได้ว่า ไปนอนกับผู้หญิงอื่นจึงเลิกรากันไปได้ประมาณ 1 เดือน ผู้ก่อเหตุได้กลับมาพยายามขอคืนดี จนในคืนเกิดเหตุมีคนเห็นเหตุการณ์อยู่หลายคน แต่ห้ามไม่ทันและกลัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด โดยช่วงเวลาที่ผ่านมานายบรรณสร ก็เป็นคนดี ตนก็เลี้ยงดูเหมือนลูกอีกคนหนึ่ง และไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้

ด้านนางสมจิตร บอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินกว่าจะให้อภัยหรืออโหสิกรรมให้กับผู้ก่อเหตุได้ ปกติผู้ก่อเหตุเป็นคนนิสัยพอใช้ได้ เงียบ ไม่ค่อยพูด แต่ชอบทำความผิดซ้ำซากเรื่องผู้หญิง ช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเห็นผู้ก่อใช้ความรุนแรงกับลูกสาวมาก่อน ผู้ก่อเหตุเรียนไม่จบ ม.3 เพราะแยกทางกับลูกสาว ทำงานรับจ้างทั่วไป หากมีงานในบ้านก็จะกลับมาช่วยงานและก็จ่ายค่าแรงให้ ตนเป็นคนบอกลูกว่าลองให้โอกาส แต่ก็พบปัญหาเดิม ๆ อีกคือเรื่องผู้หญิง ตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องฆ่าลูกสาวของตน

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาตนได้เลี้ยงดูผู้ก่อเหตุอย่างดี ไม่เคยเอารัดเอาเปรียบ รักเหมือนลูกอีกคน เพราะเห็นว่าเป็นรักแรกของลูกสาว จึงไม่ได้ขัดขวาง แต่ก็ไม่คาดคิดว่าผู้ก่อเหตุจะไม่นึกถึงบุญคุณและความดีที่ครอบครัวของตนมีให้มากมาย กลับลงมือก่อเหตุรุนแรงขึ้นมาได้อย่างไร