ความรู้คู่ปลอดภัย! เคาะ 6 มาตรการ "เปิดเรียนปลอดภัย"

21 พ.ค. 63

กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันจัดเตรียมแนวทางเปิดเรียน เน้นความร่วมมือโรงเรียนและผู้ปกครองปฏิบัติตาม 6 แนวทาง “คัดกรอง-สวมหน้ากาก-ล้างมือ-เว้นระยะห่าง-ทำความสะอาดผิวสัมผัส-ลดกิจกรรมรวมกลุ่ม” เผยกลุ่มเด็กนักเรียนใช้เวลาอยู่ร่วมกันนานกว่าการเดินห้าง และเมื่อป่วยจะแสดงอาการน้อยอาจเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด 19

บ่ายวันนี้ (21 พฤษภาคม 2563) ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมการล่วงหน้าสำหรับการเปิดภาคเรียนในเดือนกรกฎาคม 2563 โดยสถิติการระบาดในประเทศไทยพบว่า กลุ่มเด็ก 10-19 ปี มีอัตราการติดเชื้อร้อยละ 3.81 ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการ เมื่อมาโรงเรียนใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดร่วมกัน 5-7 ชั่วโมงต่อวัน นานกว่าการเดินในห้างสรรพสินค้า จึงมีความเสี่ยงติดเชื้อในกลุ่มเพื่อน และเมื่อเด็กกลับบ้านจะอยู่ใกล้ชิดและแพร่เชื้อไปสู่คนในครอบครัวได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เปิดเทอม
- เปิดเทอม 1 ก.ค.นี้! ศธ.แนะ ผลัดกันเรียนห้องละไม่เกิน 20 คน เลี่ยงแพร่ระบาดโควิด
- วันเปิดเทอม-ปิดเทอมใหม่ ปีการศึกษา 2563 ให้ปิดเทอมรวม 54 วัน
- ปิดโรงเรียนวุ่น! ฝรั่งเศสเปิดเทอมสัปดาห์แรก นักเรียนติดเชื้อโควิด 70 คน

อย่างไรก็ตาม การเปิดภาคเรียน โรงเรียนจะต้องเตรียมการล่วงหน้าเพื่อให้พร้อมเปิดเรียนอย่างปลอดภัย โดยร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและภาคีเครือข่าย จัดทำมาตรการและคู่มือการปฏิบัติ สำหรับสถานศึกษา ป้องกันโควิด 19 ให้เสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และชี้แจงแนวทางปฏิบัติกับบุคลากรสาธารณสุข จัดอบรมครู “รอบรู้สุขอนามัย” ในโรงเรียนรองรับสถานการณ์โควิด 19 กลางเดือนมิถุนายน 63 ให้โรงเรียนประเมินตนเองตามแพลตฟอร์มไทยสต็อปโควิด (https://stopcovid.anamai.moph.go.th)

แพทย์หญิงพรรณพิมลกล่าวต่อว่า เมื่อเปิดภาคเรียน โรงเรียนจะต้องดำเนินการ 6 แนวทาง ประกอบด้วย
1.การมีมาตรการคัดกรอง เช่น วัดไข้ก่อนเข้าโรงเรียน ผู้ปกครองร่วมให้ประวัติหากมีความเสี่ยง หากเด็กมีอาการไข้ไม่สบายต้องหยุดเรียนทันที และแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่
2.สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในโรงเรียน
3.จัดจุดล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างเพียงพอ
4.การเว้นระยะห่างในห้องเรียน เน้นจัดการเรียนการสอนให้เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ให้มีกิจกรรมทำในกลุ่มเดียวกันตลอดทั้งวัน
5.เน้นการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่างๆ ที่ใช้ร่วมกัน อาทิ สนามเด็กเล่น ลูกบิดประตู ห้องน้ำ ร่วมกับการจัดกลุ่มสลับกันใช้งานเพื่อช่วยลดการสัมผัสร่วมกันจำนวนมาก
6.ลดความแออัด ไม่จัดกิจกรรมที่เกิดการรวมกลุ่มของเด็ก

97548129_4511767005516286_466

"การเปิดเรียนจะต้องขอความร่วมมือผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมกับโรงเรียนในการป้องกันโรค ต้องสื่อสารให้เข้าใจว่า อย่ากังวลใจมากเพราะได้มีการเตรียมมาตรการเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ย้ำเรื่องการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อและโรงเรียนต้องประเมินความเสี่ยงเพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์ทำงานร่วมกับหน่วยงานอนามัยโรงเรียนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดเพื่อการควบคุมโรค" อธิบดีกรมอนามัยกล่าว

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ