จากกรณีวันที่ 27 พ.ค.63 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำ หลังจากออกไปพายเรือเล่น ซึ่งเป็นเรือไฟเบอร์สีน้ำเงิน ที่บริเวณแม่น้ำสะแกกรัง ด้านหลังสำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานี ทราบชื่อนายศักดิ์รินทร์ คำมาก อายุ 17 ปี โดยมูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานีและพนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี ใช้เวลาค้นหานานกว่า 5 ชม. ซึ่งญาติพี่น้องและหน่วยกู้ภัยได้จุดธูปขอให้พบศพนั้น
ล่าสุดวันที่ 28 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ แม่น้ำสะแกกรัง หลังสำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานี ตรงข้ามกับวัดภูมิธรรม ซึ่งบ้านที่ผู้ตายอาศัยอยู่ห่างจากแม่น้ำ 150 เมตร ซึ่งพ่อแม่และญาติของผู้เสียชีวิต ได้มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านด้วย
โดยนางถนอม เกนกสิกร อายุ 77 ปี เจ้าของแพใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า แม่น้ำสะแกกรัง ตรงข้ามหลังวัดภูมิธรรม เมื่อสมัยก่อนจะเรียกว่า "วังกระทะ" เพราะสมัยก่อนชาวมอญที่เดินทางมา แล้วเรือได้ล้มจมน้ำตายกันหลายศพ และยังมีพลายน้ำตัวเขียว หากถูกตัวพลายน้ำก็จะตาย ซึ่งเมื่อนำร่างขึ้นมาร่างกายก็จะเป็นจ้ำ ๆ คนละแวกนี้จะเรียกพลายน้ำฉก ตนอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด แต่ตนก็ไม่เคยลงไปเล่นน้ำ เพราะว่ากลัว ปีนี้ก็มีเหมือนกันมีคนจมน้ำตาย แต่ส่วนมากก็ปิดข่าว เชื่อว่าน่าจะเอาไปเป็นตัวตายตัวแทน ตนพยายามบอกกล่าวไม่ให้ลูกหลานลงไปเล่นน้ำ เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย
ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุการณ์ ตนเห็นว่าผู้เสียชีวิตได้เดินคอตกลงมาที่แม่น้ำ พร้อมกับเพื่อน ๆ ตนมองว่าผู้เสียชีวิตน่าจะไม่เต็มใจลงมา หลังจากเจอศพของผู้เสียชีวิตตอนกลางคืนตนได้ยินเสียงเหมือนคนทุบเรือของตน 2 ที และมีเสียงมาหอน
หลังจากนั้นทีมข่าว เดินทางมาที่วัดอมฤตวารี ต.อุทัยใหม่ อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี เพื่อน ๆของผู้เสียชีวิตที่ลงไปเล่นน้ำด้วยกัน ได้เดินมากราบศพพร้อมน้ำตา
โดยนายบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนและผู้ตายได้ลงไปเล่นน้ำในบ่อน้ำหลังบ้านของผู้ตาย ซึ่งป้าของผู้ตายได้บอกว่าให้ขึ้นมาจากน้ำ เพราะหากน้ำขุ่นปลาจะตาย และบอกว่าให้ไปเล่นน้ำที่แม่น้ำสะแกกรังแทน พวกตนก็ขึ้นมาจากบ่อเลี้ยงปลา ผู้ตายได้ชวนไปเล่นน้ำในแม่น้ำสะแกกรังที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของผู้ตาย และยังเป็นครั้งแรกที่ไปเล่นน้ำที่แม่น้ำสะแกกรัง
โดยผู้ตายได้บอกว่าอยากจะไปไหว้พระ พวกตนก็ได้ตัดสินใจพากันหามเรือพลาสติกสีน้ำเงินไปด้วย ตนคิดว่าเรือน่าจะรับน้ำหนักได้เพียง 2-3 คน แต่พวกตนได้พากันออกไป 5 คน ตนและเพื่อน 2 คนว่ายน้ำเป็น ส่วนผู้ตายไว้น้ำเป็น แต่ก็ยังไม่แข็งแรง และเพื่อนอีกคนว่ายน้ำไม่เป็น
เมื่อพวกตนพายเรือไปถึงกลางแม่น้ำ ใกล้ถึงองค์พระ เพื่อนที่ว่ายน้ำไม่เป็น ได้บอกว่า "กลับกันดีไหม เพราะมาไกลแล้ว อีกอย่างว่ายน้ำก็ไม่เป็น" พวกตนก็ได้ตกลงว่าจะกลับเข้าฝั่ง แต่พอหันหัวเรือกลับ เรือได้จมลง ตนและเพื่อน 1 คนรีบว่ายน้ำกลับมาที่ฝั่ง เพื่อจะหาขวดน้ำไปให้เพื่อนที่ติดอยู่กลางน้ำ ส่วนผู้ตายได้ช่วยเพื่อนที่ว่ายน้ำไม่เป็น และเพื่อนอีกคนก็ได้ช่วยหิ้วไว้ เพื่อนที่ว่ายน้ำไม่เป็นได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ จุดทีเรือจมนั้นลึกประมาณ 6 เมตร แต่โชคดีที่มีคนพายเรือออกไปช่วยเพื่อนทั้ง 2 ไว้ แต่ไม่สามารถช่วยผู้ตายไว้ได้
ทั้งนี้ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้จักกับผู้ตายได้ 1 ปีแล้ว ผู้ตายเป็นคนรักเพื่อน เรียนหนังสือเก่ง แต่เมื่อวานนี้เหมือนจะมีอะไรมาดลจิตดลใจให้ไปเล่นน้ำที่จุดเกิดเหตุ ผู้ตายไม่ได้พูดอะไรที่เป็นลางบอกเหตุ โดยผู้ตายไม่ได้สวมกางเกงยีนลงไปเล่นน้ำ สวมใส่บ๊อกเซอร์ เสื้อกีฬาสีน้ำเงิน แต่มีเพื่อนคนหนึ่งที่ได้สวมใส่กางเกงขายาวลงไป แต่โชคดีที่เพื่อนว่ายน้ำได้ ในวันฌาปนกิจศพ ตนและเพื่อนอีก 3 คน จะขอบวชหน้าไฟให้แก่ผู้ตาย และขอบวชต่อเป็นเวลา 7 วัน และเมื่อคืนที่ผ่านมาเพื่อน ๆ และตนที่ไปเล่นน้ำด้วยกัน ไม่ได้ฝันถึงผู้ตาย
นอกจากนี้พ่อของผู้ตาย หลังจากที่ทราบว่าลูกชายได้จมน้ำหายไป เวลาประมาณ 21.00 น. ทางบ้านและทางครอบครัวนับถือพ่อปู่องค์หนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีการรับขันธ์ แต่หากมีเรื่องจำเป็นพ่อปู่จะมาเข้าจะประทับร่าง โดยบอกว่ามีคนจะเอาชีวิตของผู้ตายไป จะต้องจุดธูปและบูชาเครื่องเซ่น หลังจากนั้นก่อนจะเจอศพผู้ตาย พ่อปู่บอกว่าวิญญาณของผู้ตายได้เดินขึ้นมาจากน้ำแล้ว ผ่านไปประมาณ 10-20 นาที ก็เจอศพของผู้ตาย