เหยื่อ 2 เกย์แสบถูกลวงยั่วสวาทหวังตบทรัพย์ อึ้งคดีอื้อ - เหยื่ออีกรายถูกทุบหัวโคม่า (คลิป)

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายประวิทย์ รื่นนุสาร หรือ "เอ๊" อายุ 33 ปี และ นายนิวัฒน์ โพธิ์แก้ว อายุ 37 ปี หรือ "ต๋อง" 2 ผู้ต้องตามหาจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ร่วมกันชิงทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ จนมีผู้เสียหายจำนวนมาก

ล่าสุด วันนี้ (21 พ.ย.60) นายอรรถนนท์ นนทะพจน์ 1 ในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ขณะที่ตนเองกำลังยืนส่งเพื่อนขึ้นรถแท็กซี่ บริเวณตรงข้ามสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านแยกคอกวัว หลังจากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คน ได้ข้ามถนนจากบริเวณด้านหน้าสถานบันเทิง มาหาตน ก่อนที่นายประวิทย์ จะเข้ามาขอเบอร์โทรศัพท์ ทำทีต้องการจะสานสัมพันธ์ โดยมีนายนิวัฒน์ ยืนรออยู่ไม่ห่างนัก

นายอรรถนนท์ จึงให้เบอร์โทรศัพท์ไป เนื่องจากผู้ต้องหาหน้าตาดี ไม่นานนัก นายประวิทย์ ได้โทรศัพท์มาหาตน อุบายหลอกให้ตนไปดื่มเหล้าต่อที่ห้องพักว่า “จะกลับบ้านหรือยัง ไปกินต่อที่บ้านผมไหม” ด้วยความที่ตนไม่คิดอะไร จึงตอบตกลงไป และเดินข้ามฝั่งไปหา นายประวิทย์ และ นายนิวัฒน์

จากนั้น นายประวิทย์ บอกให้นั่งรถแท็กซี่ไปกับเขาเพียงลำพัง โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่สายใต้เก่า โดยนายนิวัฒน์ บอกว่าจะต้องไปรับแฟน เมื่อถึงจุดหมาย ตนและ นายประวิทย์ ได้ลงจากรถแท็กซี่ จังหวะนั้นได้พบกับผู้หญิงเร่ร่อนข้างทาง นายประวิทย์ ผู้ต้องหา จึงทำการหลอกล่อเบี่ยงเบนให้ตนไปสนใจผู้หญิงเร่รอน บอกให้เอาเงินมา 20 บาท เพื่อให้เงินแก่หญิงเร่รอนคนดังกล่าว แต่ตนปฏิเสธเนื่องจากเงินหมด

ขณะเดียวกัน นายประวิทย์ ได้บอกตนว่า ขอยืมโทรศัพท์ไอโฟน เพื่อโทรศัพท์ไปสอบถาม นายนิวัฒน์ ว่าถึงที่พักหรือยัง ตนจึงตัดสินใจกดเบอร์โทรศัพท์ตามที่ นายประวิทย์บอก เมื่อมีคนรับสาย จึงยื่นโทรศัพท์ให้ ทันทีที่นายประวิทย์ รับโทรศัพท์ไปก็มีทีท่าว่าจะเดินหนี แต่ตนได้ใช้มือเกาะแขนนายประวิทย์ เอาไว้ตลอด เนื่องจากกลัวว่า นายประวิทย์ จะหลบหนี ทันใดนั้น นายนิวัฒน์ ได้ขับรถยนต์มาด้านข้าง ซึ่งเป็นจังหวะที่ นายประวิทย์ สะบัดมือของตนที่เกาะแขนออก ก่อนที่ นายประวิทย์ จะรีบขึ้นรถยนต์ และหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ นายอรรถนนท์ ผู้เสียหาย ยังเปิดเผยอีกว่า ตนโชคดีมากที่ไม่ถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมยืนยันรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้