จากกรณี วันที่ 24 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ191 จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่41/16 ม.2 ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ชื่อนางภาวิณี ปองจีน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. เข้าลำตัว 3 นัด และกระสุนปืนทะลุหลัง 2 นัด อาการสาหัส
ส่วนผู้ก่อเหตุคือดต.ธรณ์ธันย์ ตันผัด สามีคนเจ็บ เป็นตำรวจตำแหน่งผบ.หมู่งานป้องกัน(ป.) สภ.เด่นเหล็ก อ.น้ำปาด ยืนรอมอบตัวอยู่ที่หน่วยบริการประชาชนห้วยมุ่น และมีบาดแผลถูกกระสุนปืนยิงที่แขนซ้าย โดยถูกนายสมบูญ ปองจีน พ่อตายิงสวนด้วยปืนลูกซอง ขณะกำลังจะหลบหนี
ล่าสุดวันที่ 25 มิ.ย.63 นายสมบูญ ปองจีน พ่อผู้บาดเจ็บฝ่ายหญิง บอกว่า หลังกับจากทำไร่เมื่อถึงบ้านเห็นสองผัวเมียทะเลาะกันเสียงดัง แต่ไม่ได้ใส่ใจเพราะทั้งคู่ทะกันบ่อยมาก โดยวันเกิดเหตุมือปืนขอเงินภรรยา 100 บาท แต่ภรรยาไม่ให้ ตนได้ยินจึงนำเงินออกมาให้ 300 บาท แต่มือปืนไม่เอา ตนจึงหันเข้าห้องไป จู่ ๆ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด เห็นลูกเขยยิงบุตรสาวลงไปนอนจมกองเลือดที่โต๊ะกินข้าว จึงร้องเรียกให้ชาวบ้านใกล้ ๆ มาช่วย
ส่วนมือปืนหลังจากยิงแล้วก็ไม่ใส่ใจหรือช่วยภรรยาที่บาดเจ็บ และพยายามคว้ารถจักรยานยนต์ขี่ออกจากบ้านไป จึงไปหยิบปืนลูกซองยาวในบ้านออกมายิงใส่ 1 นัด ขณะที่มือปืนขี่รถออกไปได้ประมาณ 10 เมตร กระสูนปืนถูกแขนซ้าย สาเหตุเพราะเรื่องการเงินของลูกเขยไม่พอใช้จ่าย เนื่องจากภรรยาเก่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว
นางสายใจ ปองจีน อายุ 58 ปี แม่ผู้บาดเจ็บฝ่ายหญิง บอกว่า สาเหตุที่ทะเลาะกันมาจาก ลูกเขยนั่งกินข้าวอยู่ และพูดขอยืมเงินภรรยา 100 บาท จะเอาไปทำบุญแต่ลูกสาว ไม่มีแบงค์ร้อย ทั้งนี้ พ่อตายื่นเงินให้ 300 บาท แต่ก็ยังไปหยิบปืนมายิงภรรยาตัวเอง ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ และจะไม่ให้อภัยลูกเขย เพราะหวังฆ่าลูกสาวให้ตาย
สำหรับลูกเขยคนนี้แต่งงานและมาอาศัยอยู่บ้านตน 4 ปี และเคยมีครอบครัวมาแล้ว ก่อนมาแต่งกับลูกสาวของตน โดยมีปัญหาหนี้สินตามมา ที่ผ่านมาลูกเขยเป็นคนไม่ฟังใคร และไม่ค่อยจะอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่มีสัมมาคารวะ แต่ตนก็รักและเอ็นดูลูกเขยเหมือนลูกแท้ ๆ และเมื่อ3 ปี ก่อน ตอนนั้นลูกสาวตนกำลังท้องลูกของลูกเขยได้ 5 เดือน หลังจากทะเลาะกันก็ถูกลูกเขยขู่จะฆ่าล้างโคตร ทั้งนี้ มองว่าทำเกินไปเพราะเป็นถึงตำรวจ แต่กลับทำเรื่องแบบนี้
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้ภาพแชตจากเฟซบุ๊ก เป็นบทสนทนา ระหว่าง ด.ต.ธรณ์ธันย์ กับน้าของนางภาวณี ที่อยู่ต่างประเทศ โดยมีใจความเชิงสารภาพกับความผิดที่ทำลงไป และสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำ โดยบอกว่าที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ โดยมีการขอเงินจากภรรยาไปทำบุญ แต่ไม่ให้ ประกอบกับมีปัญหาเรื่องภรรยาชอบด่าทอมาระยะหนึ่ง และภรรยาเริ่มทำตัวห่างเหิน และอ้างว่าภรรยาขอหย่า นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังถามไถ่อาการภรรยาว่าเป็นอย่างไรบ้าง และอยากไปกราบขอโทษภรรยาเป็นครั้งสุดท้ายอีกด้วย