ลุงประวิทย์รับขัดแย้งญาติชมพู่ไม่อาฆาตฆ่าเด็ก แจงโผล่เผาหวยหน้าบ้านพยานไม่ขู่ (คลิป)

4 ก.ค. 63

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบกับ นางสมควร หลาบโพธิ์ ยายน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนเห็นคนมาเผากระดาษแถวหน้าบ้านของ นางแตงโม (นามสมมติ) ซึ่งเป็นคนเห็นรถแบ็กโฮอยู่หน้าบ้านน้าจุไรภรณ์ หลังจากชมพู่หายไปแล้ว โดยระบุว่า วานนี้ประมาณ 17.00 น. ตนเห็นชาวบ้านคนหนึ่งมาที่บ้านของนางแตงโม (นามสมมติ) โดยถอยรถกระบะส่วนตัวเข้าไปในซอย โดยขณะนั้นตนยืนอยู่หลังบ้าน ก็เห็นชาวบ้านคนดังกล่าวยืนอยู่ แล้วก็มีกระดาษขนาดเท่าฝ่ามือ จากนั้นก็จุดไฟเผาก่อนโยนทิ้งลงกับพื้นดิน และใช้ไม้เล็ก ๆ ทับอีกที ตนก็ยืนดูตลอด

195207

ส่วนตัวไม่ทราบว่าชาวบ้านรายนี้คุยอะไรกับนางแตงโม แต่เห็นว่า 2 คนคุยกัน ตอนนั้นก็มีเสียงหมาเห่าด้วย ชายรายนั้นน่าจะเข้ามาเอาสุนัขที่บ้านของนางแตงโมไปด้วย

568853

ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องจดหมายขู่ ตนมาทราบช่วงค่ำแล้ว จึงมานึกย้อนไปอาจจะเกี่ยวกับเรื่องชาวบ้านมาเผากระดาษ ตนจึงนึกว่าอาจจะเป็นชายคนนี้หรือไม่ที่เผา ถึงแม้นางแตงโม จะระบุว่า เป็นคนเผาเอง ทั้งนี้ตนยอมรับว่าแปลก ปกติชายรายนี้จะไม่เข้ามาที่ซอย ซึ่งเขาก็ไม่ใช่ญาติกัน ส่วนตัวคิดว่าหากเจอกระดาษจริง ก็น่าจะนำส่งตำรวจ เนื่องจากน่าจะมีประโยชน์ มันมีลายมือ หากเป็นคนร้ายก็น่าจะพอมีเบาะแส

นอกจากนี้เรื่องรถแบ็กโฮ ตนไม่เห็นเลยในวันที่ 11 พ.ค.63 เคยเห็นแต่ก่อนหน้านี้จนเกิดเรื่อง รวมทั้งไม่เห็นมีใครถือรถแบ็กโฮของเล่นออกไป

นางสมควร ยังพาทีมข่าวเดินไปดูจุดที่เผา และชี้จุดว่าตนยืนอยู่หลังบ้าน โดยจุดที่มีการเผา คือ ถนนหน้าบ้านของนางแตงโม ยังพบร่องรอยการเผาอยู่ ซึ่งพบว่ายังมีกลิ่นเขม่าที่เพิ่งยังใหม่ ๆ ยังคงเหลือชิ้นส่วนกระดาษที่เป็นกระดาษของสลากกินแบ่งรัฐบาล

936207

ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นายประวิทย์ วะไลใจ ชาวบ้านที่ถูกระบุว่าขับรถกระบะมาที่บ้านนางแตงโม เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าเดินทางไปจริง โดยเมื่อมาถึงก็ถอยรถกระบะเข้าไปในซอยบ้านชมพู่ โดยจอดแค่บ้านของนางแตงโม ตอนที่ตนเข้าไปก็เจอว่ามีคนสัมภาษณ์นางแตงโมอยู่

899704

ตอนนั้นตนตั้งใจไปเอาหมา ซึ่งตนเคยให้บ้านของนางแตงโมไปเลี้ยง แต่สามีนางแตงโมเพิ่งเสียชีวิต ตนเคยสอบถามว่าจะเลี้ยงหมาต่อหรือไหม ซึ่งนางแตงโมก็ระบุว่าให้ไปรับคืน เพราะกลัวว่าจะดูแลไม่ดี แล้วถูกรถชน ตนจึงเข้าไปเพื่อซื้อคืน ตนก็จ่ายไป 500 บาท เป็นค่าเลี้ยงดู จากนั้นตนก็จับหมาชื่อ น้อย เพศเมีย อายุ 10 เดือน ขึ้นท้ายรถ

272282687895279478

ส่วนเรื่องการเผากระดาษ ตนยอมรับว่าเผาจริง โดยกระดาษดังกล่าวเป็นกระดาษลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล ปกติหากตนไม่ทิ้งถังขยะ ตนก็จะเผาทิ้งแบบนี้ ตอนนั้นก็เผาเลย ไม่ได้คิดอะไรและจำไม่ได้ว่ากี่ใบ ส่วนตัวตอนนั้นยังไม่ทราบว่ามีข่าวเรื่องจดหมายข่มขู่มาถึงนางแตงโม ตนเพิ่งมาทราบตอนเป็นข่าวเท่านั้น หลังจากนั้นเมื่อนักข่าวกลับแล้ว ตนก็คุยกับนางแตงโมเรื่องหมา ซึ่งนางแตงโมก็ไม่ได้เห็นว่าตนเผาอะไร ตนไม่คิดว่าจะมีประเด็นอะไร

487530125039760921486305

อย่างไรก็ตามในวันที่ 11 พ.ค.63 ตนออกจากบ้านตั้งแต่ 08.00 น. เพื่อไปซื้อของที่จ.สกลนคร จากนั้นก็กลับเข้ามาบ้าน ตนไม่แน่ใจช่วงเวลาไหน คาดว่าอาจจะเที่ยงวัน ซึ่งตนได้ยินผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสาย ตนจึงขับรถไปที่บ้านผู้ใหญ่เพื่อสอบถาม เนื่องจากปกติผู้ใหญ่จะประกาศแค่เช้า เย็น เท่านั้น เมื่อตนไปสอบถามก็ทราบว่าน้องชมพู่หายตตัวไป ตนไม่ได้ไปค้นหา อะไร ตนก็ขับรถไปทำธุระเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เข้าบ้านน้องชมพู่ ไม่ได้เห็นใครถือรถแบ็กโฮ

584891

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบกับ นายประวิทย์ วะไลใจ ชาวบ้าน ซึ่งเคยมีปัญหากับตาน้องชมพู่ ไม่ได้มีปัญหากับคนอื่นในครอบครัว เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าเคยมีปัญหากับนายชาญ หลาบโพธิ์ ตาของชมพู่ แต่ตนไม่เคยมีปัญหากับครอบครัวน้องชมพู่ รวมถึงพี่น้องคนอื่น ๆ ตนเจอกันยังทักทาย คุยกันได้ ส่วนนายชาญ ก็ต่างคนต่างอยู่เท่านั้น

โดยเหตุกาณณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นสมัยตาน้องชมพู่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ตนเห็นมีการรวมกลุ่มร้องขับไล่ ซึ่งก็มีการยื่นเอกสารร้องตามขั้นตอนของกฎหมาย คดีก็ไปจบตามกฎหมาน มีการลงประชามติกัน หลังจากนั้นเรื่องก็จบ ปัญหานี้มันเกือบ 30 ปีแล้ว ส่วนกระแสข่าวว่าตนไปเอาอาวุธปืนไปขู่ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่ได้มีญาติที่ไหน ฝ่ายตนจะไปก่อเหตุได้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาทั้งตน และนายชาญ ก็ไม่เคยมีการใช้อาวุธขู่กัน ปัญหาครั้งนั้นก็เป็นเพียวครั้งเดียว ไม่มีปัญหาอื่น ๆ อีก ตนเองยังเคยไปเจอนายอนามัย บนภูผาแอก เมื่อ 1-2 ปี ซึ่งไปหาของป่า แล้วเจอกันอยู่ ซึ่งตนยังเคยแบ่งปันสิ่งของใช้ในป่าร่วมกัน ดังนั้นจะไปมีปัญหาได้อย่างไร

ตนยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่มีทางที่ตนจะเอามาลงกับคนรุ่นหลานที่เพิ่งเกิด หากจะก่อเหตุ ก่อกับคู่กรณีเลยจะดีกว่า และเรื่องนี้ก็ไม่เคยมีการขู่กัน หรือจะเอาชีวิตซึ่งกันและกัน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส