จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ล่าสุดมีชาวบ้านในหมู่บ้านให้ข้อมูลว่าเห็นรถแบ็กโฮของเล่นอยู่ที่กองทรายหน้าบ้านน้องชมพู่วันที่หายตัวไป ก่อนจะพบเป็นหลักฐานบนเขาที่พบศพนั้น
วันที่ 4 ก.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร พบกับ นางชะอม (นามสมมติ) คนที่เห็นรถแบ็กโฮของเล่น ในวันที่ 11 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่น้องชมพู่หายไป
โดยนางชะอม เปิดเผยว่า ในวันที่ตนไปเห็นรถแบ็กโฮนั้น เป็นช่วงที่มีคนเริ่มไปหาน้องชมพู่ก่อนแล้ว และคนค่อนข้างพลุกพล่านมากแล้ว จึงเป็นไปได้ว่าคนที่ไปเดินค้นหาก่อนอาจจะบังเอิญไปเตะรถของเล่น จนรถเปลี่ยนจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง และตั้งอยู่ในสภาพที่ตักของรถแบ็กโฮหัวปักดิน ส่วนนางแตงโมที่เขาเห็นรถตั้งอยู่อีกจุดนั้น ตนคาดว่าเขาน่าจะเข้าไปค้นหาในช่วงที่ยังไม่มีคนเดินเข้าไปเยอะ เนื่องจากบ้านของนางแตงโมอยู่ใกล้บ้านของน้องชมพู่ เพราะกว่าตนจะเดินเข้าไปในซอยบ้านของน้องชมพู่ น้องชมพู่ก็หายไปเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่คนออกมาเดินเยอะแล้ว
โดยบริเวณเปลที่น้องชมพู่หายไปก็มีคนเข้าไปนั่งและนอนเล่นแล้ว และตั้งข้อสังเกตว่าสุนัขที่บริเวณนั้นอาจจะคาบก็เป็นไปได้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้รถของเล่นเคลื่อนที่ อย่างไรก็ตาม การที่ตนออกมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่นั้น ตนก็พูดด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้ปรักปรำใคร เพราะตนก็สงสารครอบครัวของน้องชมพู่
ด้านนางแตงโม (นามสมมติ) ผู้พบรถของเล่น ยืนยันคำเดิมว่าตนเห็นรถแบ็กโฮจริง และมีจดหมายมาข่มขู่ตนเองจริง สำหรับจดหมายข่มขู่ฉบับดังกล่าว ถูกขวดน้ำดื่มขนาดเล็กมีน้ำอยู่ในขวดเกินครึ่งขวดวางทับไว้ ซึ่งเป็นขวดน้ำที่ตนดื่มเหลืออยู่ที่แคร่หน้าบ้าน ตนก็คิดว่าคนร้ายคงจงใจเอาขวดน้ำมาทับจดหมายไว้
สำหรับกรณีที่ตนเองไปชี้จุดเจอรถแบ็กโฮกับนางชะอม แล้วปรากฏว่าเป็นคนละจุดนั้น ตนคาดว่าหลุมดินที่ตนเจอรถอาจมีน้ำกระโชก หรือมีคนไปเคลื่อนย้าย จึงทำให้นางชะอมเห็นรถคนละจุดกับตน อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่เคยคิดว่าผู้ชายที่มาพูดกับตนที่บริเวณรถพุ่มพวงขายผักนั้น จะมาข่มขู่หรือก่อเหตุร้ายกับตนแต่อย่างใด แต่นางแตงโมเข้าใจว่าที่ชายรายนี้ เขาอาจจะอยากมาเตือนให้ตนระวังตัว เพราะเขาอยู่บ้านใกล้น้องชมพู่ เขาอาจจะไปได้ยินข้อมูลอะไรบางอย่างมา เขาถึงมาเตือนตน เพราะเขาหวังดี
นายโชติช่วง สุขะพันธ์ ชายที่ถูกอ้างจากนางแตงโม (นามสมมติ) ที่ระบุว่าเจอชาวบ้านเป็นชายที่เข้ามาเตือนเรื่องออกมาให้ข้อมูลสื่อ และมีคำพูดคล้ายกับจดหมายน้อยขมขู่ที่ เปิดเผยว่า ตนเองเคยพูดกับนางแตงโมเกี่ยวกับการเตือนเรื่องให้ข่าวจริง แต่ไม่ใช่วันที่ 1 ก.ค. ซึ่งตนจำวันไม่ได้ แต่เป็นช่วงก่อนเป็นข่าวเรื่องรถแบ็กโฮที่อยู่หน้าบ้านชมพู่
ตนเองเคยพูดกับนางแตงโมเกี่ยวกับเรื่องนายนริน ซึ่งตนเองเห็นนางแตงโมออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับคดีนริน ตนจึงไปบอกว่าเรื่องนี้ให้ระวัง มันจะเดือดร้อน เพราะคดีนี้ศาลออกหมายจับและพี่ชายของนรินเป็นคนแจ้งความเอง และตนไม่เคยเตือนอะไรอีก เป็นครั้งเดียวที่ตนได้คุย ยืนยันไม่เคยพูดเรื่องรถแบ็กโฮกับนางแตงโม ตนเองมองว่าเมื่อนางแตงโมถูกจดหมายมาข่มขู่ ทำไมถึงเผาทิ้ง ควรที่จะต้องเอาไปให้ตำรวจ เพราะจะได้รู้ว่ามีลายนิ้วมือคนร้ายติดมาไหม เพราะหากเผาไป คนอาจมองได้ว่ากุเรื่องขึ้นมาเอง
โดยวันค้นหาชมพู่ ตนเองออกไปค้นหาหลังจากนวดเสร็จช่วง 11.00 น. ตอนนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์ไปทางบ้านนางจำลอง จอดรถที่แถวนั้น และไปที่บ้านชมพู่ ซึ่งก็เจอแม่ชมพู่ ตนจึงสอบถามว่าชมพู่ไม่ได้ไปกับญาติหรือ จากนั้นตนก็สอบถามสะดิ้งว่าจุดสุดท้ายของชมพู่ที่นั่งเล่นอยู่ตรงไหน สะดิ้งก็พาตนไปดูตรงหลุม เห็นแต่รอยเท้าหมา รอยเท้าน้องชมพู่ในหลุม ยืนยันไม่เห็นแบ็กโฮ และยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่เห็นหลุมว่าไม่มีรถของเล่น
ด้านนายกล้า (นามสมมติ) ลูกชายคนเล็กของนางแตงโม เปิดวีว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. วันที่แม่ของตนถูกจดหมายข่มขู่ก็ไม่เล่าข้อมูลให้ตนฟัง แม่ของตนยังมีสีหน้าที่ปกติทั้งวัน ไม่ได้แสดงสีหน้าเครียด กระทั่งตนเองมารู้ว่าแม่ถูกจดหมายข่มขู่ แม่ก็บอกว่าเขาเห็นรถแบ็กโฮจริง รวมถึงมีคนเขียนจดหมายมาข่มขู่จริง ตอนที่แม่เล่าให้ตนฟังนั้น เขาก็ดูกังวลและเครียด ทั้งนี้ แม่ของตนเองไม่เคยมีศรัตรูมาก่อน ตนคิดว่าที่แม่มาให้ข้อมูลกับนักข่าวอาจทำให้คนร้ายไม่พอใจแล้วมาข่มขู่ ที่สำคัญแม่ของตนไม่เคยมีพฤติกรรมพูดโกหก
อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณช่วงแรกที่น้องชมพู่หายตัวไป วันที่ 11-14 พ.ค. 63 แม่ก็เคยพูดคุยเรื่องนี้กับตนว่าเขาเห็นรถแบ็กโฮที่บ้านน้องชมพู่ และแม่ก็ยังรู้สึกงงเลยว่าทำไมรถแบ็กโฮถึงไปโผล่บนเขาภูเหล็กไฟได้
จากการสังเกตขวดน้ำที่บริเวณบ้านป้าแตงโมมี 3 จุด จุดแรกเป็นบริเวณกระสอบหน้าบ้าน มีขวดน้ำขวดเครื่องดื่มชูกำลังถูกบรรจุไว้ในกระสอบจนเต็ม และมีขวดเปล่าวางไว้ใกล้กับกระสอบ 1 ขวด อยู่ในสภาพดี ใกล้เคียงกับขวดที่นางแตงโมให้ข้อมูล
ส่วนจุดที่ 2 เป็นบริเวณถังขยะหน้าบ้าน มีขวดน้ำดื่ม ขวดน้ำอัดลม กองในถังขยะรวมกับขยะชนิดอื่น ๆ และจุดที่ 3 บริเวณข้างบ้างมีขวดพลาสติกขนาดเล็กสภาพเก่าเปรอะดิน วางอยู่ประมาณ 5 ขวด และมีขวดพลาสติกขนาดเล็กสภาพใหม่วางข้างกันอีก 1 ขวด ส่วนที่บริเวณแคร่หน้าบ้านไม่มีขวดน้ำ
