"เอ๋ เชิญยิ้ม" เล่าชีวิตวันที่เคยไม่มีเงิน ไม่มีงาน พร้อมเคลียร์ประเด็นดราม่าหากินกับผี

ยืดอกยอมรับแบบแมนๆ เลยว่าเคยเยอะ เลือกรับงาน หยิ่ง ไม่สนหน้าใคร สำหรับ "เอ๋ เชิญยิ้ม" ที่ได้มาเปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ว่าครั้งหนึ่งเคยลืมตัว จนเมื่อชีวิตถึงจุดตกที่สุด ไม่มีเงิน ไม่มีงาน จึงทำให้รู้สึกตัวว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน เจ้าตัวเลยหันหน้าพึ่งธรรมะจนเข้าใจชีวิต และตั้งใจเปิดเพจ สัปเหร่อเจอผี ขึ้นเพื่อแฝงคำสอนดีๆ ให้ทุกคนที่เข้ามาชมได้รับ แต่มิวายเกิดดราม่าหากินกับผี งานนี้เจ้าตัวเลยขอเคลียร์ประเด็นนี้ให้ฟังกันชัดๆ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "หมอช้าง ทศพร" เปิดดวง 12 ราศี ครึ่งปีหลัง 2563
- "หญิง ธิติกานต์" ยอมรับสวยเพราะเข็มหมอ เก็บเงินเตรียมทำหน้าใหม่!
- "ป๊อป อารียา" เผยหวิดเป็นโรคซึมเศร้า แต่ได้โยคะช่วยชีวิต
- "กัปตันกิ๊ฟ" ยอมรับฝืนใจ ประกาศอำลาทีมชาติปีหน้า เตรียมตัวมีลูก
- "จิ้งหรีดขาว" เม้าท์เผาขน! "กุ้ง สุธิราช" เป็นพระเอกลิเกเจ้าชู้เงียบ

เอ๋ เชิญยิ้ม : เมื่อก่อนไม่เคยคิดถึงเรื่องธรรมะเลย เพราะว่าชีวิตเราขึ้นอยู่กับคาเฟ่ แสง สี เสียง เราใช้ชีวิตอยู่ในช่วงกลางคืนตลอด แล้วละครของเรา รายได้ประมาณหนึ่งที่อยู่ได้ ตอนนี้ผมเชื่อคำหนึ่ง ขึ้นอย่าหลง ลงอย่าท้อ เราเริ่มหยิ่ง มองไม่เห็นหน้าใคร พองานไม่ได้เรทที่ต้องการ เขาให้เรท 15 นาที เจ็ดพันบาท ไม่เอา ตอนนั้นเราคิดผิด คิดว่างานนี้มั่นคงสำหรับเรา พอเราดัง เราง้อใคร ไม่เห็นหัวใคร หมิ่นเงินน้อย บางทีไปสาย ไม่สนใจคนอื่น

เอ๋ เชิญยิ้ม : พอวันหนึ่งเราตก ต้องมาขายน้ำส้มตามงานวัด 

เอ๋ เชิญยิ้ม : ตอนที่ผมซื้อบ้านใหม่ๆ มีอาจารย์มาทัก เขาบอกว่าเดี๋ยวไม่นานเอ๋จะร่วงนะ เพราะเจ้ากรรมนายเวรเขาหาเจอแล้ว ตอนนั้นก็ไม่ค่อยเชื่อ อาจารย์เขายังบอกต่ออีกว่า ต้องอดทนนะ แล้วลูกทำอะไรผิดเองต้องให้อภัยลูกนะ เราก็คิดว่าลูกเราเป็นผู้ชาย จะติดคุก ติดยาหรือเปล่า ทำให้เราเสียใจ อาจารย์เขาก็บอกอีกว่า เอ๋จะมีเทพจีนช่วยเหลือ จะได้ดีเพราะดวงวิญญาณนะ ตอนนั้นผมขำเลย

ผมยังบอกอาจารย์เลยว่า อาจารย์ผมไม่ใช่ปอบนะ ผมเป็นตลก ผมไม่เกี่ยวอะไรกับผีเลย พอผ่านไป 1 ปี  ทุกอย่างค่อยๆ เกิด ผ่านใน 1 เดือน ผมไม่มีงานเลย แต่ผมคิดว่าเรามีเงินเก็บอยู่ ผมก็ยังปลอบใจตัวเอง เป็นดาราเดี๋ยวก็มีงานเข้ามา แต่ไม่มีช่องไหนติดต่อมาเลย ผมโทรไปของานเขา เขาก็ไม่รับโทรศัพท์ผม เงินก็เริ่มที่จะไม่มีแล้ว ผมให้ภรรยาทำนมเหนียวหนึบขายก็เจ๊ง ผมรับน้ำส้มมาขายขวดละ 15 บาท ผมก็เอามาขาย 35 บาท แล้วเอามาติดสติ๊กเกอร์ตัวเอง ช่วงนั้นผมได้ที่หน้าวัด ก็เอาไปตั้งขาย ขายดีเลยครับ จากที่ผมอายเพราะมีคนมาถามว่าเดี๋ยวนี้ไม่เห็นออกทีวีเลย มานั่งขายน้ำส้มแล้วเหรอ ตอนนั้นคิดว่าเรามองที่ลูกเรา อายก็ไม่สนใจ


ถาม รายได้ตอนนั้น เพียงพอกับรายจ่ายไหม เพราะเพิ่งซื้อบ้าน

เอ๋ เชิญยิ้ม : ผมเริ่มประนอมหนี้ จากส่งบ้านเดือนละ 27,000 บาท เหลือเดือนละ 6,000 บาท รถที่เคยส่งเดือนละ 18,000 บาท ก็รีไฟแนนซ์ใหม่ เหลือเดือนละ 5,900 บาท ไม่มีเงินจ่ายเขา ผมได้เงินเดือน 8,000 บาทต่อเดือน ตอนนั้นผมทำสัปเหร่อ เดอะ ซีรีส์ด้วย ทำให้ทุกคนได้ดูเลยครับ ว่าคนเราเมื่อตก ตกถึงขนาดไหน มีอยู่ครั้งหนึ่งผมไม่มีเงินเลย แต่ผมมีโทรศัพท์ ผมเอาไปขายได้เงินมาแค่ 1,500 บาท ตอนนั้นผมตกงานอยู่ 1 ปี ภรรยาผมบอกว่ากลับไปอยู่ต่างจังหวัดด้วยกันไหม แต่เราคิดว่าอยากให้เขากลับไปอยู่กับพ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัดก่อน

ถาม ตรงนี้ใช่ไหม ทำให้เราเห็นธรรมะ เลยอยากให้ทำรายการธรรมะ

เอ๋ เชิญยิ้ม : ช่วงนั้นผมนั่งฟังท่าน ว.วชิรเมธี บ่อย ฟังสัจธรรมของชีวิตคนเรา เมื่อสุดจริงๆ ความอดทนจะเกิดขึ้น เราจะเห็นอะไรหลายๆ อย่าง เริ่มมอง เริ่มฟังเรื่อยๆ เรานับถือพ่อแก่ ไปไหว้ท่านแล้วบอกกับท่านว่าผมรู้แล้ว ต่อไปผมจะไม่หมิ่นเงินน้อย ขอให้มีงานอะไรก็ได้ จากที่ผมไปไหว้พ่อแก่วันนั้น จากนั้นสองวัน มีงานติดต่อเข้ามาเลย พี่เอ๋ว่างไหมมาเล่นเรื่องนี้หน่อย เราคิดว่าคงได้เล่นรับเชิญตอนสองตอน เราก็อยู่ได้ เขาบอกว่าไม่นะ มาเล่นประจำ พอเขาบอกว่ามาเล่นประจำ ผมนี่หยุดนิ่งเลย แล้วเขาก็ถามว่าพี่เอ๋ เอาค่าตัวเท่าไหร่ ตอนนั้นผมบอกเลยเท่าไหร่ก็ได้ ไม่เกี่ยงแล้ว เป็นงานแรกที่ผมรับแล้วพอผมวางโทรศัพท์ ผมกอดเมียร้องไห้เลย


ถาม นั่นคือจุดเริ่มต้นของการตั้งใจเอาธรรมะมาเผยแพร่

เอ๋ เชิญยิ้ม : ใช่ครับ เราไม่ได้เอามาจากหนังสือเล่มไหน เราเอามาจากชีวิตตัวเอง มาบอกมาเล่าล้วนๆ เพราะเราตื่นขึ้นมาแล้วเราดูเฟสบุ๊ค ทำไมเราคิ้วขมวด เจอข่าวตีพ่อแม่ ดูดยาโชว์ วัยรุ่นตีกันลงโซเชี่ยล เรื่องร้ายๆ แย่ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก เราอยากสะท้อนในฐานะที่เราเป็นตลกคนหนึ่ง ในเฟสบุ๊คเราก็มีคนติดตามเป็นล้านๆ เราเอาธรรมะมาสอน ดีกว่าตลกๆ ไปวันๆ


ถาม แล้วจากธรรมะ มารายการผีได้อย่างไร

เอ๋ เชิญยิ้ม : เพจ สัปเหร่อเจอผี ผมได้ทำร่วมกับพี่เปิ้ล เขาเป็นสปอนเซอร์เจ้าแรกของผม เพราะช่วงแรกที่ผมทำ เราต้องออกเงินค่าถ่ายรายการเอง จนภรรยาบอกว่าพอเถอะ แต่ผมคิดว่า การที่เราทำแล้วมีคนดูเยอะๆ สักวันสปอนเซอร์จะเข้า แล้วเปิ้ลก็เข้ามา

เปิ้ล : ผมทำบริษัทขายปุ๋ย ยา อาหารเสริมพืช เกี่ยวกับการเกษตร อยากจะโปรโมทบริษัท บอกพี่เอ๋ว่าไม่ต้องเอ่ยชื่อนะ เพราะชื่อบริษัทมันอ่านยาก เราต้องการแค่โลโก้ไปติดไว้ในรายการก็พอ พี่เอ๋แกก็แปลกใจ ผมขอเขาไปดูที่เขาถ่ายรายการด้วย ผมเป็นคนไม่เชื่อ แกก็เลยให้ไปทำภารกิจร่วมกัน แต่ก็ไม่เคยเจอนะครับ


ถาม แล้วเปลี่ยนจากไม่เชื่อ มาร่วมทำกับเขาได้ยังไง

เปิ้ล : ในโลกนี้ มีทั้งสิ่งที่อธิบา่ยได้และอธิบายไม่ได้เหมือนกัน อย่างเหตุการณ์ที่เจอกับพี่เอ๋ เรื่องฟ้า เรื่องฝน เราถ่ายทำโดยที่เราอยู่ข้างนอก เราเลี่ยงไม่ได้เลย แต่พี่เอ๋สามารถคุยได้ 

เปิ้ล : ที่ได้เห็นกับตาเลยคือที่ บางบัวทอง ครับ ฝนตกเหมือนเป็นไข่ดาว ตกบริเวณที่เราถ่ายทำไม่มีฝนเลย แต่บริเวณรอบๆ เราคือ ฝนตกหนักมากแบบฟ้ารั่ว พี่เอ๋แกบอกว่าแกขอแล้วก่อนที่แกจะเดินทางมาถึง จนเราถ่ายทำเรียบร้อย ฝนตกโครมใหญ่เลย

ถาม ประเด็นดราม่าหากินกับผีรู้สึกอย่างไรบ้าง

เอ๋ เชิญยิ้ม : ก็ยอมรับนะ เพราะว่ามันก็ชัดเจนอยู่แล้ว เราถ่ายเรื่องราวของเขา มีคนกดไลก์เยอะๆ สปอนเซอร์ก็เข้ามา

เอ๋ เชิญยิ้ม : ตอนที่เราได้กลับมาทำงานในวงการ มีละครถ่ายอยู่ 4 วัน เราว่าง 26 วัน เราเลยคิดว่าเราเอาเวลาว่างตรงนั้นสอนธรรมะคนดีกว่า โดยผ่านรายการผี แต่รายการผีก็ต้องสุดด้วยเพราะคนจะได้เข้ามาดูเยอะๆ และขณะที่เขาดู ผมก็จะสอนแฝงธรรมะลงไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว


ถาม สปอนเซอร์เข้าทุกวัน

เอ๋ เชิญยิ้ม : ใช่ครับ เข้าทุกวัน ตอนแรกเราทำอังคารกับเสาร์ ทีนี้เรามีสปอนเซอร์ตัวใหม่เข้ามา เราก็ต้องเพิ่มรายการขึ้น ผมพูดได้เต็มปากเลย ผมไม่ได้ไปลบล้างความเชื่อใคร เพจของผมคือเพจพิสูจน์ มีคือมี ไม่มีคือไม่มี บางที่ที่เขาบอกว่ามีโน้นนี่ ผมไปมาไม่มีอะไรเลย และไม่มีสร้างสถานการณ์ใดๆ

เปิ้ล : เราจะไม่สร้างสถานการณ์ เป็นกฎเหล็กของเรา เราสร้างผีมาหลอกคนทั้งโลกไม่ได้ แต่ละคนไม่เคยเห็นผีถูกไหม เราไม่สามารถที่จะบอกทุกคนว่าผีคืออะไร ไม่มีใครสามารถบอกได้


ถาม เคยมีผีตามกลับมาที่บ้านไหม

เอ๋ เชิญยิ้ม : ตั้งแต่ตอนเริ่มทำเพจเลย เราไปถ่ายแถวๆ วัดสามโคก เขามีหลุมศพอยู่สามหลุม เราเป็นรายการผี เราก็ต้องหาอะไรที่น่ากลัว เราก็เลยคิดกันว่าเราจะถ่ายนี่แหละสามหลุม มีโดนยิงตาย จมน้ำตาย และผู้หญิงผูกคอตายท้อง 7 เดือน ผมไปท่องคาถาปลุกผีด้วย ไปขอสัปเหร่อ ผมก็จะมีสาระว่าการมัดตราสังข์สามเปราะคืออะไร ผมไม่ได้เรียนมา แต่ผมไปสอบถามสัปเหร่อถึงวิธีการทำ และข้อมูลบทสวด ผมไปนั่งท่องก่อนเข้ารายการ พอถ่ายเสร็จ เราต้องเป็นคนตัดสายสิญจน์ที่เราผูก พอตัดปุ๊บ ตัวเราเริ่มชา แล้วผมก็หลอนตัวเอง ไม่รู้ว่ากลัวอะไร พอกลับบ้าน เรานอนอยู่ แล้วเราต้องตื่นมาแล้วเปิดไฟทั้งบ้านเลย เพราะกลัว แล้วพอเรานอน เราก็ฝันว่าผู้หญิงคนหนึ่งยืนมองผมด้วยความโกรธแค้น ผมไม่รู้ว่าผมเก็บไปฝันเองหรือเปล่า แต่ตอนนั้นผมถ่ายมาร้อยกว่าเทปแล้ว ผมนอนแล้วตื่นขึ้นมาเห็นภรรยานอนมองผมอยู่ เขาบอกว่าฝันไม่ดีเลย เห็นผู้หญิงยืนมองเขาอยู่ จากที่เราจิตตกอยู่แล้ว ที่นี้ไปกันใหญ่ เหมือนคนบ้าเลย เพราะฝันดันตรงกับกับภรรยาเลย ตอนเช้าผมไปวัดกับเปิ้ล ไปหาหลวงพ่อ ท่านก็บอกเราว่าเล่นตัวแม่เลย ผมก็อาบน้ำมนต์ แล้วฝังตระกุด ภรรยาเราก็เตือนตลอดว่าพ่อพอเถอะ สิ่งที่เรามองไม่เห็นอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ถ่ายละครก็พอแล้ว เราก็คิดว่าจะเลิกทำเพจแล้ว เราก็จัดเครื่องไปขอขมาชุดใหญ่เลย พอเราทำเสร็จ มันเย็น มันโล่ง ทำให้เราหายกลัว

เอ๋ เชิญยิ้ม : ตอนนั้นเราคิดว่าเราจะเลิกทำเพจแล้ว ตั้งจิตอธิษฐานด้วยการจุดธูป บอกถ้าท่านไม่ต้องการให้ผมมายุ่ง ท่านมาเข้าฝันผม แล้วผมจะทิ้งเพจนี้ทันที แต่ถ้าการที่ผมทำเพจนี้ แล้วนำคำสอนของพระพุทธศาสนามาสอนคนเป็นสิ่งที่ท่านอยากให้ผมทำก็ขอให้งานเข้ามาเป็นการตอบว่าท่านอยากให้ผมทำ พอเราขึ้นรถมา คนติดต่องานมาเลย ผมกับทีมงานงงเลย และยังไม่ทันออกจากประตูวัด ก็มีอีกงานหนึ่งมา ได้รับงานเต็มๆ ทั้งอาทิตย์ ไม่ซ้ำกันด้วย พอเราขมา งานไหลเข้ามาเลย

ถาม การที่เอ๋ตั้งใจที่จะช่วยคนยากไร้ เอ๋ช่วยอย่างไร

เอ๋ เชิญยิ้ม : เริ่มจากเราไปเห็นคนยากจน ผมมีงาน พอมีเงินขึ้นมา เราเห็นอกเห็นใจคนไม่มีเงิน เพราะเราเคยจนมา ผมช่วยได้เท่ากำลังที่เรามี อย่าง ข้าวสาร 4-5 ถุง ปลากระป๋องที่ผมช่วยได้ แล้วก็มีคนเข้ามาขอวีลแชร์ เราก็เป็นตัวกลาง ใครมีก็สามารถนำมาให้ได้ อย่างล่าสุดไปที่โคราช ไปเจอน้องอยู่ 7 คน เขาอยู่กันในบ้านสังกะสี เราก็ยื่นมือไปช่วยโดยใช้เงินของตัวเอง ไปซ่อมบ้าน ทำให้ให้เขาพออยู่ได้ แต่พอมีผู้ใหญ่เห็น เขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วย ตอนนี้น้องๆ ก็ได้บ้านหลังใหม่เลย

เอ๋ เชิญยิ้ม : การที่ผมช่วยเหลือคนด้วยการโพสต์ในเพจ ก็โดนทักหลายๆ ครั้งว่าคำพูดของเรามันแรงเกินไป อาจจะไปกระทบหลายๆ คนเข้า มันก็มีแต่อวตาร (บัญชีที่ไม่ระบุตัวตน) เข้ามาทักเรา ผมจะบอกว่าการที่เราช่วยเหลือตรงนี้ ครบแล้วพอ พอแล้วก็ลบทิ้ง กันคนแชร์ไม่หยุด แล้วก็ชี้แจ้งว่าเงินทุกบาทที่ทุกคนโอนมา เราเอาไปทำอะไรบ้าง ถึงชื่อเพจจะชื่อว่า สัปเหร่อเจอผี แต่ก็เป็นเพจที่แฝงไปด้วยธรรมะ