สาวอดเที่ยว “ภูทับเบิก” เหตุเป็นคนระยอง รีสอร์ตขอคืนห้องหวั่นกระทบท่องเที่ยว (คลิป)

17 ก.ค. 63

จากกรณีที่ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 เข้าไทย โดยไม่ต้องกักตัว ก่อนจะพบว่ามีการไปเที่ยวในบางพื้นที่ของ จ.ระยอง จนส่งผลให้ทั้งจังหวัดได้รับผลกระทบหนัก มีการปิดทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม และโรงเรียน ขณะที่คนซึ่งวางแผนจะไปเที่ยว จ.ระยอง ต่างหวาดระแวง และยกเลิกที่พักไปเกือบทั้งหมด

275818

กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ก.ค.63 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “อุดมพร เจริญมาก” โพสต์ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคน จ.ระยอง หลังจากที่ตั้งใจจองที่พักเพื่อไปเที่ยวภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ แต่เมื่อมีข่าวเรื่องทหารอียิปต์เกิดขึ้น ส่งผลให้ที่พักนั้นขอให้ยกเลิกการเข้าพัก และคืนห้องพัก จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยรู้สึกเห็นใจเจ้าของโพสต์

104464

นางอุดมพร เจริญมาก หรือ ตุ่น อายุ 39 ปี อาชีพชาวสวน ผู้โพสต์ เปิดใจกับอมรินทร์ ทีวี ว่า เมื่อช่วงวันที่ 12 ก.ค. 63 ตนจองที่พักที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ เตรียมไปเที่ยวในวันที่ 30 ก.ค. 63 เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน โดยมีตน สามี พ่อแม่ของตน รวม 4 คน แต่ภายหลังจากที่มีข่าวทหารยียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 แล้วเข้ามาพักที่ จ.ระยอง ตนจึงส่งข้อความเฟซบุ๊กไปสอบถามที่พักในภูทับเบิกว่ายังสามารถเข้าไปพักและเที่ยวตามปกติได้หรือไม่ ปรากฎว่าทางที่พักปฏิเสธให้เข้าพัก ให้มีการยกเลิกห้องพักแล้วจะคืนเงินค่าที่พักที่จองไว้ ราคา 1,800 บาท ให้เต็มจำนวน ซึ่งทางโรงแรมกังวลว่าจะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย และเพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย สุดท้ายตนจึงตัดสินใจยกเลิกห้องพักทั้งหมด แล้วโรงแรมก็โอนเงินคืนให้ทั้งหมดครบถ้วน

937154

ขณะเดียวกัน ตนยอมรับว่าถึงแม้ว่าทางโรงแรมจะพูดคุยด้วยดี แต่ตนก็รู้สึกเสียใจ เสียดายที่ไม่ได้พาครอบครัวไปเที่ยวที่ภูทับเบิกตามที่ตั้งใจไว้ สาเหตุที่ถูกยกเลิกครั้งนี้เพราะตนเป็นคน จ.ระยอง ถึงแม้ว่าตนจะอยู่ต่างอำเภอ ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง ไม่ได้อยู่ใกล้โรงแรมหรือห้างสรรพสินค้า ไม่ได้ติดโควิด อีกทั้งตลอดเวลาที่อยู่บ้านก็ปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันโควิดอย่างดี แต่สุดท้ายด้วยความเป็นคน จ.ระยอง จึงทำให้ไม่สามารถไปเที่ยวได้

"อยากวอนขอคนในสังคมอย่ารังเกียจคนระยอง เพียงเพราะเป็นพื้นที่ที่มีทหารอียิปต์เข้ามา และอยากให้เห็นใจกันมากกว่า"

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส